กกกกก

"รวมกาย เวทนา จิต ให้เป็นหนึ่ง กายก็ดี เวทนาก็ดี จิตก็ดี ยกขึ้นสู่เมือง ขึ้นของ...ไตรลักษณ์ ให้กลมกลืนกัน เป็นเชือกสามเกลียว เป็นเป้าอันเดียวกัน ไม่ต้องแยก ไม่ต้องเรียง ไม่ต้องขยาย เห็นอยู่ ณ.

จิตขณะแรก ตัดสินว่าขณะนั้นอยู่ใน ภพใด เมื่อรู้ที่ส่วนที่1 ความรู้จะแผ่ขยายออกจากทั้งกาย คลุมกาย ห่อหุ้มกาย อยู่เหนือกาย กายตั้งอยู่ในความว่าง เป็นมี สติ สมาธิ “เห็นจิต” ความเห็นอย่างนี้

อายาตนใจ  ครอบคลุม ไม่มีขอบเขต เห็นได้ว่าออกมาจากภายในรูปที่กว้างศอก ยาววา หนาคืบนี้และแผ่ขยายออก อายาตนใจเรียกอีกอย่างคือความรู้สึก เวทนา สุข ทุกข์ อุเบกขา สงบ สว่าง เข้าถึงอายาตนใจด้วย 1.สัมมาส

เห็นในยูทูปเวลาร่างทรงทำสมาธิแล้วเจ้าเข้าจนสั่น คนที่มีอาการโยกเวลาทำสมาธิหรือพวกเจ้าเข้าในศาสนาพุทธอธิบายว่าอะไร? ในพระไตรปิฎกบอกว่าอะไร? ทำไมอาการหลายอย่างที่เกิดในศาสนาพุทธเวลาทำสมาธิจึงถูกมองว่าเ

อยู่ในห้องนี้มาเกือบ7ปี มีคนที่เคยเห็น ฌานสัมมาสมาธิน้อยมาก ฌานสัมมาสมาธิ เป็นหัวใจหลักการภาวนา 1.ฌาน คือสติและสัมปชัญญะ อันเป็นการรู้สัมปชัญญะ คล้ายความรู้สึกตัว แต่เป็นการรู้ ทั้งรู้ทั้งรูปทั้งนาม

1.จิตนั้นไม่ว่าจิตของใคร ประกอบด้วย รูปและนาม เรียกว่าขันธ์5 2.จิตนั้นคือเรา เราที่ไม่มีตัวตนในความเป็นเรา อย่าไปดัดจริตว่า“ไม่มีจิต ” 3..อาณาเขตของจิตนั้น แผ่กว้าง ครอบคลุม รูปทั้งรูปปร

การแสดงอย่างมิติของจิตไม่ใช่เป็นแบบมิติที่3อย่างที่เราเห็น เข้าใจ ในทางภาวนา มิติของจิต รูปแสดงในลักษะกลุ่มพลังงาน ไม่ได้เป็นแท่ง เชื่อมติดกัน มีช่องว่าง จึงยืด ขยาย กระจายออกได้ ตามผู้ใช้งานคือ &ldq

อินทรีย์คือ สติ สมาธิ ปัญญา อินทรีย์สะสมคือ ความรู้สึกขณะแรก“จิตเป็นอย่างไร” อินทรีย์ใช้ด้วนกันกับ สภาวะรู้ สติ เช่น จากเดิม เห็นความกระวนกระวายใจแล้วไม่ดับ กลายเป็นเห็นว่ามีปุ๊บดับปั๊บ

คือ การรู้กาย ผู้รู้กายคือ คือ อินทรีย์ (สติ สมาธิ ปัญญา) เรียกให้สั้นว่า“สติ” อินทรีย์ประกอบด้วย สติ สมาธิ ปัญญา เป็นผู้ดู ผู้รู้ผู้เห็นอาการทางขันธ์5อยู่ ขันธ์5 จึงเป็น ผู้ถูกเห็น เป็น