ภาวะหัวใจโต อาการที่ไม่ควรมองข้าม


หัวใจโต (Cardiomegaly) คือ ภาวะที่หัวใจมีขนาดใหญ่กว่าปกติโดยมีสาเหตุมาจากโรคอื่น ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ตรวจพบ หากพบว่าคนในครอบครัวมีปัจจัยเสี่ยงควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยภาวะหัวใจโตเพื่อรับการรักษาได้ทันท่วงที โดยวิธีการวินิจฉัยที่แม่นยำที่สุด คือ การทำอัลตราซาวด์หัวใจ (Echocardiogram)

สาเหตุของภาวะหัวใจโต

ภาวะความผิดปกติของหัวใจนี้มีสาเหตุมาจากอาการเจ็บป่วย เป็นโรคที่ส่งผลกับหัวใจ หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดความเสี่ยง เมื่อหัวใจเกิดความเสียหายหรือต้องทำงานหนักจะทำให้เกิดภาวะหัวใจโต ดังนี้

- เกิดจากโรคและอาการเจ็บป่วยที่ส่งผลต่อหัวใจ เช่น ความดันโลหิตสูง, กล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ หรือโรคลิ้นหัวใจ เป็นต้น

- โรคอื่นที่เพิ่มความเสี่ยงภาวะหัวใจโต เช่น โรคเบาหวาน, โรคโลหิตจาง หรือมีธาตุเหล็กมากเกินไป

- ผู้ที่มีเครือญาติเคยป่วยเป็นภาวะหัวใจโต หรือเคยป่วยเป็นโรคด้านหัวใจ

- ผู้ที่สูบบุหรี่, ดื่มแอลกอฮอล์ หรือใช้สารเสพติด

- คนในกลุ่มผู้สูงอายุจะยิ่งเสี่ยงภาวะหัวใจโต

อาการของภาวะหัวใจโต

ปกติแล้วอาการของภาวะหัวใจโตในช่วงระยะแรกมักไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมา แต่เมื่อเกิดภาวะหัวใจโตแล้วส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจจะสามารถแสดงอาการที่เป็นจุดสังเกต ได้แก่

- มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ, ไม่สม่ำเสมอ หรือใจสั่น

- รู้สึกเหนื่อย, หายใจหอบลำบาก, แน่นหน้าอก

- น้ำหนักตัวขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล, ขาบวมขึ้น

- มีอาการไอบ่อยครั้งตอนนอน

ภาวะแทรกซ้อนของภาวะหัวใจโต

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นมีอยู่หลายแบบ ล้วนแล้วแต่อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ เช่น หัวใจล้มเหลว, หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หรือStroke เป็นต้น ซึ่งภาวะแทรกซ้อนจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความเสียหายของหัวใจตามจุดต่าง ๆ รวมไปถึงสาเหตุของการเกิดภาวะหัวใจโตด้วย

การวินิจฉัยภาวะหัวใจโต

แพทย์จะทำการซักถามประวัติและอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหัวใจ ประกอบกับการตรวจวินิจฉัยการทำงานของหัวใจเพื่อหาความผิดปกติที่สามารถบ่งบอกถึงความเสี่ยงภาวะหัวใจโต สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) เพื่อบันทึกคลื่นไฟฟ้าของหัวใจ ทำให้ทราบความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหัวใจได้

- ตรวจเอกซเรย์ (X-ray) เพื่อใช้วินิจฉัยขนาดของหัวใจว่ามีความผิดปกติหรือใหญ่ขึ้นหรือไม่

- ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echo) คลื่นความถี่สูงสามารถทำให้แพทย์เห็นลักษณะขนาดของหัวใจ รวมถึงลักษณะของกล้ามเนื้อหัวใจ และหาสาเหตุเบื้องต้นได้แม่นยำที่สุด

การรักษาภาวะหัวใจโต

- ดูแลตนเองระหว่างการรักษา สำหรับการดูแลตนเองระหว่างทำการรักษาสามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมันหรือของทอด, เลี่ยงแอลกอฮอล์, ดูแลเรื่องน้ำหนักและความดันโลหิต นอกจากนี้ควรให้เวลาพักผ่อนกับร่างกายให้เพียงพอ และปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีออกกำลังกายให้เหมาะสม

- รักษาโดยการใช้ยา ในบางกรณีแพทย์จะใช้การจ่ายยาเพื่อช่วยในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการด้านหัวใจ เช่น ผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจมีความผิดปกติ เป็นต้น

- รักษาด้วยการผ่าตัด วิธีการผ่าตัดจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค เช่น หากเกิดจากโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ สามารถรักษาได้ด้วยการทำบอลลูนหรือผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดหัวใจ (การผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ) หรือหากมีสาเหตุจากลิ้นหัวใจจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัดซ่อมแซมลิ้นหัวใจ หรือผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ เป็นต้น

การป้องกันภาวะหัวใจโต

หากพบว่ามีคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคที่เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะหัวใจโตสามารถทำให้เพิ่มความเสี่ยงได้ จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหากพบโรคดังกล่าวจะได้รักษาได้ทันก่อนเกิดภาวะหัวใจโต นอกจากนี้ยังสามารถปรับพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตเพื่อป้องกันภาวะร้ายนี้ ได้แก่

- เลี่ยงอาหารที่ทำให้อ้วน หรืออาหารที่ทำให้ร่างกายมีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง

- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์, การสูบบุหรี่ และสารเสพติด

หากเราสามารถป้องกันหรือลดความเสี่ยงโรคร้ายด้วยการดูแลสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ จะสามารถลดโอกาสเกิดภาวะหัวใจโตได้อย่างดีแน่นอน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่