“ลิซ่า ภคมน” สส.พรรคประชาชน ตั้งคำถาม ประเทศไทยมีนายกฯ ชื่อ “แพทองธาร” หรือไม่ หลังไม่ตอบปม “ไทย-กัมพูชา” ทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล บอกสุดท้ายก็เป็นแค่ปลัดประเทศ
.
3 มิ.ย. 2568 น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน โพสต์ X กรณี นส.แพทองธาร ชินวัตร หนีตอบสื่อ ประเด็นปัญหาชายแดน ระหว่างประเทศไทย และกัมพูชา ว่า “ไม่รู้คำตอบ ไม่มั่นใจ ท่านก็ควรเตรียมตัวมา มันประเมินได้อยู่แล้วว่าสื่อจะถามอะไร การไม่ตอบคำถามสื่อ ผลลัพธ์ไม่ใช่ว่าสื่อไม่ได้ข่าว แต่การที่นายกรัฐมนตรีไม่ตอบสื่อมันคือการทำลายความเชื่อมั่นของรัฐบาล ในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญกับปัญหา ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม คนเป็นผู้นำต้องมีคำตอบ แนวทาง และทางออก”

.

น.ส.ภคมน ระบุว่า “ทุกปัญหามีเจ้ากระทรวง มีรองนายกฯ ที่รับผิดชอบก็จริง แต่คนเป็นนายกฯ จะเลี่ยงไม่พูดประเด็นปัญหาเลยไม่ได้ ถามกันตรงๆ ทุกวันนี้คุณคิดว่าประชาชนเขารู้สึกว่าประเทศนี้มีนายกฯ ชื่อแพทองธารมั้ย ?? หากยังสร้างความเชื่อมั่นอะไรไม่ได้แบบนี้สุดท้ายบทบาทท่านก็แค่ปลัดประเทศ”

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุ ว่า

.

.
วันที่ 3 มิถุนายน สหัสวัต คุ้มคง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชลบุรี เขต 7 พรรคประชาชน เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามตรวจสอบกรณีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จัดซื้ออาคาร SKYY9 วงเงินประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการดำเนินการในช่วงที่สุชาติ ชมกลิ่น ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

.

สหัสวัตระบุว่า จากการรวบรวมข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้อง การอภิปรายในสภาฯ และการทำงานร่วมกับทีมตรวจสอบ พบว่ามีประเด็นที่ควรตั้งข้อสังเกตและตรวจสอบเพิ่มเติมในหลายจุด เช่น กระบวนการอนุมัติที่ดำเนินการในช่วงเวลาค่อนข้างเร่งด่วน ราคาที่จัดซื้อซึ่งอาจสูงเกินกว่าราคาตลาดในพื้นที่ใกล้เคียง การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะซึ่งอาจยังไม่เพียงพอ และข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอนการเสนอขายที่ควรมีการตรวจสอบโดยองค์กรอิสระ

.

สหัสวัตเน้นย้ำว่า การดำเนินการจัดซื้อดังกล่าวเกี่ยวข้องโดยตรงกับ “เงินของผู้ประกันตน” ซึ่งเป็นเงินที่สมทบจากลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดูแลสิทธิขั้นพื้นฐาน เช่น การรักษาพยาบาล การว่างงาน การคลอดบุตร และบำเหน็จบำนาญในวัยเกษียณ ไม่ใช่เพื่อการลงทุนที่อาจขาดความโปร่งใสหรือมีความเสี่ยงต่อความเสียหายของกองทุน

.

ทั้งนี้ หลังจากที่มีการอภิปรายเรื่องดังกล่าวในรัฐสภา พร้อมการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ สุชาติ ชมกลิ่น ได้ยื่นฟ้องตนและรักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพฯ เขต 28 พรรคประชาชน โดยกล่าวหาว่ามีการหมิ่นประมาทและเรียกร้องค่าเสียหาย 50 ล้านบาท

.

สหัสวัตยืนยันว่า การตั้งคำถามและการตรวจสอบกระบวนการใช้งบประมาณของหน่วยงานภาครัฐรวมถึงทรัพย์สินของประชาชน เป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของผู้แทนราษฎร และการดำเนินการครั้งนี้มุ่งเน้นเพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองหรือเพื่อพุ่งเป้าทำลายใครเป็นการส่วนตัว

.

“ผมจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบอย่างเป็นทางการในทุกขั้นตอน โดยให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดได้รับการพิจารณาจากองค์กรอิสระ และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง” สหัสวัตกล่าว

.

ท้ายที่สุดสหัสวัตย้ำว่า ระบบประกันสังคมของไทยกำลังเผชิญปัญหาอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากหนี้สะสมที่ภาครัฐค้างจ่ายกองทุน และข้อกังวลด้านธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ หากไม่มีการตรวจสอบที่รอบคอบและโปร่งใส อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิทธิของผู้ประกันตนในอนาคต

.

พ่อค้าแม่ค้าโอด ฝนตกทำผลผลิตน้อย ราคาแพง ซ้ำสู้ผักนำเข้าไม่ได้ โดยเฉพาะจีน-เวียดนาม เหตุราคาถูกกว่า วอนรัฐบาลควบคุม หลังเข้ามาตีตลาดผักแทบทุกอย่าง ทำเกษตรกรเดือดร้อน
.
วันนี้ (3 มิถุนายน 2568) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาผักสดในตลาดสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่า แม่ค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาดต่างบ่นกันว่าข้าวของทุกอย่างแพงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน ผักบางชนิดมีการปรับราคาสูงขึ้น อย่างเช่น หอม ผักชี ซึ่งตลาดผู้บริโภคมีความต้องการของสูง แต่เนื่องจากฝนตกบ่อย ทำให้ผักช้ำ ผลผลิตจึงมีน้อย ราคาจึงปรับสูงขึ้นตามกลไกตลาด

.

นายสมชาย แก้วโสด อายุ 47 ปี พ่อค้าขายผักรายหนึ่ง เปิดเผยว่า สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ผู้ค้าก็แย่ ผู้บริโภคก็แย่ ไม่มีเงินซื้อ แต่ก่อนขายดิบขายดี แต่ตอนนี้รายได้หายไปเกือบครึ่ง พอได้กินได้ใช้เท่านั้น ยังดีที่ช่วงนี้โรงเรียนเปิดเทอม ทำให้มีแม่ครัวมาหาซื้อผักไปทำอาหารกลางวันจำนวนมากให้กับเด็กนักเรียน ถ้าเป็นช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา ก็แย่ ขายผักได้น้อย อยากให้รัฐบาลทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นโดยเร็ว

.

นางสัมฤทธิ์ นิดใหม่ อายุ 30 ปี แม่ค้าขายผักอีกราย เปิดเผยว่า เธอขายผักทุกชนิดมากว่า 30 ปีแล้ว ตอนนี้ผักจะค่อนข้างแพงเพราะโดนฝน ผลผลิตเสียหายมาก มีผลผลิตมาขายน้อย แต่ก็สู้ผักที่นำเข้ามาจากประเทศไม่ได้ โดยเฉพาะผักหลายชนิดจากประเทศจีน และประเทศเวียดนามที่มาตีตลาดในไทย ราคาถูกกว่าผักบ้านเรา อยากให้รัฐบาลควบคุมสินค้าพืชผักที่นำเข้าจากต่างประเทศด้วย อย่าให้มาตีตลาดจนผักในประเทศเราขายไม่ออก อาทิ ผักชี พริก ผักกาด กะหล่ำปลี และหัวไชเท้า เป็นต้น พืชผักพวกนี้เข้ามาตีตลาดผักไทยแทบทุกอย่าง แถมราคาขายยังต่ำกว่าด้วย ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างมาก ขายผักไม่ค่อยได้ ทั้งๆ ที่ต้นทุนการผลิตก็สูง ค่าปุ๋ย ค่ายาแพง แต่กลับขายผลผลิตไม่ได้ จึงอยากให้รัฐบาลควบคุมพืชผักนำเข้า อย่าให้มาตีตลาดจนเกษตรกรคนไทยทำมาหากินไม่ได้