ชาวเชียงใหม่ เผย ระบบเตือนภัยช้าเป็นชั่วโมง หลังแผ่นดินไหว ขนาด 4.5
.
.
จากกรณีเมื่อวาน(2 มิถุนายน)เกิดเหตุแผ่นดินไหว ใน จ. เชียงใหม่ แรงขนาด 4.5 ลึก 1 กิโลเมตร รับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ไกลถึงจังหวัดใกล้เคียง ขณะที่มีประชาชนหลายพื้นที่แจ้งว่า ระบบเตือนภัย Cell Broadcast แจ้งเตือนล่าช้า บางคนช้าถึง 1 ชั่วโมง
.
กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า แผ่นดินไหวเมื่อวานเกิดขึ้นเวลา 14:07 น. ที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึกจากผิวดิน 1 กิโลเมตร เกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทาและได้รับแจ้งผลกระทบการสั่นไหวบริเวณ จังหวัด เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน
.
ประชาชนแจ้งรับรู้แรงสั่นสะเทือน เช่น สั่นสะเทือนเล็กน้อย นอนในที่นอน รู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือน รู้สึกสั่นไหว บ้านขยับ บ้านสั่น บางรายบอกรู้สึกเหมือนรถบรรทุกหนักวิ่งผ่าน หรือรู้สึกโคลงๆ
.
หลังเกิดแผ่นดินไหว ประชาชนบางส่วนได้รับการ แจ้งเตือนจากระบบ Cell Broadcast แต่หลายคนบอกว่า แจ้งเตือนช้าไปประมาณ 20 นาที ขณะที่บางคนบอกว่า ได้รับการแจ้งเตือนช้าถึง 1 ชั่วโมง บางคนบอกว่าไม่ได้รับการแจ้งเตือนแต่อย่างใด
.
โดยประชาชนชาวเชียงใหม่ในเขตอำเภอเมือง ที่รับการแจ้งเตือนที่นั่งอยู่ภายในร้านกาแฟต่างพากันตกใจเมื่อระบบการแจ้งเตือนดังพร้อมกันหลายคน แต่ไม่ได้รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนมากนักนอกจากคนที่อยู่บนอาคารสูงบางแห่งแต่เป็นแรงสั่งสะเทือนเล็กน้อยเท่านั้นไปฟังประชาชนบางส่วนที่อัดคลิปวิจารณ์เรื่องนี้กัน
.
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ สั่งการให้ทางอำเภอพร้าว และในอำเภอข้างเคียง เข้าตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน ความมั่นคงแข็งแรงของบ้านเรือน โครงสร้างพื้นฐาน และเตรียมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือทันทีซึ่งยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บแล้วเสียชีวิตโครงสร้างพื้นฐาน ท่าอากาศยาน ระบบขนส่งมวลชน ระบบราง ยังไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนเขื่อนสำคัญ 2 แห่ง คือ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อำเภอแม่แตง และเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด ไม่ได้รับผลกระทบเช่นกัน
.
.
วิโรจน์ เห็นด้วย เจรจากัมพูชาอย่างสันติ ชื่นชม มทภ.2 ไม่ประสงค์สู้รบ แนะอดกลั้นต่อคำยั่วยุ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5212430
วิโรจน์ เห็นด้วย เจรจากัมพูชาอย่างสันติ ชื่นชม มทภ.2 ไม่ประสงค์สู้รบ แต่พร้อมรบอย่างไม่หวาดหวั่น แนะอดกลั้นต่อคำยั่วยุ เลี่ยงใช้กำลังอย่างถึงที่สุด
.
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร ระบุถึงความพร้อมรบของกองทัพต่อกรณีชายแดนข่องบก ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ ชายแดนไทย-กัมพูชา ความว่า
.
ความพร้อมรบของกองทัพ อย่างอดทนอดกลั้น และการตอบโต้ที่ชอบธรรม จะกดดันให้เกิดการเจรจา
.
สำหรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก ดังนั้น การให้ความคิดเห็นในแง่มุมใดๆ จำเป็นที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะอาจจะถูกอีกฝ่ายหนึ่งหยิบยกขึ้นมาใช้ขยายข้อพิพาท หรือเอามาใช้เป็นเงื่อนไขในการเจรจาที่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบในอนาคตได้
ในภาพรวม จนถึงปัจจุบัน กมธ.ทหาร ยืนยันว่า การปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ทำได้อย่างเหมาะสมแล้ว มีความเข้มแข็งในการปกป้องอธิปไตยของชาติ โดยที่ยังเปิดทางในการเจรจาด้วยสันติวิธี ไม่ได้มีท่าทีที่ประสงค์จะรบ แต่ก็พร้อมรบอย่างไม่หวาดหวั่น
.
ผมเข้าใจความจำเป็นในการสงวนท่าทีของรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และ รมว.ต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ควรชี้แจงกับประชาชนให้ได้รับทราบว่ารัฐบาลไม่ได้ละเลยกับปัญหาดังกล่าว ยังคงประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และพร้อมดำเนินมาตรการที่ได้สัดส่วน เป็นไปตามหลักสากล ที่เหมาะกับสถานการณ์ อย่างทันท่วงที หากถูกรุกล้ำอธิปไตย
.
ข้อพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เราจำเป็นต้องรู้เท่าทันว่าส่วนหนึ่งมาจากอีกฝ่ายที่พยายามหยิบยกเอาเรื่องเขตแดนมาสร้างกระแสชาตินิยม เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง
.
ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ท่าทีที่เข้มแข็งของเรา และมาตรการตอบโต้ที่ชอบธรรม เหมาะสมต่อสถานการณ์ จะสามารถทำให้อีกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการเจรจาได้ในที่สุด
.
เบื้องต้นผมเห็นด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศควรเร่งประสานจัดการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม หรือ JBC (Thai-Cambodian Joint Boundary Commission) เพื่อเจรจาหาทางออกร่วมกันอย่างสันติ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศ
.
ผมคิดว่า การที่กัมพูชาท้าทาย ด้วยการที่จะนำเอาข้อพิพาทที่ช่องบก ไปพิจารณาที่ศาลโลก หรือ ศาล ICJ (International Court of Justice) ผมประเมินว่าเป็นการสร้างประเด็นเพื่อให้ตนดูมีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้นเท่านั้น เพราะการพิจารณาที่ศาลโลกต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน ซึ่งหากทำเช่นนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศอย่างแสนสาหัส
.
ที่สำคัญการตัดสินของศาลโลกอาจทำให้ไทยและกัมพูชาต่างฝ่ายต่างได้และเสียคนละส่วน ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงผลลัพธ์สุทธิแล้ว อาจจะทำให้ทั้งไทยและกัมพูชาเสียผลประโยชน์ร่วมกันอย่างมหาศาล เป็นการยุติข้อพิพาทที่ได้ไม่คุ้มเสีย
.
ผมคิดว่า เราจำเป็นต้องอดทนอดกลั้นต่อการท้าทายยั่วยุ ซึ่งอีกฝ่ายหมายจะให้เราใช้กำลัง เพื่อที่เขาจะได้หยิบยกมาเป็นข้ออ้างในการขยายความขัดแย้ง ผมเชื่อว่าในที่สุดถ้าจำเป็นต้องรบ ด้วยความเข้มแข็งของกองทัพ เราสามารถรบชนะได้แน่ๆ แต่กว่าจะไปถึงขั้นนั้น เราจำเป็นต้องใช้สันติวิธีตามหลักสากล เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้กำลังอย่างถึงที่สุดเสียก่อน เพื่อความชอบธรรมในการใช้กำลัง ในกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วจริงๆ
.
จะมีประโยชน์อะไรหากชัยชนะที่ได้มา ต้องแลกกับความสูญเสีย และหายนะทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชนที่อยู่อาศัยตามแนวชายแดน
.
https://www.facebook.com/wirojlak/posts/1213979777185241
.
.
"ส.ส.กัณวีร์" โพสต์เดือด! ลั่นไม่ยอมสูญเสียอธิปไตย แม้ 1 ตารางมิลลิเมตรเดียว
https://siamrath.co.th/n/626419
.
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.68 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่าน "กัณวีร์ สืบแสง Kannavee Suebsang" ระบุว่า
.
"เปิดหัวให้ทราบ แม้ 1 ตารางมิลลิเมตรเดียวจะไม่ยอมสูญเสีย อธิปไตยเหนือดินแดนไทยจะไม่ยอมให้ใครมาพรากไป ผมคนนี้จะไม่ยอม รัฐบาลอ่อนแอ ก็อ่อนไป ฝ่ายนิติบัญญัติต้องเข้มแข็ง เป็นกำลังใจให้พี่น้องทัพภาค 2 ทุกนายครับ"
.
JJNY : ระบบเตือนภัยช้าเป็นชั่วโมง│วิโรจน์ เห็นด้วย เจรจากัมพูชา│"กัณวีร์"ลั่นไม่ยอมสูญเสียอธิปไตย│ออสเตรเลียขึ้นค่าแรง
ประชาชนแจ้งรับรู้แรงสั่นสะเทือน เช่น สั่นสะเทือนเล็กน้อย นอนในที่นอน รู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือน รู้สึกสั่นไหว บ้านขยับ บ้านสั่น บางรายบอกรู้สึกเหมือนรถบรรทุกหนักวิ่งผ่าน หรือรู้สึกโคลงๆ
โดยประชาชนชาวเชียงใหม่ในเขตอำเภอเมือง ที่รับการแจ้งเตือนที่นั่งอยู่ภายในร้านกาแฟต่างพากันตกใจเมื่อระบบการแจ้งเตือนดังพร้อมกันหลายคน แต่ไม่ได้รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนมากนักนอกจากคนที่อยู่บนอาคารสูงบางแห่งแต่เป็นแรงสั่งสะเทือนเล็กน้อยเท่านั้นไปฟังประชาชนบางส่วนที่อัดคลิปวิจารณ์เรื่องนี้กัน
.
วิโรจน์ เห็นด้วย เจรจากัมพูชาอย่างสันติ ชื่นชม มทภ.2 ไม่ประสงค์สู้รบ แนะอดกลั้นต่อคำยั่วยุ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5212430
https://www.facebook.com/wirojlak/posts/1213979777185241
.
.