อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของไทยในยุคอีคอมเมิร์ซเฟื่องฟูกำลังเผชิญการแข่งขันอย่างเข้มข้น

อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของไทยในยุคอีคอมเมิร์ซเฟื่องฟูกำลังเผชิญการแข่งขันอย่างเข้มข้น ผู้เล่นในตลาดทั้งรายเก่าและรายใหม่ ต่างเร่งลงทุนขยายบริการ จัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม และห้ำหั่นด้วยสงครามราคา แต่คำถามสำคัญคือ ใคร “ได้กำไร” จากเกมนี้ และใคร “ยังขาดทุน” ไม่หยุดหย่อน?

- KEX (Kerry Express) ขาดทุนต่อเนื่อง และยิ่งขาดทุนหนักขึ้นในปี 67 สูงถึง -5,911 ล้านบาท

- Flash Express แม้จะลดการขาดทุนลงได้ในปี 66 แต่ยังไม่มีการประกาศผลประกอบการปี 67

- ไปรษณีย์ไทย พลิกกลับมาทำกำไรได้เล็กน้อยในปี 66 และ 67 หลังจากขาดทุนมหาศาลในปี 65

- J&T Express เคยทำกำไรสูงในปี 65 แต่ขาดทุนอย่างหนักในปี 66 ก่อนกลับมาทำกำไรอีกครั้งในปี 67

- SPX Express (Shopee Express) ทำกำไรต่อเนื่องตลอด 3 ปี แม้จะมีความผันผวน

- Lazada Express เป็นบริษัทเดียวที่มีกำไรอย่างมั่นคงตลอด 3 ปีติดต่อกัน

- Best Express ยังขาดทุนต่อเนื่องและยังไม่เปิดเผยผลปีล่าสุด

การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโลจิสติกส์ออนไลน์ของไทย โดยเฉพาะจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ ทำให้หลายบริษัทต้องเร่งลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความแตกต่างในการให้บริการ บริษัทที่มีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหนุนหลังอย่าง Lazada Express และ Shopee Express จึงได้เปรียบเชิงโครงสร้าง ขณะที่บริษัทที่ดำเนินงานเดี่ยว เช่น KEX และ Flash Express ต้องแบกรับต้นทุนการดำเนินงานสูงกว่า

หากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป ผู้เล่นบางรายอาจจำเป็นต้องปรับโมเดลธุรกิจอย่างเร่งด่วน หรือเผชิญความเสี่ยงด้านการเงินในอนาคต

อ้างอิง: https://datawarehouse.dbd.go.th/index, https://investor.th.kex-express.com/th/downloads/financial-statements

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่