การเพ่งกสิณแล้ว ไม่เห็นภาพกสิณ เกิดจากอะไร
ผมเคยคุยกับ สมาชิกท่านหนึ่ง ท่านแปลกใจว่าทำไม การเพ่งกสิณจึงไม่เห็นทุกคน ก่อนตีความเรื่องนี้ ผมขออธิบายให้ผู้สนใจรากหญ้า ระดับเดียวกับผมก่อน
การเพ่งกสิณ ถ้าท่านสนใจฝึกตามเวบนี้เลย ตรงๆดีมากเข้าใจง่าย
https://www.youtube.com/watch?v=TE0otK1u6MQ&t=855s&ab_channel=FaithForLife
วิธีการเพ่งกสิณ ตัวอย่างเช่นถ้าเราจะเพ่งกสิณสีแดง ที่ผมทำตัดฟิวเจอร์บอร์ดสีแดง เป็นวงกลม ขนาดเท่า หนึ่งคืบ กับอีกฝ่ามือ ตัดกระดาษสีแดง แปะทับเพื่อให้สีมันเรียบ วางบนฉากหลังสี ขาว แล้วเพ่ง แล้วหลับตา ก็จะเห็น ภาพวงกลมในใจเรา จากที่เพ่งสีแดง เป็นสีเขียวเหมือน พายน้ำนาฬิกาสมัยก่อน รายละเอียด ลองดูในยูทูป จะอธิบายได้ดีมากมีตัวอย่างพร้อมด้วย
ผมเคยลองให้คนอื่น มาเพ่งกสิณ มีบางคนมองไม่เห็นภาพกสิณในใจ เป็นเพราะอะไร
หลักการของกสิณ ก็คือ การสร้างสติ จาก การระลึกภาพที่เพิ่งมองก่อนหน้านั้น เพราะการสร้างสมาธิ ทุกชนิด ต้องมาจากการนำเอาสติ ที่เกิดขึ้นกับสิ่งไดสิ่งหนึ่ง อย่างต่อเนื่อง จนจิต เป็น เอกคตาจิต เช่นการสร้างสมาธิจากอานาปานสติ เราก็เอาสติ ที่จิตระลึกได้ว่า ลมหายใจนี้เข้า ลมหายใจนี้ออก อย่างต่อเนื่อง
เช่น เมื่อเราเพ่งภาพวงกลมสีแดงเราก็ต้องบังคับให้สมองมันจำภาพนั้น ไม่ใช่ดูเฉยๆ ต้องพยายามจำ พอหลับตา เรียบระลึกถึงภาพนั้นทันที นึกภาพนั้นในใจที่เพิ่งจะจำหมาดๆ ถ้ายังไม่เห็นดูซ้ำอีก
การที่มองไม่เห็นเพราะ เกิดจาก ไม่พยายามจำภาพที่เพ่ง และเมื่อหลับตาไม่พยายามเรียก หน่วยความจำต่อภาพนั้น ถ้าสามารถเห็นแล้ว ครั้งแรก ต้องฝึก หลายๆครั้ง ให้คล่องให้เป็นวสี เหมือนตำราที่ว่า ถ้าใครได้ฌาน ครั้งแรก ให้ฝึก เข้าๆ ออกๆ ฝึกเป็นวสี พอมาทำครั้งหน้าก็ง่ายนิดเดียว
การเพ่งกสิณ จิตจะมีสติ คือระลึกได้ถึงภาพที่เพ่งนั้น ตาบที่ภาพปรากฏที่ใจ ยังไม่เลือนหายไป จิตก็มีสมมาธิตราบเท่านั้น
การทำสมาธิด้วยกสิณ นั้น จะมีแต่สติ ไม่มีสัมปชัญญะ มีผู้แนะนำว่า ให้ฝึก อานาปานสติ ที่มีทั้งสติ และสัมปชัญญะ ให้เป็นก่อน เมื่อ ทำสมาธิด้วย กสิณ ก็จะมีไฟส่องทางในที่มืด
การที่จิตมีสมาธิระดับลึก ก็จะเหมือน คนนอนหลับจิตปรุงแต่ง เห็นภาพต่างๆ แต่ถ้ามี สัมปชัญญะ ก็จะเข้าใจไม่ผิด ว่านิมิตทั้งหลายล้วนไม่จริง จะได้ไม่เป็นผีบ้า
การเพ่งกสิณเป็นสิ่งดี พอจิตเป็นสมาธิ ก็ทำอานาปานสติควบคู่ไปด้วยกัน
สุดท้าย เมื่อจิต มีสติ และสัมปชัญญะ อย่าลืม เข้าสู่โหมด น้อมจิต จะได้เป็นวิปัสสนาภาวนา ได้ไม่เสียของครับ
ส่วนท่านที่ต้องการมีฤทธิ์ ก็ต้อง ลองกสิณสีก่อน จนสามารถ ทำอนุภาพปฏิภาค ได้แล้วก็มา เปลี่ยนเป็นกสิณดิน จะได้เหาะเหินได้ ส่วนผมเอาแค่ มีจิตเป็นสมาธิแค่ ชั่ว ลมหายใจ 7 ครั้ง ก็ยากอยู่
นักปราชสมัยก่อน ก็ เก่งนะครับ การเพ่งกสิณ สิ่งที่เพ่งต้อง เป็นวงกลม และราบเรียบ เพราะจิตมันคงจำได้ง่าย ถ้าเรามีแฟนสวย เรานั่งเพ่งใบหน้า แล้วหลับตา มันจะไม่เห็นหรอกครับ เป็นรู้หน้าคนอย่างนี้ ไม่มีทาง ที่ชายหนุ่มบอกสาวว่า เวลานอน ก็เห็นหน้าเธอลอยอยุ่ มันเป็นคำโม้ชะมากกว่า
ในภาพกสิณเขาไม่ให้ดวงกสิณที่จะเพ่งไม่ให้มีจุดด่างพร้อยด้วยซ้ำ ในพระสูตร กล่าวถึงพระพุทธองค์ใช้กสิณได้อย่าง วิเศษ สามารถใช้กสิณไฟเผายอดตาล ได้
จิตที่ทรงฌาน สามารถบรรลุธรรมได้ง่ายเพราะ ง่ายและทรงพลังต่อการน้อมจิต
การได้เพียงปฐมฌาน ความสุขจากปิติ มันจะซ่าบซ่าน ทั่วร่างกาย เป็นความสุขยิ่ง นักปราชญ์สมัยก่อนกล่าวว่า ความได้สุขทางกามอันยิ่งยวด ยังเป็นแค่ 1 ใน 16 ของความสุขของปฐมฌาน
แต่การบรรลุธรรม ก็เป็นไปเพื่อ การเบื่อหน่ายคลายกำหนัดในจิต ดังนั้น การทำฌาน ในทางพุทธ จึงมีเป้าหมายเดียวคือการบรรลุธรรม
ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็ขอบคุณครับ
คอมเม้นท์ได้ก็ยินดีครับ
แต่ห้ามมาด้อยค่ากัน เพราะ ผมสั่งให้ผู้ช่วย AI กรองให้แล้ว 55
การเพ่งกสิณแล้ว ไม่เห็นภาพกสิณ เกิดจากอะไร
ผมเคยคุยกับ สมาชิกท่านหนึ่ง ท่านแปลกใจว่าทำไม การเพ่งกสิณจึงไม่เห็นทุกคน ก่อนตีความเรื่องนี้ ผมขออธิบายให้ผู้สนใจรากหญ้า ระดับเดียวกับผมก่อน
การเพ่งกสิณ ถ้าท่านสนใจฝึกตามเวบนี้เลย ตรงๆดีมากเข้าใจง่าย
https://www.youtube.com/watch?v=TE0otK1u6MQ&t=855s&ab_channel=FaithForLife
วิธีการเพ่งกสิณ ตัวอย่างเช่นถ้าเราจะเพ่งกสิณสีแดง ที่ผมทำตัดฟิวเจอร์บอร์ดสีแดง เป็นวงกลม ขนาดเท่า หนึ่งคืบ กับอีกฝ่ามือ ตัดกระดาษสีแดง แปะทับเพื่อให้สีมันเรียบ วางบนฉากหลังสี ขาว แล้วเพ่ง แล้วหลับตา ก็จะเห็น ภาพวงกลมในใจเรา จากที่เพ่งสีแดง เป็นสีเขียวเหมือน พายน้ำนาฬิกาสมัยก่อน รายละเอียด ลองดูในยูทูป จะอธิบายได้ดีมากมีตัวอย่างพร้อมด้วย
ผมเคยลองให้คนอื่น มาเพ่งกสิณ มีบางคนมองไม่เห็นภาพกสิณในใจ เป็นเพราะอะไร
หลักการของกสิณ ก็คือ การสร้างสติ จาก การระลึกภาพที่เพิ่งมองก่อนหน้านั้น เพราะการสร้างสมาธิ ทุกชนิด ต้องมาจากการนำเอาสติ ที่เกิดขึ้นกับสิ่งไดสิ่งหนึ่ง อย่างต่อเนื่อง จนจิต เป็น เอกคตาจิต เช่นการสร้างสมาธิจากอานาปานสติ เราก็เอาสติ ที่จิตระลึกได้ว่า ลมหายใจนี้เข้า ลมหายใจนี้ออก อย่างต่อเนื่อง
เช่น เมื่อเราเพ่งภาพวงกลมสีแดงเราก็ต้องบังคับให้สมองมันจำภาพนั้น ไม่ใช่ดูเฉยๆ ต้องพยายามจำ พอหลับตา เรียบระลึกถึงภาพนั้นทันที นึกภาพนั้นในใจที่เพิ่งจะจำหมาดๆ ถ้ายังไม่เห็นดูซ้ำอีก
การที่มองไม่เห็นเพราะ เกิดจาก ไม่พยายามจำภาพที่เพ่ง และเมื่อหลับตาไม่พยายามเรียก หน่วยความจำต่อภาพนั้น ถ้าสามารถเห็นแล้ว ครั้งแรก ต้องฝึก หลายๆครั้ง ให้คล่องให้เป็นวสี เหมือนตำราที่ว่า ถ้าใครได้ฌาน ครั้งแรก ให้ฝึก เข้าๆ ออกๆ ฝึกเป็นวสี พอมาทำครั้งหน้าก็ง่ายนิดเดียว
การเพ่งกสิณ จิตจะมีสติ คือระลึกได้ถึงภาพที่เพ่งนั้น ตาบที่ภาพปรากฏที่ใจ ยังไม่เลือนหายไป จิตก็มีสมมาธิตราบเท่านั้น
การทำสมาธิด้วยกสิณ นั้น จะมีแต่สติ ไม่มีสัมปชัญญะ มีผู้แนะนำว่า ให้ฝึก อานาปานสติ ที่มีทั้งสติ และสัมปชัญญะ ให้เป็นก่อน เมื่อ ทำสมาธิด้วย กสิณ ก็จะมีไฟส่องทางในที่มืด
การที่จิตมีสมาธิระดับลึก ก็จะเหมือน คนนอนหลับจิตปรุงแต่ง เห็นภาพต่างๆ แต่ถ้ามี สัมปชัญญะ ก็จะเข้าใจไม่ผิด ว่านิมิตทั้งหลายล้วนไม่จริง จะได้ไม่เป็นผีบ้า
การเพ่งกสิณเป็นสิ่งดี พอจิตเป็นสมาธิ ก็ทำอานาปานสติควบคู่ไปด้วยกัน
สุดท้าย เมื่อจิต มีสติ และสัมปชัญญะ อย่าลืม เข้าสู่โหมด น้อมจิต จะได้เป็นวิปัสสนาภาวนา ได้ไม่เสียของครับ
ส่วนท่านที่ต้องการมีฤทธิ์ ก็ต้อง ลองกสิณสีก่อน จนสามารถ ทำอนุภาพปฏิภาค ได้แล้วก็มา เปลี่ยนเป็นกสิณดิน จะได้เหาะเหินได้ ส่วนผมเอาแค่ มีจิตเป็นสมาธิแค่ ชั่ว ลมหายใจ 7 ครั้ง ก็ยากอยู่
นักปราชสมัยก่อน ก็ เก่งนะครับ การเพ่งกสิณ สิ่งที่เพ่งต้อง เป็นวงกลม และราบเรียบ เพราะจิตมันคงจำได้ง่าย ถ้าเรามีแฟนสวย เรานั่งเพ่งใบหน้า แล้วหลับตา มันจะไม่เห็นหรอกครับ เป็นรู้หน้าคนอย่างนี้ ไม่มีทาง ที่ชายหนุ่มบอกสาวว่า เวลานอน ก็เห็นหน้าเธอลอยอยุ่ มันเป็นคำโม้ชะมากกว่า
ในภาพกสิณเขาไม่ให้ดวงกสิณที่จะเพ่งไม่ให้มีจุดด่างพร้อยด้วยซ้ำ ในพระสูตร กล่าวถึงพระพุทธองค์ใช้กสิณได้อย่าง วิเศษ สามารถใช้กสิณไฟเผายอดตาล ได้
จิตที่ทรงฌาน สามารถบรรลุธรรมได้ง่ายเพราะ ง่ายและทรงพลังต่อการน้อมจิต
การได้เพียงปฐมฌาน ความสุขจากปิติ มันจะซ่าบซ่าน ทั่วร่างกาย เป็นความสุขยิ่ง นักปราชญ์สมัยก่อนกล่าวว่า ความได้สุขทางกามอันยิ่งยวด ยังเป็นแค่ 1 ใน 16 ของความสุขของปฐมฌาน
แต่การบรรลุธรรม ก็เป็นไปเพื่อ การเบื่อหน่ายคลายกำหนัดในจิต ดังนั้น การทำฌาน ในทางพุทธ จึงมีเป้าหมายเดียวคือการบรรลุธรรม
ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็ขอบคุณครับ
คอมเม้นท์ได้ก็ยินดีครับ
แต่ห้ามมาด้อยค่ากัน เพราะ ผมสั่งให้ผู้ช่วย AI กรองให้แล้ว 55