JJNY : พิษศก.ดินไหว ทุนเทา ฉุดคอนโดเฉา│"ศิริกัญญา"จับตาท่าทีรบ.│"หมอสมิทธิ์"แจงชัด! │เยอรมนีลุย“ผลิตขีปนาวุธพิสัยไกล”

พิษเศรษฐกิจ ดินไหว ทุนเทา ฉุดตลาดคอนโดไทยเฉา ต่างชาติชะลอซื้อ ลูกค้าจีนหาย 90%
https://www.matichon.co.th/economy/news_5204961
.
.
พิษเศรษฐกิจ ดินไหว ทุนเทา ฉุดตลาดคอนโดไทยเฉา ต่างชาติชะลอซื้อ ลูกค้าจีนหาย 90%
.
วันที่ 28 พฤษภาคม นายไซม่อน ลี ประธานกรรมการ บริษัท แองเจิล เรียลเอสเตท คอนซัลแทนซี่ จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาดและขายโควต้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ส่งผลต่อการซื้อขายคอนโดมิเนียมตลาดต่างชาติลดลงมากและหนักกว่าช่วงโควิด โดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนที่หายไปค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลง เพราะไม่เชื่อมั่นต่อความปลอดภัย โดยตลาดกรุงเทพฯจีนกับพม่าหายไปถึง 90% มีสมุยกับภูเก็ตยังเพิ่มขึ้น 10-20% เนื่องจากเป็นจุดหมายด้านท่องเที่ยว แม้ลูกค้าจีนหายยังมีลูกค้าประเทศอื่นๆ เช่น รัสเซีย สหรัฐ ยุโรป เป็นต้น ปัจจุบันมีห้องชุดรอโอนอยู่กรุงเทพฯหลัก100 ยูนิต ราคา 4-6 ล้านบาท เชียงใหม่กว่า 200 ยูนิต ราคา 2.5-3 ล้านบาท ภูเก็ตรอโอนปี 2569 กว่า 400 ยูนิต ราคา 2.5-4 ล้านบาท
.
นายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด และเคลเลอร์ วิลเลี่ยม ไทยแลนด์ กล่าวว่า ครึ่งแรกของปีนี้ต่างชาติยังซื้อคอนโดและบ้านในเมืองท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา แต่ยังต่ำกว่าก่อนโควิด จีนยังเป็นกลุ่มหลัก แต่จากสงครามการค้าสหรัฐกับจีนกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและไทย ทำให้นักลงทุนต่างชาติระมัดระวังลงทุนในอสังหาฯไทยมากขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่ผันผวนมีผลต่อต้นทุนการซื้ออสังหาฯของต่างชาติด้วย อย่างไรก็ดีมองว่าการย้ายฐานการผลิตมาไทยอาจเป็นโอกาสใหม่ในการลงทุนอสังหาฯเพื่ออุตสาหกรรมหากรัฐเจรจาภาษีเป็นไปด้วยดี ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนจากต่างชาติ เช่น ออกวีซ่าระยะยาว ผ่อนปรนข้อจำกัดการถือครองอสังหาฯ
นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า การโอนคอนโดต่างชาติลดลง เพราะผู้ซื้อจีนลดลง ชาติอื่นๆยังชดเชยได้ไม่ถึง ขณะที่กรมที่ดินเข้มงวดการซื้อบ้านและที่ดินในนามบริษัทที่มีต่างชาติร่วมถือหุ้น ทำให้ดีมานด์ใหม่จากต่างชาติชะลอตัว แม้จะเข้ามาด้วยการขอส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม แต่ก็มีการตรวจสอบเข้มงวดด้วย ถือเป็นเรื่องดี
.
สำหรับการแก้ปัญหากำลังซื้อจากต่างชาติ คือ 1.คัดเลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีอาชีพชีพที่เราต้องการ เช่น นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ วิศวกรเทคโนโลยีชั้นสูง กลุ่มผู้มีรายได้สูง กลุ่มเกษียณ และควรอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น เช่น ขยายวีซ่ายาว 10 ปี 2.เก็บภาษีการซื้อคอนโดและเช่าที่ดิน ที่มีสิ่งปลูกสร้างเพื่ออยู่อาศัยสูงขึ้น 3.พิจารณาพ.ร.บ. ทรัพย์อิงสิทธิ์เป็นเช่า 60 ปี สำหรับที่ดินเพื่ออยู่อาศัยในโครงการจัดสรร
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดยอดการโอนห้องชุดของต่างชาติทั่วประเทศไตรมาส 1/2568 ชะลอตัวลงมี 3,919 หน่วย ลดลง 0.5% มูลค่าการโอน 16,392 ล้านบาท ลดลง 9% และ3 ประเทศที่โอนมากสุดคือ จีน 1,481 หน่วย ลดลง 7.2% มูลค่า 6,117 ล้านบาท ลดลง 19.2% พม่า 439 หน่วย เพิ่ม 12% มูลค่า 1,587 ล้านบาท ลดลง 28.1% รัสเซีย 288 หน่วย ลดลง 2.4% มูลค่า 987 ล้านบาท เพิ่ม 6.9%
.

.
เซตซีโรใหม่หลังคำสั่งภาษี "ทรัมป์" ถูกระงับ! "ศิริกัญญา" จับตาท่าทีรัฐบาล ปรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
.
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ กรณีศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งระงับใช้มาตรการภาษีศุลกากรของ “ทรัมป์” ว่าเป็นการเซตซีโรใหม่กลับไปเป็นก่อนวันที่ 2 เม.ย. แต่รัฐบาลทรัมป์ก็ได้มีการอุทธรณ์ ซึ่งคาดการณ์ว่า ในท้ายที่สุดแม้จะไปถึงศาลฎีกา แต่คงไม่ได้กลับคำตัดสินของศาลการค้าฯ น่าจะยืนตามที่มีคำสั่งไว้ เพราะว่ามันไม่น่าจะมีข้อแก้ตัวใด ๆ ว่าการขาดดุลการค้ามหาศาลจะเป็นภาวะฉุกเฉิน คิดว่าการใช้อำนาจแบบนี้ ก็น่าจะจบลง แต่ไปลุ้นการใช้อำนาจผ่านสภา ซึ่งในกรณีนี้จะได้เป็นรายประเทศ อาจใช้ระยะเวลาที่นานกว่า และก็คงไม่ได้โดนยกเข่งทั้งโลกเหมือนที่ผ่านมา
.
แต่ถ้าย้อนกลับไปดูก็พบว่า เราก็ติดอยู่ในลิสต์ที่เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงที่จะโดนเรียกเก็บภาษี เพราะเป็นประเทศที่ขาดดุลการค้าติดอันดับต้น ๆ ในทุก ๆ ปี แต่คิดว่า สส.ฝั่งรัฐบาลก็ไม่ได้อยากตามใจทรัมป์ไปทุกเรื่อง เพราะประชาชนได้รับผลกระทบจนไม่พอใจ
.
แต่อย่างน้อยเป็นข่าวดี ได้ยืดเวลาออกไปแน่ ๆ และทำให้ทางรัฐบาลทรัมป์ต้องมาคิดกันใหม่อีกครั้ง ได้มีเวลาตั้งสติ เพราะที่ผ่านมาเกิดขึ้นเร็วมาก และครม.อาจไม่ได้ลงรอยกันไปหมดทุกเรื่องว่าต้องการอะไรแน่
.
ส่วนประเทศเรา แผนรับมือก็คงต้องเปลี่ยนแปลง เราได้มีเวลาหายใจไปยาว ๆ และก็ต้องมีการมาปรับกลยุทธ์กันใหม่อีกครั้ง ซึ่งกว่าจะมีการใช้กลไกผ่านรัฐสภา ก็ซื้อเวลาให้เราได้เยอะเลย และคงต้องปรับแผนในระยะสั้น ไม่แน่ใจว่างบที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งนำมาจากงบดิจิทัลวอลเล็ตมา จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีกไหม เพราะสัปดาห์หน้า ครม.ก็น่าจะจะมีการประชุมอนุมัติมาตรการนี้แล้ว เพราะหน่วยงานต่าง ๆ ก็น่าจะยื่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว อันนี้ก็ต้องประเมินอีกครั้ง
.
แต่อย่างไรก็ตามแม้ไม่มีสงครามการค้า ก็ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยก็ไม่สู้ดีอยู่แล้ว ถ้ามีการกระตุ้นในระยะสั้น ก็ถือว่าเหมาะสม แต่ก็ต้องดูทีท่ารัฐบาลว่าจะทำอย่างไรในเรื่องนี้
.
แต่คิดว่าที่จะมีการปรับสัดส่วนใน 4 ก้อน คงเป็นด้านการเยียวยาผลกระทบจากการส่งออก เนื่องจากคงจะมีผลกระทบลดน้อยลง หลังจากการที่สงครามการค้าถูกดีเลย์ออกไป แต่ที่ยังต้องการกระตุ้นการลงทุนภาครัฐ คิดว่ายังเดินหน้าต่อได้ แต่ต้องคัดกรองโครงการให้เหมาะสม
.
เมื่อถามถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต กับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ก้อน น.ส.ศิริกัญญา เผยว่า ต้องชั่งน้ำหนักกันระหว่างความเร็วกับผลประโยชน์ที่จะได้ทางเศรษฐกิจ ซึ่งดิจิทัลวอลเล็ต แม้เงินทุกบาทถึงจะไม่รั่วไหล แต่ว่าก็อาจจะไม่ได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจได้มากอย่างที่คาดเอาไว้ อย่างที่เห็นในรอบอื่น ๆ และรอบนี้ในครั้งแรกที่จะแจก ก็แจกแค่ 2 ล้านคน ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จำกัดมาก ไม่ถึง 0.01 ของ GDP
.
ดังนั้น ถ้าสามารถใช้ได้ก้อนใหญ่ขึ้น ซึ่งพอเร่งรีบทำให้มีรั่วไหลไปบ้าง แต่อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้มีการจ้างงาน การซื้อของ หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจหลายถอดมากกว่าการแจกไปเป็นการบริโภคอย่างเดียว และอย่างน้อยก็เหลือเป็นสิ่งของหรือสิ่งก่อสร้าง ที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการกลั่นกรองของรัฐบาลด้วยว่า ทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน
.
เมื่อถือถึงการอภิปรายงบฯ ปี 69 ที่มาในธีมช่วยตัดงบ น.ส.ศิริกัญญา เผยว่า ความกระตือรือร้นในการตัดงบก็ลงน้อยลง จากเดิมจะตัดเป็นแสนล้าน ก็ตัดเหลือ 5 หมื่นล้าน เป็นต้น เพราะว่าความเร่งด่วนมันลดน้อยลงไป และจากเมื่อวานที่ทาง ครม. ตอบก็ยังไม่มีสัญญาณออกมาว่าอยากให้เราตัดเท่าไหร่ เราก็กังวลว่าเราจะตัดไปเก้อ ก็ต้องรอดูว่าถ้าเราเสนอตัดแบบนี้ จะโอเคหรือไม่ แต่ยังไงก็ตาม ถ้าเป็นโครงการเสี่ยงคอร์รัปชัน เราตัดอยู่แล้ว ตัดทุกปี แต่ถ้ามันเกิดวิกฤต อาจจะต้องมีการจัดลำดับความสำคัญ บางโครงการอาจไม่ใช่ตัด แต่เลื่อนไปก่อน ให้ไปทำในระยะเวลาที่เหมาะสม ส่วนโครงการที่เลื่อนก็อาจจะเลื่อนน้อยลง
.

.
"หมอสมิทธิ์" โพสต์แจงชัด! แพทยสภาส่งเอกสารให้ "สมศักดิ์" ครบ ยันไม่ได้ปกปิดข้อมูล

"หมอสมิทธิ์" โพสต์แจงชัด! แพทยสภาส่งเอกสารให้ "สมศักดิ์" ครบ ยันไม่ได้ปกปิดข้อมูล
.
ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก "Smith Fa Srisont" ระบุว่า
.
ขออธิบายสักเรื่องหนึ่งที่เป็นข่าวอยู่ช่วงนี้ แล้วทำให้คนเข้าใจผิดแพทยสภา
.
แพทยสภาส่งเอกสารให้สภานายกพิเศษไม่ครบ?
.
คำตอบ ไม่จริง แพทยสภาได้ส่งเอกสารเกี่ยวกับมติแพทยสภาที่รวมขั้นตอนตั้งแต่ผู้ร้องทำการร้อง หลักฐานต่างๆที่รวบรวมมาได้ ความเห็นอนุกรรมการจริยธรรม ความเห็นอนุกรรมการสอบสวน ความเห็นอนุกรรมการกลั่นกรอง และความเห็นคณะกรรมการแพทยสภาเอง มีจำนวน 95 หน้า รวมทั้งยังให้เอกสารหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับคดี เช่น เวชระเบียน คำให้การอีก 1500 กว่าหน้า ดังนั้นให้ข้อมูลไปครบแล้ว
.
แต่ทีมที่แต่งตั้งโดยสภานายกพิเศษกลับขอรายชื่ออนุกรรมการกลั่นกรอง กับรายงานการประชุมของอนุกรรมการกลั่นกรอง เพิ่มเติม
แพทยสภาจึงไม่ให้ เพราะไม่เกี่ยวกับส่วนของมติกรรมการแพทยสภา และไม่เข้าใจเหตุผลว่าต้องการไปเพื่ออะไร เพราะก็มีความเห็นของอนุกรรมการกลั่นกรองระบุในมติ 95 หน้าที่ส่งให้ไปแล้ว
.
ทั้งนี้อนุกรรมการกลั่นกรอง ไม่มีอยู่ใน พรบ. วิชาชีพเวชกรรม แต่มีข้อบังคับแพทยสภาให้มีขึ้นมา เพื่อช่วยแพทยสภาในการตรวจสอบคดี ก่อนที่แพทยสภาจะมีมติ แต่สุดท้ายแพทยสภาก็เป็นผู้ชี้ขาดอยู่ดี
.
แล้วเอาจริงๆ ถ้าคิดถึงเรื่องการมีมติลงโทษหรือไม่ลงโทษแพทย์ที่ถูกร้อง ควรเน้นที่ความเห็นของแพทยสภากับหลักฐานในคดีที่แพทยสภาใช้ประกอบความเห็นเท่านั้น เพราะแพทยสภาเป็นผู้ชี้ขาด ไม่ว่าอนุกรรมการไหนจะมีความเห็นอย่างไรก็ตาม
.
ดังนั้นถ้าท้วงติงหรือขอข้อมูลเพิ่มเติม ควรดูถึงหรือขอหลักฐานที่แพทยสภาใช้ในการตัดสิน มากกว่ามาบอกว่า แพทยสภาส่งเอกสารไม่ครบ
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่