พี่ชายเคยติดยาทุกประเภทเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เคยโดยตำรวจจับ เคยไปบำบัด แล้วกลับมาติดอีกในช่วง 4-5 ปีหลังจากเริ่มติด เคยมีครอบครัวภรรยาดี ลูกดี แต่ช่วงที่มีครอบครัวพี่ชายก็ยังวนเวียนกับน้ำกระท่อม กัญชา ยาบ้าบ้าง มียืมเงินคนแถวบ้าน ขโมยเงินคนในบ้าน เริ่มเป็นซึมเศร้า และไม่ทำงานและกิจวัตรประจำวัน ช่วงที่มีครอบครัว ภรรยาขายข้าวหาเงินเข้าบ้านโดยมีพี่ชายเป็นคนรับออเดอร์ ล้างจาน(ล้างจานบ้าง ไม่ล้างบ้าง และล้างช้า ขอดูดบุหรี่ก่อน ขอนั่งพักก่อน ดื่มเบียร์ก่อน) ซื้อของ(ซื้อผิดพลาดบ่อย เงินหายบ่อย) ส่งข้าว(ใช้เวลาในการส่งนานมาก ทั้งที่เป็นระยะทางไม่ไกล เก็บเงินลูกค้าเกินบ้าง ขโมยเงินค่าข้าวบ้าง) โดยได้รับเงินค่าขนมเป็นรายวันจากภรรยา (วันละ 200) สุดท้ายภรรรยาขอหย่า และเอาลูกไปด้วย ปัจจุบันภรรยามีครอบครัวใหม่ และภาระค่าใช้จ่ายของหลานๆ ตกเป็นของภรรยาเก่าของพี่ชายและเรา
ปัจจุบันเราเอาแม่ที่เป็นอัลไซเมอร์มาอยู่ด้วย พ่อเสียไปเมื่อปี 2560 และตอนที่จะเอาแม่มาอยู่ด้วยแม่ยืนยันว่าจะไม่ยอมมาอยู่กับเราที่ กทม ถ้าหากว่าเราไม่ยอมเอาพี่ชายมาอยู่ด้วย (แม่รักและสปอยด์พี่ชายมาตั้งแต่เด็กจนเสียคน เพราะพ่อเราเป็นคนดุ จะเขี้ยวเข็ญพี่ชายให้ทำตัวดีๆ ถ้าพี่ชายดื้อ พ่อจะดุ จะเสียงดัง พี่ชายและแม่คิดว่าพ่อลำเอียง พ่อรักเรามากกว่า และพ่อทำให้พี่ชายกลายเป็นเด็กมีปัญหาจนต้องหาทางออกด้วยการคบเพื่อนไม่ดี เล่นยา ซึมเศร้า)
หลังจากพี่มาอยู่กับเราจนตอนนี้เข้าปีที่ 6 พี่ชายไม่ทำงานเลย บอกว่าอาการซึมเศร้าทำให้ไม่สามารถทำงานได้ เราออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในบ้าน และพี่ชายขอค่าขนมจากเราเดือนละ 2400 บาท (บอกว่าเป็นค่าจ้างให้ดูแลแม่ เพราะถ้าไม่มีพี่ชาย เราก็ต้องจ้างคนอื่นมาดูแลแม่อยู่ดี)
แม่เรายังพอดูแลตัวเองได้บ้าง เช่น ยังเดินได้ แต่เป็นค่อยๆ เดินช้าๆ ทานข้าวได้ตามปกติค่ะ แต่ต้องมีคนจัดหาไว้ให้ ปกติแม่จะนอนทั้งวัน ที่เป็นปัญหาคือบางครั้งแม่จะกลั้นอุจจาระ ปัสสาวะไม่ได้ มีเลอะ เรี่ยราดบ้าง (แม่ได้ใส่แพมเพิส) แม่พูดรู้เรื่อง สื่อสารเข้าใจ แต่ก็ต้องมีหูตึง กับความจำระยะสั้นไม่ดี เช่นถามว่า เมื่อเที่ยงทานอะไร แกจะจำไม่ได้ แต่ถ้าถามเรื่องเก่าๆ นานแล้ว แกจะเล่าได้เป็นครึ่งวัน
ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาพี่ชายไปคบคนในหมู่บ้านที่เล่นกัญชา และอาจจะเล่นยาทั้งบ้าน ตอนนี้คนบ้านนั้นโดนจับหมดแล้ว และพี่ยังคบเพื่อนไม่ดีอีกหลายคน เอาเพื่อนเข้าบ้านแล้วเพื่อนพวกนั้นก็มาขโมยของในบ้าน และขโมยเงินพี่ชาย (เราไม่แน่ใจว่าเพื่อนขโมย หรือพี่ชายเราทำหายเอง หรือแอบเอาเงินไปเล่นยา แล้วโกหกเรา) กิจวัตรประจำวันที่พี่ชายเคยทำได้ และเรามอบหมายให้เป็นหน้าที่ก็บกพร่องไปมาก เช่น
- ให้เงินไปซื้อขนมมาให้แม่ตอนเช้า(จากบ้านเดินไปตลาดไม่เกิน 5 นาที) แต่ใช้เวลาซื้อนาน 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง พอกลับมาบอกว่า แวะนั่งสูบบุหรี่ แวะคุยกับเพื่อน
- ซื้อข้าวเที่ยง ออกไปเที่ยง กลับมา 14.00-16.00 บอกว่า แวะคุยบ้านเพื่อนแล้วลืม
-ซื้อข้าวเย็น ออกไปไม่เคยต่ำกว่า 2 ชม.
- ล้างจานวันละ 1 ครั้ง บางวันก็ไม่ล้างเลย (จานชามที่ใช้ทานข้าว + ทำกับข้าว ทั่วไป)
- ไม่ดูแลรักษาความสะอาดในบ้าน ฝุ่นเต็ม โดยบอกว่าเกลียดการถูบ้านที่สุด
- ไม่ชอบล้างห้องน้ำ
- ไม่รดน้ำต้นไม้
- ลืมเอายาให้แม่กินตามเวลา
- หายออกไปจากบ้านบ่อยๆ ในช่วงกลางวัน ปล่อยให้แม่อยู่ในบ้านคนเดียววันละหลายๆ ชั่วโมง
-เริ่มบอกว่าได้ยินเสียงเครื่องบินตลอดเวลา (บ้านเราอยู่ใกล้ดอนเมือง ก็จะได้ยินเสียงเครื่องเวลาบินผ่านบ้านเป็นระยะ แต่พี่ชายบอกว่าได้ยินเสียงตั้งแต่เครื่องบินเริ่มบินออกจากดอนเมือง แยกออกว่าเป็นเครื่องของสายการบินไหน)
- เริ่มเคาะวัสดุต่างๆ ในมือ และรอบข้าง เกือบตลอดเวลา เป็นจังหวะ และบอกว่าได้ยินเสียงเครื่องบินตลอดเวลา ไม่อยากได้ยินเลยต้องเคาะเสียงให้เข้ากับจังหวะเสียงเครื่องบินเพื่อกลบเสียง
- เริ่มไม่นอน นอนไม่หลับ ไม่กิน เบื่ออาหาร หวาดระแวงว่ามีคนจับผิด
- เริ่มก้าวร้าว ต่อต้าน เถียง เริ่มมีท่าทางเหมือนจะเข้ามาทำร้าย ถ้าเราดุ
-เริ่มพูดคนเดียว เกือบจะตลอดเวลา
ทั้งหมดนี้ ถ้าหากว่าเราทักเรื่องอาการ เขาจะมีอาการต่อต้าน และบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร เราชอบจับผิดไง เขาเลยเป็นวิตกกังวล เราบอกจะพาไปหาหมอ ไปปรับยาซึมเศร้า หรือวิตกกังวล เขาก็บอกว่าหมอปรับจนเต็มที่แล้ว
ตอนนี้เราอยากพาเขาไปรักษา แต่ติด 2 เรื่อง
1. จะพาไปรักษาที่ไหน ที่ราคาไม่แรง หรือฟรี เพราะเราไม่สะดวกเรื่องค่าใช้จ่าย
2. ถ้าพี่ชายไม่อยู่ ก็จะไม่มีคนอยู่กับแม่ช่วงกลางวันที่เราไปทำงาน แต่จะจ้างคนมาดูแลก็ติดเรื่องค่าใช้จ่าย เท่าที่หาข้อมูลขั้นต่ำก็เดือนละ 10000 +++ แบบไปเช้า เย็นกลับ และเราก็กังวลว่าเขาจะแอบทำร้ายแม่ไหมถ้าเจอคนไม่ดี หรือเราจะปล่อยให้แม่อยู่คนเดียวแล้วติดกล้องส่องเอา เพราะที่ทำงานเราก็ห่างบ้านแค่ 2 กม. (แต่ทุกวันนี้ถึงพี่ชายอยู่ ก็แทบไม่ได้อยู่ดูแลแม่)
ขอความกรุณาแนะนำทางออกให้เราหน่อยค่ะ ทุกวันนี้เราทุกข์ใจและอึดอัดมาก กลัวเหมือนกันว่าเราอาจจะบ้าก่อนพี่ชาย
ขอความช่วยเหลือแนะนำสถานที่รักษาผู้ป่วยโรคย้ำคิดย้ำทำค่ะ
ปัจจุบันเราเอาแม่ที่เป็นอัลไซเมอร์มาอยู่ด้วย พ่อเสียไปเมื่อปี 2560 และตอนที่จะเอาแม่มาอยู่ด้วยแม่ยืนยันว่าจะไม่ยอมมาอยู่กับเราที่ กทม ถ้าหากว่าเราไม่ยอมเอาพี่ชายมาอยู่ด้วย (แม่รักและสปอยด์พี่ชายมาตั้งแต่เด็กจนเสียคน เพราะพ่อเราเป็นคนดุ จะเขี้ยวเข็ญพี่ชายให้ทำตัวดีๆ ถ้าพี่ชายดื้อ พ่อจะดุ จะเสียงดัง พี่ชายและแม่คิดว่าพ่อลำเอียง พ่อรักเรามากกว่า และพ่อทำให้พี่ชายกลายเป็นเด็กมีปัญหาจนต้องหาทางออกด้วยการคบเพื่อนไม่ดี เล่นยา ซึมเศร้า)
หลังจากพี่มาอยู่กับเราจนตอนนี้เข้าปีที่ 6 พี่ชายไม่ทำงานเลย บอกว่าอาการซึมเศร้าทำให้ไม่สามารถทำงานได้ เราออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในบ้าน และพี่ชายขอค่าขนมจากเราเดือนละ 2400 บาท (บอกว่าเป็นค่าจ้างให้ดูแลแม่ เพราะถ้าไม่มีพี่ชาย เราก็ต้องจ้างคนอื่นมาดูแลแม่อยู่ดี)
แม่เรายังพอดูแลตัวเองได้บ้าง เช่น ยังเดินได้ แต่เป็นค่อยๆ เดินช้าๆ ทานข้าวได้ตามปกติค่ะ แต่ต้องมีคนจัดหาไว้ให้ ปกติแม่จะนอนทั้งวัน ที่เป็นปัญหาคือบางครั้งแม่จะกลั้นอุจจาระ ปัสสาวะไม่ได้ มีเลอะ เรี่ยราดบ้าง (แม่ได้ใส่แพมเพิส) แม่พูดรู้เรื่อง สื่อสารเข้าใจ แต่ก็ต้องมีหูตึง กับความจำระยะสั้นไม่ดี เช่นถามว่า เมื่อเที่ยงทานอะไร แกจะจำไม่ได้ แต่ถ้าถามเรื่องเก่าๆ นานแล้ว แกจะเล่าได้เป็นครึ่งวัน
ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาพี่ชายไปคบคนในหมู่บ้านที่เล่นกัญชา และอาจจะเล่นยาทั้งบ้าน ตอนนี้คนบ้านนั้นโดนจับหมดแล้ว และพี่ยังคบเพื่อนไม่ดีอีกหลายคน เอาเพื่อนเข้าบ้านแล้วเพื่อนพวกนั้นก็มาขโมยของในบ้าน และขโมยเงินพี่ชาย (เราไม่แน่ใจว่าเพื่อนขโมย หรือพี่ชายเราทำหายเอง หรือแอบเอาเงินไปเล่นยา แล้วโกหกเรา) กิจวัตรประจำวันที่พี่ชายเคยทำได้ และเรามอบหมายให้เป็นหน้าที่ก็บกพร่องไปมาก เช่น
- ให้เงินไปซื้อขนมมาให้แม่ตอนเช้า(จากบ้านเดินไปตลาดไม่เกิน 5 นาที) แต่ใช้เวลาซื้อนาน 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง พอกลับมาบอกว่า แวะนั่งสูบบุหรี่ แวะคุยกับเพื่อน
- ซื้อข้าวเที่ยง ออกไปเที่ยง กลับมา 14.00-16.00 บอกว่า แวะคุยบ้านเพื่อนแล้วลืม
-ซื้อข้าวเย็น ออกไปไม่เคยต่ำกว่า 2 ชม.
- ล้างจานวันละ 1 ครั้ง บางวันก็ไม่ล้างเลย (จานชามที่ใช้ทานข้าว + ทำกับข้าว ทั่วไป)
- ไม่ดูแลรักษาความสะอาดในบ้าน ฝุ่นเต็ม โดยบอกว่าเกลียดการถูบ้านที่สุด
- ไม่ชอบล้างห้องน้ำ
- ไม่รดน้ำต้นไม้
- ลืมเอายาให้แม่กินตามเวลา
- หายออกไปจากบ้านบ่อยๆ ในช่วงกลางวัน ปล่อยให้แม่อยู่ในบ้านคนเดียววันละหลายๆ ชั่วโมง
-เริ่มบอกว่าได้ยินเสียงเครื่องบินตลอดเวลา (บ้านเราอยู่ใกล้ดอนเมือง ก็จะได้ยินเสียงเครื่องเวลาบินผ่านบ้านเป็นระยะ แต่พี่ชายบอกว่าได้ยินเสียงตั้งแต่เครื่องบินเริ่มบินออกจากดอนเมือง แยกออกว่าเป็นเครื่องของสายการบินไหน)
- เริ่มเคาะวัสดุต่างๆ ในมือ และรอบข้าง เกือบตลอดเวลา เป็นจังหวะ และบอกว่าได้ยินเสียงเครื่องบินตลอดเวลา ไม่อยากได้ยินเลยต้องเคาะเสียงให้เข้ากับจังหวะเสียงเครื่องบินเพื่อกลบเสียง
- เริ่มไม่นอน นอนไม่หลับ ไม่กิน เบื่ออาหาร หวาดระแวงว่ามีคนจับผิด
- เริ่มก้าวร้าว ต่อต้าน เถียง เริ่มมีท่าทางเหมือนจะเข้ามาทำร้าย ถ้าเราดุ
-เริ่มพูดคนเดียว เกือบจะตลอดเวลา
ทั้งหมดนี้ ถ้าหากว่าเราทักเรื่องอาการ เขาจะมีอาการต่อต้าน และบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร เราชอบจับผิดไง เขาเลยเป็นวิตกกังวล เราบอกจะพาไปหาหมอ ไปปรับยาซึมเศร้า หรือวิตกกังวล เขาก็บอกว่าหมอปรับจนเต็มที่แล้ว
ตอนนี้เราอยากพาเขาไปรักษา แต่ติด 2 เรื่อง
1. จะพาไปรักษาที่ไหน ที่ราคาไม่แรง หรือฟรี เพราะเราไม่สะดวกเรื่องค่าใช้จ่าย
2. ถ้าพี่ชายไม่อยู่ ก็จะไม่มีคนอยู่กับแม่ช่วงกลางวันที่เราไปทำงาน แต่จะจ้างคนมาดูแลก็ติดเรื่องค่าใช้จ่าย เท่าที่หาข้อมูลขั้นต่ำก็เดือนละ 10000 +++ แบบไปเช้า เย็นกลับ และเราก็กังวลว่าเขาจะแอบทำร้ายแม่ไหมถ้าเจอคนไม่ดี หรือเราจะปล่อยให้แม่อยู่คนเดียวแล้วติดกล้องส่องเอา เพราะที่ทำงานเราก็ห่างบ้านแค่ 2 กม. (แต่ทุกวันนี้ถึงพี่ชายอยู่ ก็แทบไม่ได้อยู่ดูแลแม่)
ขอความกรุณาแนะนำทางออกให้เราหน่อยค่ะ ทุกวันนี้เราทุกข์ใจและอึดอัดมาก กลัวเหมือนกันว่าเราอาจจะบ้าก่อนพี่ชาย