สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

ความสำคัญของการยอมรับและให้เครดิตแก่ความร่วมมือของหลายฝ่ายในการพัฒนานโยบายสาธารณะ โดยเฉพาะระบบ “30 บาท” ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากความคิดของรัฐบาลหรือพรรคการเมืองใดๆ แต่เป็นผลจากการร่วมมือของนักวิชาการ ข้าราชการ และภาคประชาสังคมตามหลักการในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ซึ่งได้กำหนดสิทธิด้านสุขภาพเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน.

ข้อความยังชี้ให้เห็นถึงการผูกขาดเครดิตในการดำเนินนโยบายและการใช้ผลงานของรัฐในทางที่อาจนำไปสู่การแบ่งแยกทางการเมืองโดยไม่ส่งเสริมการอภิปรายในเชิงนโยบายที่สร้างสรรค์ แต่กลับทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างฝ่ายต่างๆ.

ข้อคิดที่สื่อสารให้กับสังคมคือ นโยบายสาธารณะควรเป็นทรัพย์สินร่วมของประชาชน ไม่ใช่ของพรรคการเมืองหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และควรได้รับการยอมรับว่าเป็นผลงานร่วมที่สร้างประโยชน์ให้กับส่วนรวม.

กรณี "30 บาทรักษาทุกโรค" ชี้ให้เห็นถึง:

การต่อยอดจากรากฐานเดิม: นโยบายนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากศูนย์ แต่มีพื้นฐานมาจากรัฐธรรมนูญ 2540 มาตรา 52 ,29,62,82 และ ฯลฯ  รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นผลงานของรัฐบาลชุดก่อนหน้า เช่น กฎหมาย องค์กรมหาชน 2542 ซึ่งรองรับ การจัดตั้ง สปสช.

บทบาทของผู้ริเริ่มทางวิชาการและนโยบาย: นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เป็นบุคคลสำคัญในการวางแนวคิดและออกแบบระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายนี้

บทบาทของผู้ผลักดันทางการเมือง: รัฐบาลพรรคไทยรักไทยมีบทบาทในการนำนโยบายนี้ไปปฏิบัติจริงในระดับประเทศ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้

ดังนั้น การกล่าวอ้างว่าเป็น "ผลงาน" ของคนเดียวจึงไม่ถูกต้องและไม่ยุติธรรมต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในขั้นตอนต่าง ๆ การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนเช่นนี้อาจมีจุดประสงค์ทางการเมืองเพื่อสร้างความนิยมหรือลดทอนความสำคัญของฝ่ายอื่น ซึ่งส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และการสร้างความเข้าใจร่วมกันในสังคม

การบิดเบือนเช่นนี้สามารถสร้างความแตกแยกในสังคมนิยมไทยได้ เพราะอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจในกลุ่มผู้ที่เคยมีบทบาทในการวางรากฐานหรือผลักดันนโยบายในช่วงเวลาอื่น ๆ การนำเสนอความจริงทั้งหมดอย่างรอบด้านจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อส่งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้อง ลดความขัดแย้ง และสร้างวัฒนธรรมของการให้เกียรติซึ่งกันและกันในการพัฒนา

วิธีการที่ "ผลงาน" สาธารณะสามารถถูกนำมาใช้เพื่อสร้างความแตกแยกทางการเมืองได้ แทนที่จะเป็นเครื่องมือที่สร้างความภาคภูมิใจร่วมกันของคนในชาติ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่