ไม่ใช่ดาราทุกคนจะทำธุรกิจเก่ง แต่เคสดาราที่ประสบความสำเร็จในการปั้นแบรนด์ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
ไม่กี่วันก่อนหลายคนอาจเห็นวิดีโอที่กำลังเป็นไวรัลอยู่บนโลกโซเชียล ถึงการเปิดร้านป๊อปอัพสโตร์แบรนด์แฟชั่นน้องใหม่ มีคนรอตั้งแต่ห้างสยามพารากอนยังไม่เปิด ทันทีที่ประตูห้างเปิด ผู้คนนับร้อยวิ่งเข้าไปซื้อสินค้ากันมากมาย ยอดซื้อต่อคนมีตั้งแต่หลักแสนไปจนเกือบหลักล้าน
แบรนด์ที่ถูกพูดถึงนั้นก็คือ ‘AlwaysWonder’ ที่มีเจ้าของคือ ‘หลิงหลิง คอง’ นักแสดงสาวที่เข้าวงการมานานกว่า 5 ปี แต่เพิ่งมาดังพลุแตกในช่วง 1 ปีมานี้จากการรับบทซีรีส์หญิงรักหญิง หรือแซฟฟิกทางช่อง 3 ในละครเรื่อง ‘ใจซ่อนรัก‘
ทำไมกระแสของแบรนด์แฟชั่น AlwaysWonder ถึงดังเปรี้ยงปร้างไวรัลในโซเชียล แบบที่เปลี่ยนจากกระแสมาเป็นเม็ดเงินได้
และดูท่านี่ไม่ใช่แค่กระแสวูบเดียว เมื่อหลายคนมองว่า ‘หลิงหลิง คอง’ ที่แฟนคลับมักจะเรียกเธอว่า ‘ซีอีโอ’ มีวิธีทำธุรกิจที่น่าสนใจ และมีสกิลแบบผู้ประกอบการ-นักธุรกิจแบบติดตัวมาโดยธรรมชาติ
TODAY Bizview ชวนแกะสูตรทำแบรนด์แบบ ‘หลิงหลิง คอง’ ว่าทำยังไงให้มีคนมารอซื้อตั้งแต่เช้ามืด ไปจนถึงมียอดใช้จ่ายหลักแสนเกือบล้านต่อคนก็มี
[ จดทะเบียนตั้งบริษัท ปั้น AlwaysWonder หลังละครใจซ่อนรักจบ ]
หลังความสำเร็จที่ค่อยๆ ไต่ขึ้นเป็นกราฟพุ่ง ตั้งแต่ละคร ใจซ่อนรัก ออนแอร์ จนแม้แต่ละครจบแล้ว ดันให้กระแสคู่จิ้น ‘หลิงออม‘ ที่มีคู่พาร์ทเนอร์นักแสดงนำหญิง ‘ออม กรณ์นภัส’ พากันโด่งดังแบบหยุดไม่อยู่ มีแฟนด้อมเกิดขึ้นในไทยและต่างประเทศ
ความแรงและความปังที่หลายคนเปรียบว่า ช่องสามเหมือนถูกหวย ส่งผลให้ดาราหญิงทั้ง 2 คน ควงคู่กันเดินสายงานแฟนมีทในหลายประเทศ และเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้หลายแบรนด์มากมาย เม็ดเงินไหลเข้าสู่ช่อง 3 เพิ่มขึ้น
ระหว่างความโด่งดังนี้นี่เอง ‘หลิงหลิง คอง’ ได้เริ่มจดทะเบียนตั้งบริษัททำธุรกิจสินค้าแฟชั่น ทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 1,000,000 บาท
จนช่วงต้นเดือนตุลาคม ปี 2567 แบรนด์ ที่ชื่อ AlwaysWonder จากไอเดียของหลิงหลิง คอง ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ไลน์สินค้าที่เปิดมาในช่วงแรก คือเสื้อยืด สกรีนชื่อแบรนด์ AlwaysWonder หมวก กระเป๋า กระติกน้ำ โดยให้แฟนคลับได้ซื้อผ่านการพรีออเดอร์ รอสินค้าประมาณ 45 – 60 วัน สั่งสินค้าผ่านระบบ Line Shopping
ในช่วงนั้นเคสกรณีศึกษาของแบรนด์คือ ‘การพรีออเดอร์’ ที่รอค่อนข้างนาน บางคนรอสินค้ากันเกือบ 3 เดือน
แต่อีกด้านหนึ่งในเชิงธุรกิจการทำสินค้าแบบพรีออเดอร์จะทำให้ธุรกิจนั้นสามารถวัด Demand Validation & Product-market Fit Testing หรือพูดง่ายๆ ว่าเหมือนเป็นการ “ทดสอบตลาดแบบมีรายได้จริง”
ก่อนจะผลิตสินค้าจำนวนมาก ซึ่งช่วยให้แบรนด์รู้ว่า สินค้าแบบไหน สีไหน ที่แฟนๆ ต้องการจริง ปริมาณความต้องการอยู่ในระดับที่คุ้มค่ากับการลงทุนผลิตหรือไม่ และที่สำคัญจะช่วยให้รู้ว่าลูกค้ากลุ่มหลักของแบรนด์อยู่ตรงไหน เช่น วัยรุ่น คนทำงาน ฯลฯ
(ต่อ)
แกะสูตรทำแบรนด์ AlwaysWonder ฉบับ ‘หลิงหลิงคอง’
ไม่ใช่ดาราทุกคนจะทำธุรกิจเก่ง แต่เคสดาราที่ประสบความสำเร็จในการปั้นแบรนด์ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
ไม่กี่วันก่อนหลายคนอาจเห็นวิดีโอที่กำลังเป็นไวรัลอยู่บนโลกโซเชียล ถึงการเปิดร้านป๊อปอัพสโตร์แบรนด์แฟชั่นน้องใหม่ มีคนรอตั้งแต่ห้างสยามพารากอนยังไม่เปิด ทันทีที่ประตูห้างเปิด ผู้คนนับร้อยวิ่งเข้าไปซื้อสินค้ากันมากมาย ยอดซื้อต่อคนมีตั้งแต่หลักแสนไปจนเกือบหลักล้าน
แบรนด์ที่ถูกพูดถึงนั้นก็คือ ‘AlwaysWonder’ ที่มีเจ้าของคือ ‘หลิงหลิง คอง’ นักแสดงสาวที่เข้าวงการมานานกว่า 5 ปี แต่เพิ่งมาดังพลุแตกในช่วง 1 ปีมานี้จากการรับบทซีรีส์หญิงรักหญิง หรือแซฟฟิกทางช่อง 3 ในละครเรื่อง ‘ใจซ่อนรัก‘
ทำไมกระแสของแบรนด์แฟชั่น AlwaysWonder ถึงดังเปรี้ยงปร้างไวรัลในโซเชียล แบบที่เปลี่ยนจากกระแสมาเป็นเม็ดเงินได้
และดูท่านี่ไม่ใช่แค่กระแสวูบเดียว เมื่อหลายคนมองว่า ‘หลิงหลิง คอง’ ที่แฟนคลับมักจะเรียกเธอว่า ‘ซีอีโอ’ มีวิธีทำธุรกิจที่น่าสนใจ และมีสกิลแบบผู้ประกอบการ-นักธุรกิจแบบติดตัวมาโดยธรรมชาติ
TODAY Bizview ชวนแกะสูตรทำแบรนด์แบบ ‘หลิงหลิง คอง’ ว่าทำยังไงให้มีคนมารอซื้อตั้งแต่เช้ามืด ไปจนถึงมียอดใช้จ่ายหลักแสนเกือบล้านต่อคนก็มี
[ จดทะเบียนตั้งบริษัท ปั้น AlwaysWonder หลังละครใจซ่อนรักจบ ]
หลังความสำเร็จที่ค่อยๆ ไต่ขึ้นเป็นกราฟพุ่ง ตั้งแต่ละคร ใจซ่อนรัก ออนแอร์ จนแม้แต่ละครจบแล้ว ดันให้กระแสคู่จิ้น ‘หลิงออม‘ ที่มีคู่พาร์ทเนอร์นักแสดงนำหญิง ‘ออม กรณ์นภัส’ พากันโด่งดังแบบหยุดไม่อยู่ มีแฟนด้อมเกิดขึ้นในไทยและต่างประเทศ
ความแรงและความปังที่หลายคนเปรียบว่า ช่องสามเหมือนถูกหวย ส่งผลให้ดาราหญิงทั้ง 2 คน ควงคู่กันเดินสายงานแฟนมีทในหลายประเทศ และเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้หลายแบรนด์มากมาย เม็ดเงินไหลเข้าสู่ช่อง 3 เพิ่มขึ้น
ระหว่างความโด่งดังนี้นี่เอง ‘หลิงหลิง คอง’ ได้เริ่มจดทะเบียนตั้งบริษัททำธุรกิจสินค้าแฟชั่น ทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 1,000,000 บาท
จนช่วงต้นเดือนตุลาคม ปี 2567 แบรนด์ ที่ชื่อ AlwaysWonder จากไอเดียของหลิงหลิง คอง ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ไลน์สินค้าที่เปิดมาในช่วงแรก คือเสื้อยืด สกรีนชื่อแบรนด์ AlwaysWonder หมวก กระเป๋า กระติกน้ำ โดยให้แฟนคลับได้ซื้อผ่านการพรีออเดอร์ รอสินค้าประมาณ 45 – 60 วัน สั่งสินค้าผ่านระบบ Line Shopping
ในช่วงนั้นเคสกรณีศึกษาของแบรนด์คือ ‘การพรีออเดอร์’ ที่รอค่อนข้างนาน บางคนรอสินค้ากันเกือบ 3 เดือน
แต่อีกด้านหนึ่งในเชิงธุรกิจการทำสินค้าแบบพรีออเดอร์จะทำให้ธุรกิจนั้นสามารถวัด Demand Validation & Product-market Fit Testing หรือพูดง่ายๆ ว่าเหมือนเป็นการ “ทดสอบตลาดแบบมีรายได้จริง”
ก่อนจะผลิตสินค้าจำนวนมาก ซึ่งช่วยให้แบรนด์รู้ว่า สินค้าแบบไหน สีไหน ที่แฟนๆ ต้องการจริง ปริมาณความต้องการอยู่ในระดับที่คุ้มค่ากับการลงทุนผลิตหรือไม่ และที่สำคัญจะช่วยให้รู้ว่าลูกค้ากลุ่มหลักของแบรนด์อยู่ตรงไหน เช่น วัยรุ่น คนทำงาน ฯลฯ
(ต่อ)