เกมพนันแห่งทวยเทพ บทที่ 6 ความตายไม่เคยมีข้อแม้ 2

กระทู้สนทนา
บทที่ 6 ความตายไม่เคยมีข้อแม้ 2
ภาพที่ เกิดในตอนนี้ คือ กำแพงของตี๋ ที่เต็มไปด้วยเลือด มีร่างของคนครึ่งวัว และตี๋ ยืนแทบจะติดกัน ตี๋ค่อยๆทรุดนั่งลง แขนที่หักไปเมื่อครู่ ก็บวมขึ้น หมอโป้ง ก็ยังคง พยายามใช้พลังของไม้กระบอก เพื่อรักษา ตี๋
ร่างของ ครึ่งวัวที่ยืน มีเลือด ไหลนองอยู่เต็มไปหมด โดยตรงที่ท้องของคนครึ่งวัว มีรูโหว่ทะลุไปถึงด้านหลัง
หมอโป้ง ที่ พยายามรักษาแขนของตี๋ อย่างก็ เอ่ยถามตี๋ เพื่อความแน่ใจ เพราะจากที่เห็น น่าจะแทงทะลุ เส้นเลือดใหญ่ที่ท้องของครึ่งวัว
หมอโป้ง “มันตายแล้วใช่ไหม”
              ตี๋ ทำหน้าเหยเก จากความเจ็บปวดที่ แทบจะสลบ จากกระดูกที่หัก เพราะถึงแม้จะไม่ทะลุ แต่ก็น่าจะบาดเข้ากับเส้นเลือดที่แขน เลยทำให้หมอโป้งรักษาอย่างยากลำบาก
ตี๋ “ดูท่าจะยังครับ เพราะระบบยังไม่แจ้งบอก”
              ที่ท้องของคนครึ่งวัว มีเลือดไหลออก มาอย่างมากมาย แต่ถึงจะอย่างนั้น คนครึ่งวัวพยายาม ถอยตัวเพื่อหนี
เมื่อเห็นอย่างนั้น ตีก็ปรับรูปร่างของกำแพงทั้งสองด้าน ให้เหมือนรูปสมอ ทำให้ คนครึ่งวัว ไม่สามารถหลุดออกจากกำแพงออกไปได้
เมื่อเป็นแบบนั้น ตี๋ จึงคิดที่จะทำให้ การต่อสู้นี้จบลง จึงตะโกนบอก หมอโป้ง และ เตย
ตี๋ “สองคนถ้าไม่อยากเห็นภาพ สุดสยองก็หลับตา”
              เตย ยังคงยืนนิ่งกับ สิ่งที่เกิดตั้งแต่ต้น จึงรีบหลับตา ในขณะที่ หมอโป้งยังคงรักษาตี๋ แต่ก็ใช้วิธี หันหน้าไปทางอื่น
              เมื่อเห็นทั้งสองหลบหน้าแล้ว ตี๋ ก็เปลี่ยน รูปร่าง ของสิ่งที่ แทงท้องของ คนครึ่งวัว ให้กลายเป็น เหมือน มีดที่แบนออก เพื่อผ่าครึ่งร่างของ คนครึ่งวัว โดยที่ทั้งด้านหน้าและหลัง ยังคง รูปแบบสมอ เพื่อไม่ให้ หลุดออกไปได้
              คนครึ่งวัว กรีดร้องอย่างทรมาน และดิ้นทุรนทุราย จนเมื่อ สะโพกแยกออกจากกัน โดยที่ ด้านบน ยังคงอยู่แค่ระดับ อก คนครึ่งวัวก็ สิ้นใจลง
เสียง “คุณ ได้คร่า 1 ชีวิต คำนวณ เนื่องด้วยเป็นผู้เลือกที่จะร่วงหล่น วิญญาณที่ได้ 1”
                  เมื่อ เสียงระบบ ดังขึ้น ตี๋ก็มันใจ ว่า ครึ่งวัวได้เสียชีวิตลงแล้ว ตอนนี้ พื้นเต็มไปด้วยกองเลือด และกลิ่นคาวคละคลุ้งมากขึ้นกว่าเดิม
ในขณะเดียวกัน แขนที่หักของตี๋ ก็ กลับมาเป็นปกติ อีกครั้ง จาก ความพยายามของหมอโป้ง
หมอโป้ง ทรุดตัวลงเกือบที่จะล้ม ไปในกองเลือด ยังดี ที่ ตี๋ เอามือที่เพิ่งหาย คว้าตัวหมอโป้ง เอาไว้
ตี๋ “เจ้าวัว นั้นตายแล้ว เตยครับมาช่วยหมอโป้งหน่อย”
              เมื่อได้ยินดังนั้น เตยก็ลืมตา แล้ววิ่งเข้ามาช่วยตี๋พยุงหมอโป้ง ทั้งสอง ช่วยกัน พยุงหมอโป้ง ไปไว้ ที่กำแพงด้านข้าง เพื่อหลบภัย
เตย “ลุงตี๋ทำยังไงเมื่อกี้ เห็นตอนแรกยังโดนมัน ขวิดจนปลิวเลย”
                  เตย เอ่ยถามตี่ ด้วยท่าทางที่ เห็นได้ชัดว่า หายโกรธ จากตอนก่อนหน้า
ตี๋ “ก็ลองเสี่ยงดวงดู เมื่อกี้ ยืด กำแพง ไปด้านหลังสองแง่ง และเพดานหนึ่ง แง่ง”
เตย “แค่นั้นลุงก็ไม่ปลิวเมือนคราวก่อนแล้วหรือ”
                  ตี๋ ทำหน้ายิ้ม พร้อมส่ายหน้าเล็กน้อย
ตี๋ “ไม่หรอก ไม่ใช่แค่นั้น ลุงให้ แต่ละอัน มีแผ่นประมาณ หนึ่งฝ่ามือ แล้ว ใน แผ่นนั้น ให้มีหนามยึดเกาะเล็ก เหมือนในเรื่อง ไอ้แมงมุม”
              เคยทำท่าเอียงคอเล็กน้อย แล้วทำหน้า งง
เตย “ลุง โดนชนจนเพี้ยนรึ เขาใช้ อุปกรณ์ไม่ใช่รึ”
ตี๋ “ไม่ใช่ มันมีภาคเก่าที่เขามีหนามงอกปลาย มือ ที่นักแสดงชื่ออะไรน้า”
หมอโป้ง ฟื้นขึ้นมา พร้อมพูดว่า “แอนดรู กราฟิล ปะลุง”
เตย “หมอโป้งฟื้นแล้ว”
              เตย ทำท่าดีใจ และเข้าไปพยุงหมอโป้งขี้น ในขณะที่ ตี๋ เอาฟันหน้า กัดริมฝีปากตัวเองไว้ เพราะกำลังจะหลุดคำว่า โทบี้ ออกจากปาก พร้อมคิดในใจว่าถ้าหลุดปากออกไป มีหวังโดนบูลี่เรื่องอายุ
              จากนั้น ตี๋ก็ทดลองขยับมือ ข้างที่หมอโป้งรักษาให้ไปมา ดู อาการหัก และ อาการเจ็บหายไปทั้งหมด เหมือนได้แขนใหม่ เพราะด้วยอายุของตี๋ มันก็ มีปวดเมื่อย ในบางจุด ก็หายไปด้วย
              หมอโป้งเห็นแบบนั้น ก็ อธิบายตี๋เพิ่ม ว่าตัวเองทำอะไรให้ตี๋ไปบ้างเมื่อครู่ พร้อมๆ กับ กวักมือเรียกทั้งสองคน ไปที่ห้องพักเวร แพทย์กลางคืน
หมอโป้ง “มันยากเหมือนกันนะลุง ผมไม่ใช่หมอเฉพาะทางกระดูก ต้องมานั่งจินตนาการ ถึงการทำให้ กระดูกงอกเชื่อมกัน และเอ็นอะไรต่างๆกับกล้ามเนื้ออีก ทบทวนกายวิภาคกันยาวๆ”
ตี๋ “แต่ว่าหมอก็ทำออกมาดีมากนะ”
              ตี๋ยังคงลองขยับมือไปมา ย่างไม่มีท่าทีเจ็บแต่อย่างใด
              หมอโป้งยิ้ม เพราะดีใจที่ ได้รับคำชม พร้อมกับเปิดเข้าไปในห้องนอนเวร ที่มีขนาด แค่ พอวาง เตียงขนาด 3 ฟุตกับ ชั้นวางหัวเตียงขนาดเล็ก ที่เต็มไปด้วยหนังสือ และ มีกระเป๋าของใช้ส่วนตัวของหมอโป้ง วางอยู่ในนั้น
ส่วน ในห้องนอน มีห้องน้ำในตัว ขนาดแค่ โถชักโครก กับอ่างล้างหน้า ตี๋ หรี่ตาข้างนึง เพราะไม่คิดว่าจะเป็นห้องนอนหมอ
ตี๋ “นี่ห้องพักแพทย์หรือคุกเนี่ย”
หมอโป้ง “มันก็ ห้องพักแค่ชื่อแหละ หมอคนไหนได้นอนบ้าง คนไข้ทั้งคืน แถมใช้ชีวิตกันแบบ ไม่ต้องบรรยาย ยิ่งดึกยิ่ง เจอแต่ เห็นแก่ตัว”
                  หมอโป้ง ก็ เดินเข้าไป เก็บของส่วนตัว ที่วางอยู่บนตียง ยัดเข้ากระเป๋าอย่างลวกๆ จนตัวกระเป๋า บวมซิบแทบจะปิดไม่ลง เตยก็ กำลังพยายาม ขึ้นหน้าไม้เผื่อเอาไว้ป้องกันตัว แต่พยายามดึงยังไง ก็ ยังดึงไม่ขึ้น ท่าทาง งกๆเงิ่นๆ จนตี๋ต้องเอามาง้างให้
โดย ด้านหน้า ที่มีเหมือนที่จับ ตี๋ ก็หันไป ทางพื้น แล้วเอาเท้าเหยียบที่จับด้านหน้าไว้ พอเห็นแบบนั้น เตยก็เข้ามา ขอลองเหยียบและทำเอง โดยเอามือ ดึงสายเพื่อให้ขึ้น แต่ก็คงยังไม่ขึ้น เตยเลย อารมเสีย ยื่นหน้าไม้คืน ตี๋
เตย “เอาคืนไปเลยลุง แรงนี้ไม่น่าไหว”
              ตี๋ เลย ทำให้ดูจนจบ ขั้นตอน โดยการ เอาเท้าเหยียบด้านหน้า จับห่วงจับ ที่เป็น ขอเกี่ยวด้านหลังแล้วทำหลังตรง ใช้ แรงขา ยกตังเองลุกพร้อม ดึงสายมา ขึ้นไกได้
              เตย เห็นก็ดีใจ ว่ามันใช้การได้แล้ว ตี๋ ก็ดันห่วงจับด้านหลังกลับไปที่เดิม พร้อมกับยื่น มันให้เตยอีกครั้ง
ตี๋ “เวลาปกติ อย่าขึ้นไก หรือใส่ธนูหละ เพราะมันจะเสีย และก็ อย่าลืมเก็บห่วงดึงหลัง มันจะฟาดหน้าเอาได้”
              เตย รับไป พร้องกับขอบคุณตี่ที่ช่วยสอน
เตย “ลุงทำได้ไงเนี่ย เหมือนเคยใช้มาก่อน”
ตี๋ “ก็เคยเรียนมาบ้าง” ตี๋คิดแต่ไม่พูดออกไป “จากเกมสมัยนี้แหละ บางเกมก็ละเอียดเกิน”
              หมอ โป้งก็เดินออกจาก ห้องน้ำหลังเก็บของ หมดพอดี และ กวักมือบอกทั้งสองคนให้ ออกเดินทางกัน
หมอโป้ง “ว่า แต่ลุง เสียงในหัวนี่มันคืออะไร ได้ยินเมื่อกี้ ตอนรักษาลุงเสร็จ”
https://pantip.com/topic/43388640 รวม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่