บทที่ 7 ความตายไม่เคยมีข้อแม้ 3
หลังจาก ที่ได้ยิน เรื่องที่หมอโป้งบอก ทำให้ตี๋กับ เตยรู้สึกสนใจ ว่ามันเป็นยังไง เลยขอให้หมอโป้งอธิบายว่า ได้ยินอะไรยังไงบ้าง
หมอโป้ง “อยู่ ๆ มันก็ดังวูบเข้ามาในหัว แล้วบอกว่า ได้อะไร ใช้อย่างไร”
ตี๋ “สำหรับผม มันแค่เสียงบอก เหมือนเสียง ศิริในมือถือ ไอโพนแหละ เรียบง่ายแต่ชัด”
เตย กวักมือ เรียก สองคน ให้ไปทางห้องพัก พยาบาลบ้าง เพราะตัวเองก็ จะไปเอาของเหมือนกัน เพราะ ที่โรงพยาบาลขอร้องไม่ให้พกตอนขึ้นเวร โดยเฉพาะที่สีสดใส
เพราะเคยมี คนไข้ถ่ายรูป พยาบาล ที่กำลังใช้มือถือ ตอนอธิบาย อาการคนไข้กับหมอเฉพาะทาง ผ่านมือถือ แล้วไปลงในออนไลน์ บอกว่าพยาบาล นั่งเล่นมือถือ ไม่สนใจคนไข้
ทางโรงพยาบาล เลยให้ใช้ของโรงพยาบาล และต้องเป็น อันที่มีเคส ของโรงพยาบาล เท่านั้น อันอื่นให้เก็บในห้อง
หมอโป้งก็ เดินตามเตย โดยตอนนี้ ตี๋ ใช้หิน สามก้อน เล็กๆเกาะไว้กับกำแพง เพื่อไม่ให้ทั้งสองคนเดินหลุดเขตไป
หมอโป้ง “เสียงเหมือน กัน แต่มันก็มีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนลงความรู้ใหม่ในสมอง”
ตี๋ “ระบบว่ายังไงรึหมอ”
เตยหันกลับมา กวักมือไหวๆ พร้อมตะโกน เรียกลุงตี๋ ด้วยท่าทางกระตือรือร้นไม่เข้ากับ ความน่ากลัวของบรรยากาศ เพราะโดย รอบยังมีร่างคนเสียชีวิต จากการ ไล่ล่า และ ไม่น่าจะปลอดภัย
เตย “ลุงตี๋ เดินเร็วๆดี้ คนอ้วนก็เงี้ยะ ไม่ค่อย ออกกำลัง”
ตี๋ เอียงคอ ยิ้มมุมปากด้านหนึ่ง เพราะถึงแม้รู้ ว่าตัวเองจะอายุรุ่น พ่อเตย เหมือนที่เรียก แต่ก็ หงุดหงิดนิดหน่อย เวลาที่ ถูกทำให้ รู้สึกว่าแก่
ตี๋ “ไอ้เด็กนี่ เปลี่ยนอารมณ์เร็วชะมัด แถมก็คึกเกิน”
หมอโป้งยิ้มเล็กน้อย พร้อมตอบตี๋ เพราะ เข้าใจในอาการตอนนี้ของเตย
หมอโป้ง “น่าจะเพราะ ควงเวรมาสามวันแล้วมั้ง คงเริ่มเหมือนคนเมาแหละ”
ตี๋ ยิ้มอ่อนๆ พยักหน้าเล็กน้อย แสดงว่า ก็เข้าใจ
ตี๋ “ผมก็ไม่ต่าง เลยเข้าใจแหละว่ามันเหมือนคนเมา เพราะทำงาน โรงพยาบาล สภาพ ก็แบบนี้กันหมด”
เมื่อ เตยเดินไปถึง ห้องพักเวรพยาบาล ก็เปิดประตู พร้อมกับจังหวะเดียวกันที่ ตี๋ กำลังเอ่ยถามหมอโป้งเกี่ยวกับเสียง ว่ามันอธิบายอะไร เพราะของตัวก็ แค่บอกว่า มีการสังหารไปเท่าไหร่
ตี๋ “ว่าแต่ที่พูด เรื่องที่ พูดค้างไว้เมื่อกี้ ระบบมันอธิบายอะไร”
แต่ไม่ทันที่หมอโป้งจะตอบ ก็ มีเสียงดัง ก๊อง ที่กำแพง ตรงด้านหน้าของเตย ปรากฏ เป็น หม้อต้มอาหารไฟฟ้า ประจำแผนกฉุกเฉิน ถูก หญิงสาว ตนหนึ่งใช้ฟาดเข้ามา จนเกือบโดนหน้าเตย
ภาพที่เห็น ตรงหน้าของทั้งสาม คือผู้ช่วยพยาบาล ชุดสีฟ้า ตัวเล็ก ผิวขาว หน้ากลม สูงประมาณ 160 เซนติเมตร มีท่าทีหวาดกลัว
เตย “พี่ อี๊ด”
เมื่อเห็น แบบนั้น เตยก็วิ่งเข้าไปกอด อี๊ด แต่ อี๊ด ก็หลบฉาก ทำให้ เตย ไปชนกับโต๊ะรับประทานอาหาร ของห้องพักพยาบาล
อี๊ด “นี่เจ้า บ่อใช่พวกประหลาดนั่น ใช่บ๋อ ตะกี้ ข้าตีเจ้าก็บ่อโดน แต่โดนอะไรก็ บ่อรู้ แข็งๆ”
ตี๋ กับ หมอโป้ง เอามือปิดปากไว้ไม่ให้หลุดขำไปกับความเด๋อของเตย ในขณะที่ เตย นั่งกุมท้อง เพราะตัวเอง กระแทกเข้ากับโต๊ะเต็มๆ
หมอโป้ง “ก็ไม่ใช่พวกนั้นหรอก ถ้าไม่นับลุงตี๋นะ”
ตี๋ เอียงคอมองหมอโป้ง แล้วชี้มือไปที่ตัวเอง พร้อมทำหน้าขมวดคิ้วใส่
จังหวะนั้น เตย ก็กระโดดกอดหลัง อี๊ดพร้อมเอาหน้า ถูไถเหมือนแมว โดยที่อี๊ด พยายามหมุนออกข้าง แล้วผลักออก เพื่อให้ หลุดจากเตย
อี๊ด “พวกเจ้ารอดมาได้ยังไง ไม่โดนพวกนั้นรึ”
หมอโป้ง ก็หันไปมองหน้าลุงตี๋ ว่าจะตอบยังไง เพราะเอาจริงๆ ตัวเอง ก็ไม่เห็นเหตุการณ์ เพราะได้แต่ตกใจ จาก เหตุการณ์ที่ ประตูหลุดกระแทก พี่พยาบาล
เตยขยับตัว เอาคาง มาวางที่ไหล่อี๊ด โดยที่ ยังคงกอดอี๊ด ไว้จากด้านหลัง พร้อมกับเอ่ยถาม ถึงเรื่องที่เกิดขี้นด้านนอก
เตย “ตอนนั้นมันเป็นอย่างไรบ้าง”
อี๊ด “ตอนนั้น อยู่ๆ ก็มีเสียงดังตู้ม มีคนกระเด็นไปชนกำแพง คอหัก ตัวนี่ยุบเลย”
หมอโป้งหันหน้า ไปทางตี๋พร้อมยิ้มอ่อน พร้อมกับเตย ที่เหลือกตามามองที่ ตี๋ ในขณะที่ ตี๋หันหน้าหลบไปทางอื่น แบบ เขินๆ
ตี๋คิดในใจ “เริ่มที่กูสินะ”
อี๊ดก็ทำท่าอธิบาย ต่อทำไม่ทำมือเหมือนมีอะไรใหญ่มากๆ เพื่ออธิบายสิ่งที่เห็น
อี๊ด “จากนั้น ก็ มีก้อนสีดำเบ่อเร่อ มันดันเพดานจนปุ หันไปอีกด้านก็มี แมวตัวเท่าคน พร้อมกับแรดยืนสองขา มันก็ไล่ขวิดไล่ตำ ข่อยก็หนีเขามา”
หลังจาก ได้ยิน ที่ได้ยินอี๊ดอธิบาย ตี๋ ก็มองไปรอบๆ เพราะในนี้ มีแต่ จานชาม และเครื่องครัว
จากนั้น ตี๋ ก็ชี้ให้เตย เอาพวก ของที่ พอมองเห็นชัด 4 ชิ้นมา วางรอบตัวอี๊ด พอวางลง ตี๋ก็ บังคับให้มันกลืนเข้ากับกำแพง จนลอยขึ้นประมานเข่า
เมื่อได้เห็นแบบนั้น อี๊ด ก็ร้องอุทานออกมา
อี๊ด “อ้าย ผีหลอก”
อี๊ด ถอยตัวหนี จนชนเข้ากับกำแพง ของตี๋ ที่อยู่ด้านหลัง อี๊ด ก็มองรอบๆ ทั้งที่ มองกี่ทีก็ไม่เห็นอะไร แต่ ก็ไม่สามารถออกจาก บริเวณนั้นได้
ตี๋ “ตอนนี้ อยู่ในนั้นไปก่อนนะ”
เตยเห็นแบบนั้น เลย เดินมาดึงหู ตี๋ พร้อมกับบิดไปมา
เตย “อะไรกันคะ คุณตี๋ นี่เพื่อนนะ”
ตี๋ “โอ้ยๆ ตอนนี้ไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ไว้ไปพื้นที่ปลอดภัยก่อน ค่อยให้ออก”
จากนั้น เตย ก็ดึงไปข้างหน้าทีหลังที อย่างช้าๆ จน ตี๋ ต้องเอามือ จับข้อมือเตยไว้
เตย “ปล่อยออกมา ซะน้า”
ตี๋ “ใช่ ปล่อย ปล่อย ปล่อย ปล่อย มือหนะปล่อย”
จนหมอโป้งต้องเข้ามาห้าม เตย ที่ทำกับ ตี๋ แบบนั้น
หมอโป้ง “เอาน่า เตย ปล่อยแกเหอะ ไงก็เพื่อ ความปลอดภัย”
เมื่อ หมอโป้งเข้ามาห้าม เตยจึงปล่อย พร้อมชี้มือ ไปที่ตี๋
เตย “ฝากไว้ก่อนนะลุง”
ตี๋คิดในใจ “เตะมัน ออกนอกกำแพงดีไหม”
จากนั้น ทั้งสี่ ก็ ออก เดินทางไปเก็บของๆตี๋ เพราะก็ ต้องเอาของส่วนตัวที่ห้องไม่ต่าง
เมื่อเดินถึง พื้นที่รับยา ก็ ปรากฎร่างของเภสัชสาว ที่ตี๋ชวนคุยก่อนมาที่ห้องฉุกเฉิน ถูกแขวน ไว้ที่หน้า ห้องรับยา ตามร่างกาย เต็มไปด้วยเลือด และมีรอย ถูกกรีด อยู่เป็นจำนานมาก
https://pantip.com/topic/43388640 รวม
เกมพนันแห่งทวยเทพ บทที่ 7 ความตายไม่เคยมีข้อแม้ 3
หมอโป้ง “อยู่ ๆ มันก็ดังวูบเข้ามาในหัว แล้วบอกว่า ได้อะไร ใช้อย่างไร”
ตี๋ “สำหรับผม มันแค่เสียงบอก เหมือนเสียง ศิริในมือถือ ไอโพนแหละ เรียบง่ายแต่ชัด”
เตย กวักมือ เรียก สองคน ให้ไปทางห้องพัก พยาบาลบ้าง เพราะตัวเองก็ จะไปเอาของเหมือนกัน เพราะ ที่โรงพยาบาลขอร้องไม่ให้พกตอนขึ้นเวร โดยเฉพาะที่สีสดใส
เพราะเคยมี คนไข้ถ่ายรูป พยาบาล ที่กำลังใช้มือถือ ตอนอธิบาย อาการคนไข้กับหมอเฉพาะทาง ผ่านมือถือ แล้วไปลงในออนไลน์ บอกว่าพยาบาล นั่งเล่นมือถือ ไม่สนใจคนไข้
ทางโรงพยาบาล เลยให้ใช้ของโรงพยาบาล และต้องเป็น อันที่มีเคส ของโรงพยาบาล เท่านั้น อันอื่นให้เก็บในห้อง
หมอโป้งก็ เดินตามเตย โดยตอนนี้ ตี๋ ใช้หิน สามก้อน เล็กๆเกาะไว้กับกำแพง เพื่อไม่ให้ทั้งสองคนเดินหลุดเขตไป
หมอโป้ง “เสียงเหมือน กัน แต่มันก็มีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนลงความรู้ใหม่ในสมอง”
ตี๋ “ระบบว่ายังไงรึหมอ”
เตยหันกลับมา กวักมือไหวๆ พร้อมตะโกน เรียกลุงตี๋ ด้วยท่าทางกระตือรือร้นไม่เข้ากับ ความน่ากลัวของบรรยากาศ เพราะโดย รอบยังมีร่างคนเสียชีวิต จากการ ไล่ล่า และ ไม่น่าจะปลอดภัย
เตย “ลุงตี๋ เดินเร็วๆดี้ คนอ้วนก็เงี้ยะ ไม่ค่อย ออกกำลัง”
ตี๋ เอียงคอ ยิ้มมุมปากด้านหนึ่ง เพราะถึงแม้รู้ ว่าตัวเองจะอายุรุ่น พ่อเตย เหมือนที่เรียก แต่ก็ หงุดหงิดนิดหน่อย เวลาที่ ถูกทำให้ รู้สึกว่าแก่
ตี๋ “ไอ้เด็กนี่ เปลี่ยนอารมณ์เร็วชะมัด แถมก็คึกเกิน”
หมอโป้งยิ้มเล็กน้อย พร้อมตอบตี๋ เพราะ เข้าใจในอาการตอนนี้ของเตย
หมอโป้ง “น่าจะเพราะ ควงเวรมาสามวันแล้วมั้ง คงเริ่มเหมือนคนเมาแหละ”
ตี๋ ยิ้มอ่อนๆ พยักหน้าเล็กน้อย แสดงว่า ก็เข้าใจ
ตี๋ “ผมก็ไม่ต่าง เลยเข้าใจแหละว่ามันเหมือนคนเมา เพราะทำงาน โรงพยาบาล สภาพ ก็แบบนี้กันหมด”
เมื่อ เตยเดินไปถึง ห้องพักเวรพยาบาล ก็เปิดประตู พร้อมกับจังหวะเดียวกันที่ ตี๋ กำลังเอ่ยถามหมอโป้งเกี่ยวกับเสียง ว่ามันอธิบายอะไร เพราะของตัวก็ แค่บอกว่า มีการสังหารไปเท่าไหร่
ตี๋ “ว่าแต่ที่พูด เรื่องที่ พูดค้างไว้เมื่อกี้ ระบบมันอธิบายอะไร”
แต่ไม่ทันที่หมอโป้งจะตอบ ก็ มีเสียงดัง ก๊อง ที่กำแพง ตรงด้านหน้าของเตย ปรากฏ เป็น หม้อต้มอาหารไฟฟ้า ประจำแผนกฉุกเฉิน ถูก หญิงสาว ตนหนึ่งใช้ฟาดเข้ามา จนเกือบโดนหน้าเตย
ภาพที่เห็น ตรงหน้าของทั้งสาม คือผู้ช่วยพยาบาล ชุดสีฟ้า ตัวเล็ก ผิวขาว หน้ากลม สูงประมาณ 160 เซนติเมตร มีท่าทีหวาดกลัว
เตย “พี่ อี๊ด”
เมื่อเห็น แบบนั้น เตยก็วิ่งเข้าไปกอด อี๊ด แต่ อี๊ด ก็หลบฉาก ทำให้ เตย ไปชนกับโต๊ะรับประทานอาหาร ของห้องพักพยาบาล
อี๊ด “นี่เจ้า บ่อใช่พวกประหลาดนั่น ใช่บ๋อ ตะกี้ ข้าตีเจ้าก็บ่อโดน แต่โดนอะไรก็ บ่อรู้ แข็งๆ”
ตี๋ กับ หมอโป้ง เอามือปิดปากไว้ไม่ให้หลุดขำไปกับความเด๋อของเตย ในขณะที่ เตย นั่งกุมท้อง เพราะตัวเอง กระแทกเข้ากับโต๊ะเต็มๆ
หมอโป้ง “ก็ไม่ใช่พวกนั้นหรอก ถ้าไม่นับลุงตี๋นะ”
ตี๋ เอียงคอมองหมอโป้ง แล้วชี้มือไปที่ตัวเอง พร้อมทำหน้าขมวดคิ้วใส่
จังหวะนั้น เตย ก็กระโดดกอดหลัง อี๊ดพร้อมเอาหน้า ถูไถเหมือนแมว โดยที่อี๊ด พยายามหมุนออกข้าง แล้วผลักออก เพื่อให้ หลุดจากเตย
อี๊ด “พวกเจ้ารอดมาได้ยังไง ไม่โดนพวกนั้นรึ”
หมอโป้ง ก็หันไปมองหน้าลุงตี๋ ว่าจะตอบยังไง เพราะเอาจริงๆ ตัวเอง ก็ไม่เห็นเหตุการณ์ เพราะได้แต่ตกใจ จาก เหตุการณ์ที่ ประตูหลุดกระแทก พี่พยาบาล
เตยขยับตัว เอาคาง มาวางที่ไหล่อี๊ด โดยที่ ยังคงกอดอี๊ด ไว้จากด้านหลัง พร้อมกับเอ่ยถาม ถึงเรื่องที่เกิดขี้นด้านนอก
เตย “ตอนนั้นมันเป็นอย่างไรบ้าง”
อี๊ด “ตอนนั้น อยู่ๆ ก็มีเสียงดังตู้ม มีคนกระเด็นไปชนกำแพง คอหัก ตัวนี่ยุบเลย”
หมอโป้งหันหน้า ไปทางตี๋พร้อมยิ้มอ่อน พร้อมกับเตย ที่เหลือกตามามองที่ ตี๋ ในขณะที่ ตี๋หันหน้าหลบไปทางอื่น แบบ เขินๆ
ตี๋คิดในใจ “เริ่มที่กูสินะ”
อี๊ดก็ทำท่าอธิบาย ต่อทำไม่ทำมือเหมือนมีอะไรใหญ่มากๆ เพื่ออธิบายสิ่งที่เห็น
อี๊ด “จากนั้น ก็ มีก้อนสีดำเบ่อเร่อ มันดันเพดานจนปุ หันไปอีกด้านก็มี แมวตัวเท่าคน พร้อมกับแรดยืนสองขา มันก็ไล่ขวิดไล่ตำ ข่อยก็หนีเขามา”
หลังจาก ได้ยิน ที่ได้ยินอี๊ดอธิบาย ตี๋ ก็มองไปรอบๆ เพราะในนี้ มีแต่ จานชาม และเครื่องครัว
จากนั้น ตี๋ ก็ชี้ให้เตย เอาพวก ของที่ พอมองเห็นชัด 4 ชิ้นมา วางรอบตัวอี๊ด พอวางลง ตี๋ก็ บังคับให้มันกลืนเข้ากับกำแพง จนลอยขึ้นประมานเข่า
เมื่อได้เห็นแบบนั้น อี๊ด ก็ร้องอุทานออกมา
อี๊ด “อ้าย ผีหลอก”
อี๊ด ถอยตัวหนี จนชนเข้ากับกำแพง ของตี๋ ที่อยู่ด้านหลัง อี๊ด ก็มองรอบๆ ทั้งที่ มองกี่ทีก็ไม่เห็นอะไร แต่ ก็ไม่สามารถออกจาก บริเวณนั้นได้
ตี๋ “ตอนนี้ อยู่ในนั้นไปก่อนนะ”
เตยเห็นแบบนั้น เลย เดินมาดึงหู ตี๋ พร้อมกับบิดไปมา
เตย “อะไรกันคะ คุณตี๋ นี่เพื่อนนะ”
ตี๋ “โอ้ยๆ ตอนนี้ไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ไว้ไปพื้นที่ปลอดภัยก่อน ค่อยให้ออก”
จากนั้น เตย ก็ดึงไปข้างหน้าทีหลังที อย่างช้าๆ จน ตี๋ ต้องเอามือ จับข้อมือเตยไว้
เตย “ปล่อยออกมา ซะน้า”
ตี๋ “ใช่ ปล่อย ปล่อย ปล่อย ปล่อย มือหนะปล่อย”
จนหมอโป้งต้องเข้ามาห้าม เตย ที่ทำกับ ตี๋ แบบนั้น
หมอโป้ง “เอาน่า เตย ปล่อยแกเหอะ ไงก็เพื่อ ความปลอดภัย”
เมื่อ หมอโป้งเข้ามาห้าม เตยจึงปล่อย พร้อมชี้มือ ไปที่ตี๋
เตย “ฝากไว้ก่อนนะลุง”
ตี๋คิดในใจ “เตะมัน ออกนอกกำแพงดีไหม”
จากนั้น ทั้งสี่ ก็ ออก เดินทางไปเก็บของๆตี๋ เพราะก็ ต้องเอาของส่วนตัวที่ห้องไม่ต่าง
เมื่อเดินถึง พื้นที่รับยา ก็ ปรากฎร่างของเภสัชสาว ที่ตี๋ชวนคุยก่อนมาที่ห้องฉุกเฉิน ถูกแขวน ไว้ที่หน้า ห้องรับยา ตามร่างกาย เต็มไปด้วยเลือด และมีรอย ถูกกรีด อยู่เป็นจำนานมาก
https://pantip.com/topic/43388640 รวม