JJNY : ยันไม่ฟ้อง อ.พอล ส่งผลบวกแน่│ศิริกัญญา จี้ตั้งงบ 69 มาเลย│ข้องใจไม่เร่งปราบฝั่งกัมพูชา│กำไร “แมคโดนัลด์” Q แรกลด

ศิริกัญญา ยันไม่ฟ้อง อ.พอล ส่งผลบวกแน่ เจรจาสหรัฐฯ แนะรบ.สื่อสารตรงๆ ยังติดขัดเรื่องอะไร
https://www.matichon.co.th/politics/news_5164854
.

.
‘ศิริกัญญา’ มอง อัยการภาค 6 ไม่สั่งฟ้อง ‘พอล แซมเบอร์ส’ เป็นผลบวกกับเจรจาสหรัฐฯ แน่ จี้ รัฐบาลสื่อสารตรงๆ ที่เรื่องอื่นที่สหรัฐบอกต้องพิจารณาด้วยคืออะไร บอก ต้องเร่งแก้ปัจจัยภายในอื่นที่มีความเปราะบาง ปม มูดี้ส์ปรับลดมุมมองความน่าเชื่อถือสถาบันการเงินไทย 7 แห่ง
.
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีอัยการภาค 6 มีคำสั่งไม่ฟ้อง ดร.พอล แซมเบอร์ส ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 มองว่า จะมีผลต่อการเจรจากับสหรัฐอเมริกาหรือไม่ ว่า การที่อัยการสั่งไม่ฟ้องอ.พอล เป็นผลบวกกับการเดินหน้าเจรจากับสหรัฐฯ แน่นอน หรือเราจะเรียกได้ว่าแก้ปมไปได้เปราะหนึ่ง แต่อาจจะยังมีปมอื่นๆ ที่ยังต้องแก้ เช่น เรื่องชาวอุยกูร์ที่ส่งกลับไป 40 คน แต่ยังเหลืออยู่อีก 5 คนที่ยังอยู่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) หรือไม่แน่ว่ายังมีพลเมืองอเมริกันที่ยังถูกจับกุมคุมขังอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมายอีกหรือไม่
.
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ตอนนี้รองนายกรัฐมนตรีที่เป็นหัวหน้าทีมเจรจา ออกมาบอกแล้วว่าสหรัฐฯ มีการพิจารณาเรื่องอื่น นอกเหนือจากเรื่องการค้า ฉะนั้น จึงควรสื่อสารกับประชาชนตรงไปตรงมาได้แล้วว่า เรื่องที่สหรัฐฯ พิจารณาที่ว่า คือเรื่องอะไร และรัฐบาลมีแนวทางที่จะหาทางออกเรื่องนี้อย่างไร ความล่าช้าที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปเพื่อการเตรียมตัว แต่เกิดจากข้อผิดพลาดของรัฐบาลเอง แล้วชดเชยความเสียหาย หากการเจรจาบรรลุผลล่าช้า ตามหลังประเทศอื่นๆ จนทำให้เสียโอกาสของประเทศ
.
เมื่อถามว่า มูดี้ส์ เรทติ้งส์ (Moody’s Ratings) ปรับลดมุมมองความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินไทย 7 แห่งเป็นลบจากคงที่ มองว่ารัฐบาลควรมีความกังวลอะไรหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เรื่องนี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังตอบแค่ว่า หลายประเทศก็โดน เช่น ประเทศกัมพูชา ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่วิธีการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง เพราะหลายประเทศก็ไม่ได้โดน แม้ว่าจะเจอสงครามการค้าเหมือนกับเรา จริงอยู่ว่าการปรับลดมุมมองจากมีเสถียรภาพเป็นลบ จะไม่ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลเพิ่ม เพราะเราไม่ได้กู้เป็นเงินตราต่างประเทศมากนัก แต่ก็ควรเป็นสัญญาณเตือนภัยให้รัฐบาล ว่าทำไมมูดี้ส์ถึงคิดว่าสงครามการค้าจะกระทบกับไทยมากกว่าประเทศอื่นๆ ปัจจัยภายในตัวไหนที่มีความเปราะบางต้องเร่งแก้ไข ไม่ใช่บอกว่าคนอื่นก็โดน
.

.
ศิริกัญญา จี้รัฐบาลตั้งงบ 69 มาเลย เอาไปทำอะไร ไม่ใช่โบ้ยให้สภาฯ ตัด จะได้ไม่ตีเช็คเปล่า
https://www.matichon.co.th/politics/news_5164850
.
ศิริกัญญา จี้รัฐบาล ดึงพ.ร.บ.งบ 69 กลับไปทบทวน ดักคอ หากบ่ายเบี่ยงไม่ยอมตัดเอง ก็ขอให้บอกเลยว่าจะตัดเท่าไหร่ เอาไปทำอะไร ให้กมธ.ฝ่ายรัฐบาลยอมตัด เย้ย ‘ฝ่ายค้าน’ จะได้สบายใจไม่ได้ตัดงบเพื่อเซ็นเช็คเปล่าให้ รบ.
.
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุเรื่องการทบทวนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่อยู่ในขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎร ว่า จริงๆ ตอนนี้ร่างงบประมาณยังอยู่กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยที่รัฐบาลสามารถดึงกลับไปทบทวนได้อยู่ แต่เมื่อการประชุมครม.ครั้งที่ผ่านมากลับอนุมัติร่างเดิมที่ยังไม่ได้มีการแก้ไข แล้วโบ้ยงานมาให้สภาเป็นผู้พิจารณาตัดงบประมาณเอง ซึ่งจะมีปัญหา 2 เรื่องด้วยกัน คือ หากตัดได้จริง สภาฯ ก็สามารถที่จะพิจารณาตัดงบประมาณได้อย่างเดียว แต่เพิ่มโครงการไม่ได้อีกแล้ว
.
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า จึงมีแค่ 2 ทางเลือก คือ แปรงบเข้าโครงการที่หน่วยงานเคยส่งคำขอมาก่อน แต่สำนักงบตัดไป ซึ่งคำขอเดิมก็คงไม่ได้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่อยู่ดี และแปรงบเข้างบกลาง ซึ่งรายการกระตุ้นเศรษฐกิจและเสริมสร้างความเข้มแข็ง ที่เดิมตั้งไว้ 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งน่าจะเอาไว้ทำดิจิทัลวอลเล็ต เฟสหลังๆ หากให้ตัดไปไว้งบกลาง ฝ่ายค้านคงไม่เห็นด้วยที่จะตัดงบเข้างบกลาง เพราะไม่รู้เลยว่ารัฐบาลจะเอางบไปทำอะไร
.
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาข้อที่ 2 คือ ประสบการณ์การให้สภาฯ ตัดงบเอง จากงบปี 68 ที่พบว่าพรรคร่วมรัฐบาลต่างก็ปกป้องงบประมาณกระทรวงตัวเอง ทำให้ตัดงบไปได้ไม่มาก ทั้งที่ตอนนั้นรัฐบาลกำลังต้องการเงินไปทำดิจิทัลวอลเล็ต สุดท้ายต้องไปตัดงบที่ตั้งไว้ชำระหนี้ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ออมสิน Exim Bank ธอส. สูงถึง 3 หมื่นล้านบาท จนกลายเป็นคดีความที่มีการร้องกันอยู่
.
ขอเรียกร้องให้ทางรัฐบาลดึงเอาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 69 ไปทบทวนเอง ซึ่งอาจจะทำให้ล่าช้าไปอีก 1-2 อาทิตย์ ไม่ถึง 3-4 เดือนอย่างที่รัฐบาลอ้าง เพราะเป็นการเพิ่มเพียงบางรายการ และตัดจากงบของหน่วยงานที่ยังไม่มีความจำเป็นในช่วงนี้หรือถ้าจะบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมทำเอง
.
จริงๆ ก็ขอให้ทางรัฐบาลตั้งวงเงินที่ต้องการให้ตัดมาเลยว่าอยากให้ตัดกี่แสนล้าน จะเอาไปทำโครงการอะไรบ้างที่มีรายละเอียดชัดเจน เพื่อให้สภาฯ และกรรมาธิการจากพรรคร่วมรัฐบาลยินยอมให้ตัดงบ ฝ่ายค้านจะสบายใจมากขึ้นว่าไม่ได้ตัดงบเพื่อเซ็นเช็คเปล่าให้รัฐบาลจะเอาไปทำอะไรก็ได้” น.ส.ศิริกัญญา
.

.
อนุกมธ.ปราบแก๊งคอล ถก กฤษฎีกา หาแนวทางใช้ พรก.ไซเบอร์ ข้องใจ รบ.ไม่เร่งปราบฝั่งกัมพูชา
https://www.matichon.co.th/politics/news_5164941
.
“ชุติพงศ์” เผย อนุฯปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ถก กฤษฎีกา หาเเนวทางการใช้ พ.ร.ก.ไซเบอร์ ข้องใจ รัฐบาลไม่เร่งปราบฝั่งกัมพูชา ทั้งที่มีความสัมพันธ์ระดับพ่อผู้นำประเทศ ชี้ปีงบฯ68 เสียหายหมื่นล้านแล้ว ลั่นตราบใดที่โจรยังอยู่ในมือถือของเราทุกคนไม่มีความปลอดภัย จี้ จัดการที่ต้นตอ
.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ส.ส.ระยอง พรรคประชาชน ในฐานะประธานอนุคณะกรรมาธิการ (กมธ.)พิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกัน ปราบปรามแก้ไขปัญหาขบวนการค้ามนุษย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้า ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมถึง กรณีแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์กลับมาระบาดใหม่อีกครั้ง ว่า การแก้ไขปัญหายังไม่มีความคืบหน้าจากหน่วยงานภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม แม้รัฐจะออกพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มาบังคับใช้แล้วก็ตาม ดังนั้นในที่ประชุมกมธ.ฯ วันนี้ (2 พ.ค.) จึงจะมีการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการบังคับใช้พ.ร.ก.ฯ รวมถึงการคาดการณ์ปัญหาและอุปสรรคในการบังคับใช้ โดยได้เชิญคณะกรรมการกฤษฎีกา มาให้ข้อมูลว่าในการออกกฎหมายฉบับนี้ มีข้อกังวลอย่างไรบ้างหรือไม่ เพื่อให้ทางอนุกมธ.ฯ จะได้ทำความเข้าใจในเรื่องการบังคับใช้ หรือการแก้ไขในอนาคตว่าจะต้องเป็นไปในรูปแบบใด ซึ่งการทำงานของอนุกมธ.ฯใกล้แล้วเสร็จ จึงต้องการทำให้สมบูรณ์มากที่สุด
.
นายชุติพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีการดำเนินการส่งชาวจีนกลับประเทศจีน โดยรัฐได้ตัดไฟและตัดน้ำมัน ที่จะส่งไปยังประเทศเมียนมา ซึ่งถือว่าได้ผลในระดับหนึ่ง แต่เราก็ยังไม่เห็นความคืบหน้าเท่าที่ควร ในหลายจุดโดยเฉพาะชายแดนประเทศกัมพูชา ซึ่งเราทราบข้อมูลมาว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น มีการหลอกคนไทยจำนวนมากที่สุด เพราะถ้าพูดกันตรงๆ ความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชา ระหว่างผู้นำประเทศ หรือระดับบุคคลที่เป็นรุ่นพ่อของผู้นำประเทศ ก็มีความสนิทสนมกันเป็นอย่างดี เหตุใดจึงไม่เจรจาเพื่อแก้ไขปัญหา และล่าสุดที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชา เราก็รอติดตามว่านายกฯได้มีการพูดคุยเรื่องการแก้ไขปัญหาเเก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนบ้างหรือไม่
.
เมื่อถามว่าล่าสุดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีเคสหลอกคนไทยที่เป็นดร.มองว่าการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลไม่ได้ผลหรือไม่ นายชุติพงศ์กล่าวว่า ตราบใดที่โจรยังอยู่ในมือถือของเราทุกคนไม่มีความปลอดภัย เพราะนายกฯก็เคยให้สัมภาษณ์ว่า เกือบโดนหลอกมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครปลอดภัย และอย่าคิดว่าเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพจะเป็นคนแก่เพียงอย่างเดียว เพราะหลายคนเป็นผู้ใหญ่ เป็นอาจารย์ วิศวกร เป็นคนที่มีความรู้ แต่เรื่องปฏิบัติการจิตวิทยาที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ จะสร้างความหวาดกลัว สร้างความรัก และมีการใช้แอพพลิเคชั่นที่แฝงเข้ามาในโทรศัพท์เพื่อหลอกให้ดาวน์โหลด จึงมีโอกาสที่ทุกคนสามารถพลาดได้ทั้งนั้น ถ้าเรายังไม่จัดการปัญหาที่ต้นตอต่อ คือปราบปราม ต้นตอที่ชายแดนอย่างจริงจัง เพราะตราบใดที่ไม่ทำอย่างนั้นเขาก็ยังอยู่ในโทรศัพท์ของเราทุกคน
.
นายชุติพงศ์ กล่าวต่อว่า แม้รัฐจะตัดไฟตัดน้ำมัน แต่ก็ทราบมาว่ามีเครื่องปั่นไฟอยู่ในพื้นที่ทำให้ฝั่งเมียนมายังมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ ในขณะที่ฝั่งกัมพูชา ซึ่งเราได้ข้อมูลจากการประชุมอนุกมธ.ฯว่า มีเครื่องปั่นไฟขนาดกลางถูกตั้งไว้หน้าบ้านที่สร้างใหม่จำนวนมาก ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์ขนาดเล็กไม่ใช่แค่ตึกสูงเหมือนที่เราทราบกัน คำถามคือถ้าเราเห็นว่าการตัดไฟตัดน้ำมันในฝั่งเมียนมาได้ผล แล้วทำไมไม่ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ฝั่งกัมพูชา ทำไมเราถึงทำอะไรไม่ได้ ซึ่งทราบมาว่าไฟฟ้าฝั่งปอยเปต ไฟฟ้าหลักมาจากประเทศเรา ทั้งๆ ที่ความสัมพันธ์รัฐบาลต่อรัฐบาลก็สามารถดำเนินการได้ จึงต้องถามไปยังรัฐบาลว่าจะรอถึงเมื่อไหร่ จะให้โจรอยู่ในมือถือของประชาชนอีกนานแค่ไหน
.
ทุกวันนี้ยังไม่มีการขยับหรือออกมาตรการในการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ คือทุกวันที่เงินอยู่ในกระเป๋าพี่น้องประชาชนอาจจะเป็นเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตของเขา ถูกเอาไปอยู่ในมือของมิจฉาชีพ ดังนั้นรัฐบาลควรจะดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้นแม้แต่วันเดียว เพราะเปิดปีงบประมาณ 68 มา ความเสียหายที่AOC แสดงอยู่ในเว็บไซต์มูลค่าหมื่นล้านบาทแล้ว ทำให้ประเทศชาติและประชาชนเสียเงินขนาดนี้ในระยะสั้นๆแค่นี้ แล้วจะกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร เราถึงจะทำให้ประชาชนมีกินมีใช้ และเฉพาะเคสที่แจ้งความในปีงบประมาณนี้มีจำนวนกว่า 90,000 ราย ซึ่งจำนวนผู้ถูกหลอกยังคงสูงอยู่ ทั้งที่เราคาดหวังว่าควรจะลดลงชุติพงศ์กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่