ข้อดีข้อเสียและการเลิกกระท่อม ตอนที่2.ข้อเสียของกระท่อม

กระทู้สนทนา
สวัสดีชาวพันทิปทุกท่านครับ หลังจากผมลงตอนที่1ไปกับข้อดีของกระท่อม ก็มีความคิดเห็นกันเข้ามาพอสมควรถึงจะไม่มากแต่ก็ต้องขอขอบคุณทุกความคิดเห็นในตอนที่1.มากๆเลยครับ อาจเรียบเรียงไม่ดีหรืออ่านเข้าใจอยากต้องขออภัยด้วยจริงๆครับคือผมไม่เคยเขียนอะไรยาวๆแบบนี้เท่าไหร่ครับขออภัยจริงๆครับ🙏🏻🙏🏻 วันนี้จะมาต่อกันตอนที่2กับข้อเสียของกระท่อมกันเลยนะครับ  
    กระท่อม?ก็คือสมุนไพร ใช้แต่พอดีก็ดีต่อร่างกาย ใช้มากไปก็กลายเป็นทำลายแทน มันก็ไม่ต่างจากอาหารการกินทั่วๆไปที่เรากินกันทุกวัน ที่จะมีคุณหมอออกมาพูดออกมาเตือนกันอยู่เสมอจนเราๆทุกคนนั้นคิดว่า บนโลกใบนี้คงกินอะไรไม่ได้แล้ว กินแล้วมีโอกาสเป็นโรคนั้นนี้ แต่? ความหมายของคุณหมอคือกินได้แต่กินให้พอดีกินอาหารให้ครบ5หมู่นั้นความหมายของคุณหมอที่ห่วงใยเรา.มั้งนะ😁แต่กระท่อมสำหรับผมนะ คำว่าพอดีมันใช้ได้แค่ถึงจุดที่ผมพอใจ.จากครึ่งลิตร.ไป1ลิตร.ไปต่อที่1.5ลิตร.แล้วก็2ลิตรและมันจะไปต่อที่2.5ลิตร3ลิตรต่อวัน แล้วก็เป็นหม้อแต่ผมหยุดและพอใจที่ไม่เกิน2ลิตรเพราะมากกว่านั้นมันจะไปไกลจนกลายเป็นมันกินเรา.ตามจริง1-2ลิตรต่อวันมันก็กินเราไปครึ่งนึงแล้วแต่มันคือพอดีสำหรับผม..ไม่เจ็บไม่ป่วยไม่ตาย.แต่เดี๋ยวครับ..มันไม่จริงเสมอไป.พล่ามมาถึงนี้ก็ถึงเวลาข้อเสียของกระท่อมข้อแรกกันได้แล้ว แต่อีกนิดนึงครับข้อเสียที่จะกล่าวต่อไปนี้ มันคือประสบการณ์จริงที่ร่างกายผมเจอมาและอุปนิสัยของผมที่เป็นอยู่ ซึ่งมันอาจไม่เหมือนกันทุกคนนะครับ ต้องทำความเข้าใจกันก่อนบางข้ออาจเกิดจากร่างกายและนิสัยส่วนตัวของผมเอง เอาละไปกันเลยครับ
  ข้อที่1.(อารมณ์แปลปรวนก้าวร้าว)
อารมณ์แปลปรวนก้าวร้าว ไม่ได้หมายถึงขั้นอาละวาดหรือจะฆ่าจะแกงไม่ถึงขั้นนั้น อารมณ์คล้ายๆหงุดหงิดง่าย แต่ควบคุมตัวเองได้ไม่ได้ถึงขั้นปีนเสาไฟเอามีดไปจี้คอใครหรือไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน  ผมเองก็ไม่อยากโทษกระท่อมซะทีเดียวซึ่งมันอาจเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวผมเองที่เป็นคนเก็บกด.เก็บทุกเรื่องราวเก็บทุกแรงกระแทกทางจิตใจ.แต่ภายนอกเป็นคนสนุกสนานเฮฮาคนรอบข้างมีความสุขสนุกจนไม่มีใครรู้ถึงด้านดำดิ่งของผม ไม่ว่าอะไรก็ตาม ผมจะรับมันไว้คนเดียว เหตุผลใดที่ผมพูดไปแล้วมันสะท้อนกลับมาผมก็เก็บไว้ ก่อนใช้กระท่อมผมระบายสิ่งที่เก็บไว้ด้วยการคุยกับด้วยเองเมื่ออยู่คนเดียว อาจเหมือนคนบ้าแต่ได้ผลดี แต่เมื่อผมใช้กระท่อมมาสักระยะมันเหมือนกระท่อมค่อยๆปลดปล่อยด้านดำดิ่งด้านมืดที่ผมไม่คิดจะระบายออกต่อคนรอบข้าง มันก็ค่อยๆแสดงให้คนในครอบครัวเห็นถึงอารมณ์และตัวผมที่เปลี่ยนไป อารมณ์แปลปรวนก้าวร้าวส่วนใหญ่เกิดกับคนในครอบครัวซะส่วนใหญ่ พูดผิดหู พูดไม่ถูกใจก็เกิดอาการหงุดหงิดทันทีและกับคนภายนอกมันจะอีกแบบนึง.นิ่งมากกว่าเดิมเงียบมากกว่าเดิม ความสนุกลดน้อยจนคนรอบข้างมองออก มันอาจไม่เกี่ยวกับกระท่อมซะทีเดียว แต่กระท่อมอาจช่วยปลดล็อคบางอย่างในตัวเราออกมาโดยไม่รู้ตัว
   ข้อที่2.(สมรรถภาพทางเพศเสื่อมหรืออารมณ์ทางเพศเสื่อม)
มาถึงข้อนี้ก็ยังคงเป็นปัญหาไปถึงคนในครอบครัวและชี้โดยตรงคือคู่รักหรือเมียนั้นแหละ..5555หลายคนคงคิดว่าเป็นเรื่องตลกแต่ไม่ตลกครับและมองข้ามไม่ได้เด็ดขาด😒..เมียเราไม่ตลกด้วยแน่นอนครับมันคือปัญหาใหญ่ระดับชีวิตเลยครับ.ทีแรกผมไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่แน่ชัดครับว่าทำไมเราไม่มีอารมณ์แบบนั้น..แต่พอนานไปนานไปแฟนเริ่มพูดบ่อยๆว่าช่วงนี้ห่างบ้าง อ่อนบ้าง ผมก็ไม่ได้คิดอะไรครับคงเพราะทำงานหนัก แต่พอหลังๆแฟนเริ่มพูดบ่อยขึ้นเรื่อยๆเริ่มทะเลาะกันบ่อยจนแฟนบอก(ก็กินกระท่อมไงมันถึงทำให้ไอ้จ้อนะหมดสมรรถภาพไปหาดูในอินเตอร์เน็ตซะบ้าง)หลังจากนั้นผมก็ไปดูในอินเตอร์เน็ตจนรู้ว่าเออจริงวะมีคนที่ใช้กระท่อมเป็นเหมือนกันหลายคน..อืม🤔แต่มันไม่มีอารมณ์จริงๆครับพูดไม่อายเลย เร้ายังไงก็อยู่อย่างงั้น.และนอนดึกด้วยถึงเวลานอนนอนอย่างเดียวเพราะนอนหลับสบายมากตื่นมากินกระท่อมอาบน้ำไปทำงานตัวเบาหวิว โดยไม่รู้เลยว่านี้คือปัญหาใหญ่มาก เรามีความสุขกับกระท่อม แต่กลับละเลยความสุขที่ควรจะเป็น ..สำหรับข้อนี้คนมีคู่ผัวเมียควรระวังนะครับ เพราะอาจจะเป็นเหมือนผม เมียไม่เน้นเรื่องนั้นก็ดีไป..ถ้าเขาเน้นคือชีวิตเปลี่ยนได้เลยนะครับ ถามว่าจริงไหมสำหรับตัวผมคือจริง เพราะพอเลิกกระท่อมมาแล้วมันกลับมาใช้งานได้เต็มระบบเหมือนเดิม😁
   ข้อที่3.(มือสั่น ตัวกระตุกระหว่างนอนหลับ)
ข้อนี้เริ่มมาถึงจุดที่ใกล้เคียงกับความตายละครับใจหวั่นๆละ..มือสั่นผมรู้ได้จากตัวผมเอง.เพราะเวลาไม่ได้ทำอะไรอยู่เฉยๆมันจะสั่นไม่ใช่แค่มือครับแขนขาก็เป็นแต่ไม่แรงนะครับแต่รู้ได้ว่าสั่น แต่ตัวกระตุกผมรู้จากแฟนผมเพราะเวลาตัวกระตุก ผมจะเป็นตอนนอนซึ่งนางจะรู้สึกได้ แล้วถามผมตอนเช้าว่ารู้ตัวไหมว่าตัวเองนะนอนๆอยู่แล้วตัวกระตุก ผมเลยบอกไม่รู้ แฟนบอกว่าผมจะกระตุกทุกคืนในระยะหลังๆ..นั้นก็คือหลังจากผมกินกระท่อมมาปีกว่าๆแล้ว.ในระยะการกินต่อวัน1.5-2.0ลิตรต่อวันและนางยังบอกว่าผมจะกระตุกหนักที่สุดคือวันที่ผมต้มกระท่อม คืองี้ครับ..ผมจะต้มกระท่อมหม้อใหญ่ๆเลยใส่ใบไป3ขีดถึงครึ่งกิโลกรัมต่อน้ำ8-10ลิตรแล้วต้มให้น้ำเหลือประมาน7-8ลิตรจะกินได้ราวๆ3-4วันหมด..ซึ่งในวันที่ต้มกระท่อมจะเป็นวันที่ผมกินกระท่อมมากกว่า2.5ลิตรเพราะเวลากรอกใส่ขวดน้ำมักจะเหลือก็จะจิ๊บไปด้วยกรอกไปด้วยนั้นแหละ..มันเหมือนเกินความจำเป็นหรือเกินกว่าร่างกายจะรับได้.หลังๆหนักขึ้นครับมันกระตุกจนผมรู้สึกได้จนผมตื่น.จากนอนตะแคงอยู่กระตุกกลับมานอนหงายทันที แฟนก็ตกใจตื่นมาบ่นเป็นไงจะตายละมั้งนะ.ผมก็ตกใจเหมือนกันแต่มันก็ไม่มีอะไรนะครับหัวใจการหายใจก็ปกตินะมันคงเพราะก้ามเนื้อมันถูกกระตุ้นตลอดจากกระท่อมมั้งครับผมคิดแบบนั้น..ใครเป็นแบบนี่อยู่เบาๆลงหรือเลิกได้ก็ดีครับ พอผมเลิกมาแล้วหายครับไม่เป็นอีกเลย
    ข้อที่.4(สูบบุหรี่จัด)
ข้อนี้ผมได้กล่าวไว้ในตอนที่1.ข้อดีของกระท่อมในหัวข้อที่4ว่า ผมเอาเงินจากที่ไม่ได้ซื้อเหล้าไปหมดกับอะไรแทน.นี้ไงครับกับไอ้นี้แหละบุหรี่..ข้อนี้สำหรับคนสูบบุหรี่เลยนะครับและอาจจะบางคน..ผมเองก็สูบ ก่อนผมจะกินกระท่อมผมสูบบุหรี่แค่เฉพาะตอนเย็นเท่านั้นครับประมาน5-6มวนในเวลา6โมงเย็นถึง3ทุ่มหรืออาจมีก่อนนอนบ้างแต่กลางวันจะไม่สูบบุหรี่เลยสักมวนเดียว ที่เป็นแบบนี้เพราะผมเลิกไม่ได้จึงใช้วิธีลดลงจากวันละ1-2ซองเหลือแค่วันละ5-6มวน.คิดดูซิครับแต่ก่อนผมสูบวันละ2ซองซองละ60B.1วัน120B.1เดือน3600Bลดลงมาเรื่อยๆจนเหลือแค่5-6มวนต่อวันเท่ากับ3วันต่อ1ซอง75Bต่อซอง เท่ากับ10ซองต่อเดือน เท่ากับ750Bต่อ1เดือน.ประหยัดไปเยอะมากครับ..จนมาถึงตอนที่ผมเริ่มกินกระท่อมไปได้สักระยะซึ่งตอนนั้นถึงขั้นกินเหล้าน้อยมากๆมีเงินเก็บมาสักระยะจากค่าเหล้าที่ไม่ได้จ่ายมากแล้วตกเหลือ900-1000ต่อสัปดาห์..ผมก็เริ่มสูบบุหรี่ในตอนกลางวัน.เริ่มจากหลังกินข้าวเช้า1มวนหลังข้าวเที่ยง1มวนก่อนเลิกงาน1มวน.ตกเย็นมาก็อีกเท่าที่เคยสูบปกติ5-6มวน..ที่นี้พอกินมันเข้าเส้นมาก.คือกระท่อมออกฤทธิ์แล้วสูบบุหรี่ยิ่งสูบยิ่งมันสำหรับผมมันแบบนั้นจริงๆยิ่งดึงยิ่งแซ่บ..เริ่มกลายมาเป็น ก่อนกินข้าวเช้า1มวน หลังกินข้าวเช้า1มวน ก่อนข้าวเที่ยง1มวน หลังข้าวเที่ยง1มวน บ่าย2อีก1มวน บ่าย4อีก1มวน 5โมงเย็นอีก1มวน..เลิกงานกลับบ้านจาก5-6มวนกลายเป็น8-12มวน..จะ1ซองต่อวันละครับพอมันลงลึกไปเรื่อยๆกลายเป็นวันละ2ซองเหมือนเดิมเผลอๆเยอะกว่านั้นตกเดือนละ4500-5000Bต่อเดือนหรือ1125-1250ต่อสัปดาห์.โอ้ว!!หนักกว่าเดิม.ตัวเลขที่หน้าใจหาย.สรุปไม่ได้อะไรเลยเสียเพิ่มอีกต่างหากแถมทำลายตัวเองมากกว่าเก่า..ถ้าคนไม่สูบบุหรี่ไม่กินเหล้าก็ถือว่าดีแต่?คุณก็มีรายจ่ายเพิ่มคือค่ากระท่อมนั้นเอง.ถ้ากินเหมือนผม1-2ลิตรต่อวันต้มเองไม่ผสมยาก็200-250ต่อสัปดาห์..ผสมยาก็เพิ่มเข้าไปอีก2-3เท่า..ถ้าไม่เอาอะไรเลยก็คือไม่เสียสักบาท แต่ถ้าต้องเลือกก็เอาสักอย่าง..ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวเราที่กำหนดหากพึงพอใจในตัวเอง คุณก็จะไม่เห็นส่วนที่คุณเสียไปแค่คิดว่ามันก็ไม่เสียหาย.แต่ผมวันนี้ที่เคยคิดแบบนั้นคือเสียหายไปเยอะพอสมควร
    ข้อที่5.(ติดแล้วเลิกยาก)
ข้อสุดท้ายนี้ผมเองยอมรับไว้ตรงนี้เลยว่ากระท่อมคือสิ่งเสพติดที่ไม่อาจปฏิเสธได้คนที่ใช้แล้วไม่ติดเนี้ยมีบุญครับ..มันจะติดไม่ติดขึ้นอยู่กับจำนวนใบที่ใช้ต้มใช้กินระยะเวลาและปริมาณที่กินเข้าไปช่วงเวลาที่กินซ้ำๆทุกวัน..ถ้าเอาความรู้สึกที่ผมติดแล้วแน่ๆ..คือกินวันละ1.5ลิตร..ต้มในน้ำ4ลิตรใส่ใบ3ขีด..แบ่งกิน3เวลา เช้า กลางวัน เย็น ก็ถ้านับเวลาตั้งแต่เริ่มกินจนมาถึงรู้ว่าติดรวมๆ3-4เดือนแต่ผมก็ยังกินต่อ ถามว่ารู้ได้ไงว่าติดแล้ว ไม่ยากเลยครับ.เอาผมเป็นตัวอย่างที่ผมกินมา ตื่นเข้าห้องน้ำตี5ถึงตี5ครึ่งตื่นปุ๊บเปิดตู้เย็นปั๊บกินไปก่อนเลย2-3อึกแล้วเข้าห้องน้ำเสร็จกลับมานอนต่อ จากนั้นตื่น6โมงครึ่งอาบน้ำทำงานอาบเสร็จนั่งดูโทรศัพท์แล้วกินต่ออีก1แก้วราวๆ250-300ซีๆที่เหลือก็กินตามเวลาไปตลอดวัน..(เอาแค่ตอนเช้าที่ผมกินทุกวันแค่นั้น) หยุดกินไปเลยครับตื่นมาไม่ต้องกินเข้าห้องน้ำตีห้ากลับมานอนต่อ6โมงครึ่งตื่นอาบเสร็จไปทำงานเลย.ไม่ต้องกินแค่นั้นแหละครับ คุณจะรู้สึกคั้นเนื้อคั้นตัวตั้งแต่อาบน้ำเสร็จได้10-15นาทีแล้วจนไปถึงสายๆเริ่มปวดตัวปวดก้ามเนื้อตามด้วย อาการหาวน้ำตาไหล ท้องฟ้าดูหม่นๆ..นั้นแหละติดกระท่อมแล้วแน่นอน100% แล้วคิดดูครับหลังจาก1.5ลิตรผมก็ไปถึง2.0ลิตรต่อวันบางวัน2.5ก็มีคือโดนมันครองร่างละ แต่เราไม่อยากทำตามใจ เราถึงหยุดแค่2.0ลิตรต่อวัน.
ทำไมติดกระท่อมแล้วเลิกอยาก..เอาที่ผมเข้าใจนะครับ.มันทำให้กระบวนการของร่างกายมีกำลังกว่าปกติทั่วไป พูดง่ายๆมันมีสารช่วยกระตุ้นร่างกาย โดยนำน้ำตาลในร่างกายไปใช้ในส่วนที่เราต้องใช้งานมากที่สุดและสารกระท่อมก็คือตัวนำทางน้ำตาลไปเพื่อไปเติมใส่ส่วนนั้นๆกระจายออกไปตามก้ามเนื้อของร่างกายแทบทุกส่วน..บวกกับกระท่อมก็มีสารกระตุ้นเมื่อรวมร่างกับเลือดก็เท่ากับมันครองร่างเราแล้ว ที่นี้มันก็เป็นผู้ควบคุมร่างกายเราแล้วซึมไปทั่วร่างกาย ก้ามเนื้อ สมอง ความคิด คือทาสของมัน..ถ้าจะเอามันออกก็ต้องแลกกับนรกทั้งเป็น.เพราะเมื่อเราหยุดกินกระท่อม ก้ามเนื้อร่างกายที่เป็นทาสกระท่อมไปแล้วมันจะต่อต้านเราทันทีและสร้างความเจ็บปวดเพื่อกระตุ้นให้เรากินกระท่อมเข้าไปหล่อเลี้ยงพวกมัน.มีแค่ใจเราเท่านั้นครับที่กระท่อมครอบครองไม่ได้..แต่ก้ามเนื้อที่เป็นทาสมัน สร้างความเจ็บปวดจนทำให้ใจเราแพ้และยอมจำนน..เราถึงเลิกมันไม่ได้ถ้าใจไม่นิ่งพอ กำลังใจไม่มากพอ เป้าหมายเบาเกินไป..กว่าจะถึงวันที่คุณจะเลิกอาจยากกว่าหลายร้อยเท่า
   ขอสรุปข้อเสียของการใช้กระท่อมไว้เท่านี้ครับมันอาจจะยาวไป ก็เพื่อให้ทุกคนเข้าใจและคำนึงถึงผลเสียของมันผ่านประสบการณ์ของผม ตามจริงข้อเสียมันเยอะกว่านี้ครับ มันขึ้นอยู่กับตัวบุคคลและพฤติกรรมการกิน มันจะส่งผลเสียมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่ตรงนี้ด้วย แต่นี้คือร่างกายและจิตใจที่ผมเผชิญมา หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ด้วยครับ
แล้วเจอกันตอนต่อไป..วิธีการเลิกกระท่อมของผม..ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่