บทความจาก เพจรามา แชนแนล โดยรศ. พญ.ประพิมพ์พร ฉัตรานุกูลชัย (ฉันทวศินกุล) สาขาวิชาโภชนวิทยาและชีวเคมีทางการแพทย ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงระบบเผาผลาญพัง ลดน้ำหนักเท่าไรก็ไม่ผอม ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? คุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังพยายามลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย แต่ตัวเลขบนตาชั่งกลับไม่ขยับเลยใช่ไหม ปัญหานี้อาจไม่ได้อยู่ที่ความพยายามของคุณ แต่อยู่ที่ “ระบบเผาผลาญพัง หรือ ระบบเผาผลาญเสื่อม” ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่หลายคนมองข้าม ระบบเผาผลาญที่ทำงานผิดปกติไม่เพียงแต่ทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องยาก แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ด้วย ในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จักกับระบบเผาผลาญพัง พร้อมวิธีฟื้นฟูให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป้าหมายสุขภาพและรูปร่างที่คุณต้องการ
ระบบเผาผลาญ คืออะไร
โดยปกติร่างกายคนเรามีการเผาผลาญตลอดเวลา แม้ในระหว่างนอนนิ่ง ๆ อยู่กับที่ ร่างกายก็ยังมีการเผาผลาญไปด้วย เรียกว่า “อัตราการเผาผลาญพื้นฐาน” โดยแต่ละบุคคลจะมีอัตราการเผาผลาญพื้นฐานแตกต่างกันออกไป และเมื่อร่างกายมีการทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือมีการใช้แรง เช่น เดิน พูดคุย ร่างกายก็จะมีอัตราการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ขณะที่ร่างกายทำการย่อยอาหารและดูดซึมก็มีการเผาผลาญเกิดขึ้นเช่นกัน
อัตราการเผาผลาญของร่างกาย สามารถวัดได้หรือไม่?
อัตราการเผาผลาญของร่างกายสามารถวัดได้ แต่จะทำในผู้ที่มีแนวโน้มว่าอาจมีปัญหาในเรื่องของระบบเผาผลาญที่ผิดปกติเท่านั้น หรือใช้ในคนไข้ที่มีโรคบางโรคที่ทำให้คำนวณอัตราการเผาผลาญได้ไม่แม่นยำ หรือใช้ในงานวิจัย ซึ่งต้องผ่านการพิจารณาจากแพทย์เฉพาะทาง เช่น คนที่พยายามลดน้ำหนักแต่ไม่เป็นผลสำเร็จหรือในผู้ป่วยวิกฤติ มีอาการบาดเจ็บสาหัส เช่น แผลไฟไหม้ แผลน้ำร้อนลวกขั้นรุนแรง โดยก่อนการวัดจะต้องเตรียมตัวมาก่อนเหมือนกับการเตรียมตัวก่อนเจาะเลือด เช่น การงดน้ำ งดอาหาร
วิธีการวัดอัตราการเผาผลาญของร่างกาย
วิธีการวัดคือให้นอนนิ่ง ๆ เป็นเวลา 30 นาที เพื่อวัดอัตราการใช้ออกซิเจน และอัตราการสร้างคาร์บอนไดออกไซด์ ว่าสามารถสร้างได้เท่าไร ซึ่งจะบอกได้ว่าร่างกายมีอัตราการเผาผลาญพื้นฐานที่เท่าไร หรือเผาผลาญพลังงานได้กี่แคลอรี
วิธีสังเกตภาวะระบบเผาผลาญพัง
รับประทานอาหารน้อยหรือเท่ากับคนอื่น แต่น้ำหนักเพิ่มขึ้นมากกว่าคนอื่น (อ้วนง่ายผิดปกติ)
พยายามลดน้ำหนัก แต่น้ำหนักไม่ยอมลดน้อยลง
ระบบเผาผลาญพัง เกิดจาก
ป่วยด้วยโรคบางอย่าง เช่น ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
อายุที่เพิ่มขึ้น อัตราการเผาผลาญพื้นฐานมักต่ำลง
คนที่ตัวเล็กกว่ามักมีอัตราการเผาผลาญต่ำกว่าคนที่ตัวใหญ่กว่า
คนที่มีน้ำหนักขึ้น ๆ ลง ๆ ซ้ำซาก จากการลดน้ำหนักผิดวิธี ส่งผลให้อัตราการเผาผลาญพื้นฐานต่ำลงได้
อาหารที่สัมพันธ์กับระบบเผาผลาญของร่างกาย
อาหารที่กระตุ้นการเผาผลาญ คือ อาหารหมู่โปรตีน
อาหารประเภทไขมัน ไม่ค่อยกระตุ้นการเผาผลาญมากนัก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการกระตุ้นระบบเผาผลาญของอาหารนั้นมีผลเพียงร้อยละ 10 ซึ่งน้อยมาก สิ่งที่มีผลต่อระบบเผาผลาญของร่างกายอย่างมากก็คือ การเผาผลาญพื้นฐานในบุคคลนั้นและกิจกรรมทางกาย
ผลกระทบจากภาวะระบบเผาผลาญพัง
โรคอ้วน
โรคอื่นที่เกิดจากความอ้วน เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคหัวใจ เข่าเสื่อม
การรักษาภาวะระบบเผาผลาญพัง
รักษาที่สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าว เช่น หากพบว่ามีสาเหตุมาจากตัวโรค ก็ทำการรักษาโรคนั้น หรือถ้าหากเกิดจากการลดน้ำหนักที่ผิดวิธี ก็ต้องรักษาด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีการลดน้ำหนักให้ถูกต้อง
การลดน้ำหนักที่มีผลต่อระบบเผาผลาญ
การลดน้ำหนักที่ไม่ถูกต้องเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระบบเผาผลาญพัง ได้แก่
การอดอาหาร
การรับประทานเฉพาะผัก ผลไม้ หลีกเลี่ยงการรับประทานแป้งและเนื้อสัตว์
การปล่อยให้น้ำหนักขึ้น ๆ ลง ๆ ซ้ำซาก
การรับประทานเฉพาะผักและผลไม้ จะทำให้น้ำหนักลดลงจริง แต่สิ่งที่ลดลงมักจะเป็นมวลกล้ามเนื้อซึ่งจะทำให้อัตราการเผาผลาญพื้นฐานลดลง จะส่งผลให้ระบบเผาผลาญเสื่อมลง ทำให้กลับมาอ้วนอีกและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมักจะมากกว่าน้ำหนักตั้งต้น
วิธีลดน้ำหนักที่ถูกต้อง
การลดน้ำหนักที่ถูกต้องจะต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และเลือกรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม มีปริมาณโปรตีนเพียงพอ พร้อมกับสารอาหารที่ครบถ้วน สามารถรับประทานไปได้ตลอดในระยะยาว เพื่อให้ระบบเผาผลาญมีการปรับตัวที่สมดุล ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น ร่วมกับการออกกำลังกาย
ระบบเผาผลาญพังเป็นอุปสรรคสำคัญในการลดน้ำหนัก แต่สามารถฟื้นฟูได้ด้วยการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การเพิ่มกิจกรรมทางกาย และการดูแลสุขภาพโดยรวม การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอย่างเหมาะสมจะช่วยให้การลดน้ำหนักกลับมาได้ผลอีกครั้ง พร้อมทั้งสุขภาพที่แข็งแรงในระยะยาว
https://www.dailynews.co.th/news/4644279/
ลดน้ำหนักเท่าไรก็ไม่ผอม... เกิดจากระบบเผาผลาญพัง...มีวิธีฟื้นฟูอย่างไรอ่านเลย