หลายวันก่อนเห็น Facebook หนึ่งลงยอดขายรถ VinFast ในเวียดนาม
ไตรมาส 1 2568 นำเป็นอันดับ 1 ด้วยยอดทิ้งห่างอันดับ 2 หลายช่วงตัว เลยเข้าไปค้นข้อมูลเพิ่มเติม ปีที่แล้วยอดขาย 97,000 คัน 20% ขายให้กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ VinFast
ดูตัวเลขยอดขายแล้ว มันใช้ได้เลยละ
เมื่อดูตัวเลขยอดขายแล้ว คิดว่าน่าจะพอมีกำรี่กำไรบ้าง
ผิดคาดขาดทุนหนักมาก
เริ่มแค่ 3 บรรทัดแรก ตัวเลขติดลบแล้ว ต้นทุนผลิตมากกว่ารายได้ นั่นหมายถึง รถยนต์ที่ผลิตได้ขายในราคาขาดทุนตั้งแต่แรกเลย ยิ่งขายมากยิ่งขาดทุนมาก (ดูจากตัวเลขบรรทัดแรกยิ่งเพิ่มขึ้น ตัวเลขบรรทัด 3 ยิ่งติดลบ)
จนถึงบรรทัดสุดท้าย ล่าสุดขาดทุนค่อนข้างหนัก (TTM รวม 4 ไตรมาสล่าสุด Q3 2023 - Q3 2024) แปลงเป็นเงินไทยขาดทุนระดับ 7.8 หมื่นล้านบาท
งบดุล ส่วนทุนติดลบหนักอีก ต้องเติมเงินระดับ 8 หมื่นกว่าล้านบาท หรือเงิน USD 2,300 ล้านเหรียญ ส่วนทุนถึงจะกลับมาเป็นบวกได้
งบกระแสเงินสด Operating Cash Flow ติดลบหนักขึ้นทุกปี ที่ยังดำเนินธุรกิจมาได้ มาจาก Financing Cash Flow หรือก็คือ กู้ หรือ เงินเจ้าของ (เพิ่มทุน) ซึ่งต้องใส่เงินเข้าตลอด ไม่งั้นขาดสภาพคล่อง
มาถึงตรงนี้แล้ว รถที่ขายมันเป็นราคาขายขาดทุนตั้งแต่แรก ยิ่งขายมากก็ขาดทุนมาก มันแสดงให้เห็นว่ากิจการนี้มีมีแต่สูบเงินเจ้าของอย่างเดียว มันไปดึงความมั่งคั่งของเจ้าของให้ลดลง
หรือมันมีอะไรพอที่จะเปลี่ยนเกมได้ ? เจ้าของถึงได้ยังทำต่อ...
VinFast บริษัทที่โคตรจะสูบความมั่งคั่งของเจ้าของ
ไตรมาส 1 2568 นำเป็นอันดับ 1 ด้วยยอดทิ้งห่างอันดับ 2 หลายช่วงตัว เลยเข้าไปค้นข้อมูลเพิ่มเติม ปีที่แล้วยอดขาย 97,000 คัน 20% ขายให้กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ VinFast
ดูตัวเลขยอดขายแล้ว มันใช้ได้เลยละ
เมื่อดูตัวเลขยอดขายแล้ว คิดว่าน่าจะพอมีกำรี่กำไรบ้าง
ผิดคาดขาดทุนหนักมาก
เริ่มแค่ 3 บรรทัดแรก ตัวเลขติดลบแล้ว ต้นทุนผลิตมากกว่ารายได้ นั่นหมายถึง รถยนต์ที่ผลิตได้ขายในราคาขาดทุนตั้งแต่แรกเลย ยิ่งขายมากยิ่งขาดทุนมาก (ดูจากตัวเลขบรรทัดแรกยิ่งเพิ่มขึ้น ตัวเลขบรรทัด 3 ยิ่งติดลบ)
จนถึงบรรทัดสุดท้าย ล่าสุดขาดทุนค่อนข้างหนัก (TTM รวม 4 ไตรมาสล่าสุด Q3 2023 - Q3 2024) แปลงเป็นเงินไทยขาดทุนระดับ 7.8 หมื่นล้านบาท
งบดุล ส่วนทุนติดลบหนักอีก ต้องเติมเงินระดับ 8 หมื่นกว่าล้านบาท หรือเงิน USD 2,300 ล้านเหรียญ ส่วนทุนถึงจะกลับมาเป็นบวกได้
งบกระแสเงินสด Operating Cash Flow ติดลบหนักขึ้นทุกปี ที่ยังดำเนินธุรกิจมาได้ มาจาก Financing Cash Flow หรือก็คือ กู้ หรือ เงินเจ้าของ (เพิ่มทุน) ซึ่งต้องใส่เงินเข้าตลอด ไม่งั้นขาดสภาพคล่อง
มาถึงตรงนี้แล้ว รถที่ขายมันเป็นราคาขายขาดทุนตั้งแต่แรก ยิ่งขายมากก็ขาดทุนมาก มันแสดงให้เห็นว่ากิจการนี้มีมีแต่สูบเงินเจ้าของอย่างเดียว มันไปดึงความมั่งคั่งของเจ้าของให้ลดลง
หรือมันมีอะไรพอที่จะเปลี่ยนเกมได้ ? เจ้าของถึงได้ยังทำต่อ...