สรุป กลุ่ม Vingroup ตัวลาก ตลาดหุ้นเวียดนาม ที่เป็นระเบิดเวลา /โดย ลงทุนแมน

คล้าย DELTA  ของเรามั้ยนะ ที่ลากขึ้น ลากลง ได้ทั้งตลาด
แต่นี่มาเป็นกลุ่ม
https://www.facebook.com/share/p/19u8mqekAM/



รู้ไหมว่า ตลาดหุ้นเวียดนาม (HOSE) มีมูลค่า 8.6 ล้านล้านบาท
แต่สัดส่วนราว 15% หรือ 1.3 ล้านล้านบาท คือมูลค่าบริษัทของทั้งกลุ่ม Vingroup รวมกัน ซึ่งเป็นกลุ่มทุนใหญ่สุดของเวียดนาม

แปลว่า การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในกลุ่มบริษัทนี้
ส่งผลต่อดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามมากตามไปด้วย

ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
- Vingroup +205%
- Vinhomes +139%
- Vincom +75%
- Vinpearl -20% (เข้าตลาดหุ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา)

เทียบกับ ตลาดหุ้นเวียดนาม +30%

สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ หลายคนลงทุนหุ้นเวียดนามแล้วรู้สึกว่าไม่ไปไหน หุ้นขึ้นน้อยกว่าดัชนี

ล่าสุด ดร.นิเวศน์ เขียนบทความตลาดหุ้นเวียดนามขึ้น แต่หุ้นเวียดนามในพอร์ตของ ดร.นิเวศน์ ไม่ขึ้น หนึ่งในสาเหตุหลักก็คือเรื่องนี้

กลุ่ม Vingroup กำลังมีราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นแรงกว่าหุ้นกลุ่มอื่นในตลาดเวียดนาม จนกำลังบิดเบือนภาพรวมตลาดหุ้นเวียดนามให้ขึ้นสูงเกินจริง และกลายเป็นระเบิดเวลาในอนาคต

แล้ว Vingroup คือใคร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

Vingroup ถูกก่อตั้งขึ้นโดยคุณ Pham Nhat Vuong
มหาเศรษฐีรวยสุดในเวียดนามคนปัจจุบัน

เกิดจากการควบรวม Vincom ธุรกิจศูนย์การค้า และ Vinpearl ธุรกิจโรงแรม เข้าด้วยกันในปี 2012

ปัจจุบัน Vingroup เป็นบริษัทโฮลดิง ที่ประกอบไปด้วยเครือบริษัทอื่น ๆ
มีทั้ง ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์การค้า โรงแรม โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย เทคโนโลยี รวมไปถึงธุรกิจรถยนต์

บริษัทนี้มีมูลค่า 579,500 ล้านบาท ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 เป็นรองเพียง Vietcombank ธนาคารใหญ่สุดของเวียดนาม
ซึ่งวันนี้ Vingroup ซื้อขายบน P/E สูงถึง 35 เท่า

และถ้าไปดู P/BV ระดับ 3 เท่า ถือว่าอยู่ในระดับสูงมาก
เทียบกับบริษัท Conglomerate ระดับโลกที่เป็นโฮลดิง ที่มีธุรกิจกระจายอยู่ในหลายอุตสาหกรรม

- Samsung 1.2 เท่า
- Berkshire Hathaway 1.6 เท่า
- Reliance Industries 1.9 เท่า

ผลประกอบการที่ผ่านมาของ Vingroup

ปี 2021
รายได้ 150,800 ล้านบาท กำไร -3,000 ล้านบาท

ปี 2022
รายได้ 122,200 ล้านบาท กำไร 10,500 ล้านบาท

ปี 2023
รายได้ 193,700 ล้านบาท กำไร 2,600 ล้านบาท

ปี 2024
รายได้ 226,900 ล้านบาท กำไร 14,300 ล้านบาท

6 เดือนแรก ปี 2025
รายได้ 156,400 ล้านบาท กำไร 7,700 ล้านบาท

โดยบริษัทในเครือ Vingroup แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มธุรกิจ

1. อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี

- VinAI, VinBigData, VinHMS, VinCSS, VinRobotics, VinMotion ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI, เทคโนโลยีข้อมูล, แพลตฟอร์มการจัดการธุรกิจ, ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และหุ่นยนต์

- VinBus ผู้ให้บริการรถโดยสารไฟฟ้าสาธารณะ

- VinFast ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ที่มีมูลค่าบริษัท 268,300 ล้านบาท

โดยจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดย Vingroup ถือหุ้นใหญ่อยู่ 51% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

ผลประกอบการที่ผ่านมาของ VinFast

ปี 2024 มีรายได้ 52,800 ล้านบาท ขาดทุน 92,700 ล้านบาท

2. พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริการ

- Vinhomes ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มีโครงการที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดมิเนียม, บ้านเดี่ยว รวมไปถึงโครงการแบบ Mixed-Use ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 14 เท่า

มีมูลค่าบริษัทใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเวียดนาม ประมาณ 476,100 ล้านบาท โดย Vingroup ถือหุ้นใหญ่ ในสัดส่วน 74% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

ผลประกอบการปี 2024 ของ Vinhomes
รายได้ 122,800 ล้านบาท กำไร 38,200 ล้านบาท

เทียบให้เห็นภาพ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่สุดของไทย มี P/E 9 เท่า
ผลประกอบการปี 2024 ของ LH
รายได้ 26,000 ล้านบาท กำไร 5,500 ล้านบาท

- Vinpearl ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว โดยมีรีสอร์ต, โรงแรม, วิลลา, สวนสนุก และสนามกอล์ฟ

มีมูลค่าบริษัทประมาณ 175,400 ล้านบาท
และ Vingroup ถือหุ้นใหญ่อยู่ในสัดส่วน 86%

ผลประกอบการที่ผ่านมาของ Vinpearl

ปี 2024
รายได้ 17,300 ล้านบาท กำไร 3,100 ล้านบาท

ซึ่งถ้าลองคิด P/E บนกำไรของปี 2024 Vinpearl จะซื้อขายกันบน P/E สูงถึง 56 เท่า

และเทียบกับ กลุ่มไมเนอร์ฯ (MINT) ในไทย ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมหลายแห่งในไทยและต่างประเทศ ที่มีมูลค่า 136,600 ล้านบาท และมี P/E 19 เท่า

โดยผลประกอบการปี 2024 ของ MINT
รายได้ 165,400 ล้านบาท กำไร 7,800 ล้านบาท

ซึ่ง MINT มีกำไรเป็น 2 เท่า ของ Vinpearl
แต่มูลค่าบริษัทเล็กกว่า Vinpearl เสียอีก..

- Vincom Retail เป็นผู้พัฒนาและให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าที่เปิดดำเนินการอยู่ 88 แห่ง ครอบคลุม 48 เมืองทั่วประเทศ

Vincom Retail ปัจจุบันซื้อขายกันที่ P/E 15 เท่า มีมูลค่าบริษัทประมาณ 81,800 ล้านบาท โดย Vingroup ถือหุ้นอยู่ราว ๆ 19%

ผลประกอบการที่ผ่านมาของ Vincom Retail
ปี 2024 มีรายได้ 10,700 ล้านบาท กำไร 4,900 ล้านบาท

คล้ายกับ เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ในไทย ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาศูนย์การค้าในไทย ที่ปัจจุบันมีมูลค่าบริษัท 241,200 ล้านบาท ซื้อขายกันที่ P/E 15 เท่า เช่นกัน

โดยผลประกอบการปี 2024 ของ CPN
มีรายได้ 53,900 ล้านบาท กำไร 16,700 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่าหุ้นส่วนใหญ่ในกลุ่ม Vingroup มีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับหุ้นไทยในอุตสาหกรรมเดียวกัน แต่ก็มีหุ้นบางตัว เช่น Vincom Retail ที่อาจมีราคาอยู่ในระดับเดียวกับหุ้นไทยในอุตสาหกรรมเดียวกัน

3. กิจการเพื่อสังคม

- Vinmec ให้บริการด้านสุขภาพและการแพทย์ มีโรงพยาบาลและคลินิก
- Vinschool โรงเรียนที่มีระบบการศึกษา ครอบคลุมตั้งแต่ระดับอนุบาล ถึงชั้น ม.6
- VinUniversity มหาวิทยาลัยเอกชน

อย่างไรก็ตาม หลายปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงอุปสรรคของกลุ่ม Vingroup มาตลอด

ไล่ตั้งแต่ปัญหาอสังหาริมทรัพย์ ที่เกิดขึ้นในเวียดนาม
จนธนาคารเข้มงวดในการปล่อยกู้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ และผู้กู้ ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ กดดันผลประกอบการของ Vinhomes ที่เป็นแหล่งรายได้หลักของ Vingroup

รวมถึงการสนับสนุนเงินใน VinFast อย่างมหาศาล
ที่กำลังอยู่ในจุดที่ขาดทุนอย่างต่อเนื่องหลายปี
เพื่อดันธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าไปตีตลาดโลก ท่ามกลางคู่แข่งมากมาย

ซึ่งเป็นตัวฉุดผลประกอบการ และสถานะการเงินของบริษัทแม่อย่าง Vingroup

ถ้าเราลองดูกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ผ่านมา

ปี 2021
กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน -17,000 ล้านบาท

ปี 2022
กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน -4,000 ล้านบาท

ปี 2023
กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน -24,000 ล้านบาท

ปี 2024
กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 25,000 ล้านบาท

6 เดือน ปี 2025
กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 52,900 ล้านบาท

จะเห็นว่า กระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบติดต่อกัน และแม้จะมีทิศทางดีขึ้น นับตั้งแต่ปี 2024 แต่จุดที่น่าสังเกตคือ หนี้สินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ณ ไตรมาส 2 ปี 2025
Vingroup มีหนี้สินกว่า 967,000 ล้านบาท (เป็นหนี้ระยะสั้น 608,000 ล้านบาท)

และคิดเป็นอัตราหนี้สินต่อทุนสูงถึง 5 เท่า..

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นของทั้งกลุ่ม Vingroup ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง ถือเป็นแรงสำคัญในการลากดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามให้ขึ้นแรง

โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา การที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว +30% หรือขึ้นมา +400 จุดของดัชนี เป็นผลจากราคาหุ้นของทั้งกลุ่ม Vingroup ปรับตัวเพิ่มขึ้น สร้างผลกระทบถึง +160 จุดเลยทีเดียว..

ถือเป็นตัวบิดเบือนตลาดหุ้นเวียดนาม ที่หลายคนลงทุนหุ้นเวียดนาม หรือกองทุนหุ้นเวียดนาม ที่ไม่ได้มีหุ้นกลุ่มนี้ อาจไม่ได้รู้สึกว่าพอร์ตปรับตัวขึ้นตามดัชนี หรือผลตอบแทนแพ้ตลาด..

และการที่ราคาหุ้นทั้งกลุ่ม Vingroup พุ่งแรง ก็ทำให้คุณ Pham Nhat Vuong ผู้ก่อตั้ง Vingroup ร่ำรวยขึ้นมาก

โดยตอนนี้เขามีความมั่งคั่งกว่า 370,000 ล้านบาท รวยขึ้น 117% หรือมากกว่าเท่าตัว นับจากตอนต้นปี..

และนอกจากประเด็นของกลุ่ม Vingroup ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้

อีกปัจจัยสำคัญในการลากดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามให้ขึ้นมาอย่างร้อนแรง คือ เรื่องการใช้มาร์จิน หรือใช้เงินกู้มาซื้อหุ้น ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

โดยปัจจุบัน ข้อมูลเดือนกรกฎาคม เงินกู้ยืมมาลงทุนหุ้นสูงราว 400,000 ล้านบาท คิดเป็น 110% ของมูลค่าของสินทรัพย์ที่ค้ำประกัน

หรือพูดง่าย ๆ ว่า วันนี้นักลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม ที่ใช้มาร์จิน มีเงินลงทุนของตัวเอง 100 บาท จะกู้เงินมาอีก 110 บาท เพื่อนำไปลงทุนหุ้น

แน่นอนว่า ถ้าหากตลาดเวียดนามปรับตัวลง
เราอาจจะเห็นภาพนักลงทุนถูกบังคับขายหุ้น เพราะหาเงินมาเติมหลักประกันไม่ทัน

ซึ่งอาจเป็นเหมือนระเบิดเวลาอีกลูก ในตลาดหุ้นเวียดนามในตอนนี้..

หมายเหตุ : โพสต์นี้เพียงนำเสนอข้อมูล มิได้แนะนำให้ซื้อหรือขายหุ้นแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่