ความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของทั้งสองประเทศ มีความร่ำรวยอยู่เท่ากันแล้ว..
ซึ่งทั้งคู่มีความมั่งคั่งราว 16,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
https://www.facebook.com/share/p/1Bvupkt7bd/?mibextid=wwXIfr
ไทยกับเวียดนาม ถือเป็นคู่แข่งที่ถูกนำมาเปรียบเทียบกันแทบทุกมุม
หากพูดถึงมหาเศรษฐีที่รวยสุดในประเทศไทย เราคงนึกถึง คุณธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของเครือซีพี
แล้วถ้าถามว่า ใครคือคนที่รวยสุดในเวียดนาม ?
คำตอบคือ คุณฝ่าม เญิ้ต เวือง (Phạm Nhật Vượng) ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 57 ปี
สิ่งที่น่าสนใจ และอาจทำให้หลายคนประหลาดใจคือ ความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของทั้งสองประเทศ มีความร่ำรวยอยู่เท่ากันแล้ว..
ซึ่งทั้งคู่มีความมั่งคั่งราว 16,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยคุณเวือง เป็นหนึ่งในคนเวียดนามที่เกิดมาในช่วงที่เวียดนาม กำลังอยู่ในยุคสงครามเวียดนาม เคยต้องหนีไปทำธุรกิจที่ต่างแดน
ก่อนที่จะกลับมาประสบความสำเร็จในประเทศบ้านเกิด
ไต่เต้ากลายมาเป็นเศรษฐี Billionaire คนแรกของประเทศ
แล้วกว่าจะมาถึงจุดนี้ เขาผ่านอะไรมาบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
คุณเวือง เป็นชาวเวียดนามที่ถือกำเนิดขึ้นในเมืองไฮฟอง ที่ตั้งอยู่ทางเวียดนามตอนเหนือ
ช่วงเวลานั้น เวียดนามกำลังอยู่ในภาวะสงครามที่ประเทศเวียดนามแบ่งออกเป็น 2 ขั้ว
ขั้วคอมมิวนิสต์ก็คือ เวียดนามเหนือ ซึ่งมีสหภาพโซเวียตและจีนสนับสนุน
ขั้วต่อต้านคอมมิวนิสต์ก็คือ เวียดนามใต้ ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาสนับสนุน
เรื่องนี้ทำให้คุณพ่อของคุณเวือง ต้องเข้าร่วมกับกองทัพอากาศ ตั้งแต่เด็ก คุณเวืองจึงต้องอยู่กับคุณแม่ที่ทำธุรกิจเปิดร้านน้ำชาเล็ก ๆ พอประทังชีวิต
อย่างไรก็ตาม ความชื่นชอบในวิชาคณิตศาสตร์ ทำให้คุณเวือง จบการศึกษาที่ Hanoi University of Mining and Geology และสามารถสอบชิงทุนเพื่อศึกษาต่อที่สหภาพโซเวียตได้สำเร็จ
แต่โชคชะตาก็ดันมาเล่นตลกอีกครั้ง เพราะหลังจากคุณเวืองจบการศึกษา สหภาพโซเวียตก็ได้ล่มสลายลง..
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณเวือง จึงตัดสินใจไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศยูเครน
ที่นั่นเองกลับเป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางมหาเศรษฐีที่รวยสุดในประเทศเวียดนามของคุณเวือง
แล้วเขาเริ่มต้นทำธุรกิจอะไร ?
หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ทำให้ประเทศยูเครนได้รับผลกระทบหนัก คนยูเครนจึงลำบาก และมีฐานะยากจน
เรื่องนี้จึงทำให้คุณเวือง เริ่มต้นทำธุรกิจร้านอาหารเวียดนาม ต่อมาก็ได้ทำธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขายให้กับชาวยูเครน ซึ่งก็ถือเป็นสิ่งแปลกใหม่ในยุคนั้น เพราะแทบจะไม่มีใครรู้จัก
แต่ด้วยความที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าราคาถูก และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ Mivina ของคุณเวือง จึงกลายมาเป็นสินค้ายอดนิยมอย่างรวดเร็ว
เรื่องนี้ส่งผลให้คุณเวืองในวัย 25 ปี สามารถก่อตั้งบริษัท Technocom ทำธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจนกลายมาเป็นผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ครองตลาดประเทศยูเครนได้สำเร็จ
ซึ่งภายหลังคุณเวือง ก็ได้ตัดสินใจขายธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้กับ Nestlé เป็นมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท และหลังจากนั้นเขาตัดสินใจกลับไปเริ่มสร้างธุรกิจที่บ้านเกิดอีกครั้ง
เงินทุนมหาศาลก้อนนี้ คือใบเบิกทางให้เขาได้กลับไปสร้างตำนานบทใหม่ที่ประเทศบ้านเกิด..
สำหรับธุรกิจที่ประเทศเวียดนาม คุณเวือง ได้เริ่มต้นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สร้างโรงแรม ห้างสรรพสินค้า
สอดคล้องกับนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศเวียดนาม
โดยจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ได้เติบโตกลายเป็น Vingroup ปัจจุบันเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในเวียดนาม ด้วยมูลค่าบริษัทกว่า 792,000 ล้านบาท
แซงหน้า Vietcombank ธนาคารใหญ่สุดของเวียดนาม เป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว
ซึ่ง Vingroup เป็นบริษัทโฮลดิง ที่ประกอบไปด้วยเครือบริษัทอื่น ๆ มีทั้งธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์การค้า โรงแรม โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย เทคโนโลยี รวมไปถึงธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า VinFast
ผลประกอบการของ Vingroup ที่ผ่านมา
ปี 2021
รายได้ 150,800 ล้านบาท กำไร -3,000 ล้านบาท
ปี 2022
รายได้ 122,200 ล้านบาท กำไร 10,500 ล้านบาท
ปี 2023
รายได้ 193,700 ล้านบาท กำไร 2,600 ล้านบาท
ปี 2024
รายได้ 226,900 ล้านบาท กำไร 14,300 ล้านบาท
6 เดือนแรก ปี 2025
รายได้ 156,400 ล้านบาท กำไร 7,700 ล้านบาท
แล้วทำไมคุณเวือง ถึงรวยเทียบคุณธนินท์ได้ ?
คำตอบอยู่ที่การเติบโตอย่างร้อนแรงของราคาหุ้นในกลุ่ม Vingroup..
โดยนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
- Vingroup +320%
- Vinhomes +152%
- Vincom Retail +93%
ซึ่งการที่ราคาหุ้นทั้งกลุ่ม Vingroup พุ่งแรง ก็ทำให้คุณเวือง มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ล่าสุดจากข้อมูล Forbes เขามีความมั่งคั่งราว 16,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวยขึ้น 150% หรือมากกว่าเท่าตัว นับจากตอนต้นปี
ทำให้ความมั่งคั่งของเขาขึ้นมาเท่ากับคุณธนินท์ เจียรวนนท์ คนรวยสุดของประเทศไทยเราแล้ว
อย่างไรก็ตาม ความมั่งคั่งของคุณเวืองก็มีความเปราะบางซ่อนอยู่
เมื่อเจาะลึกลงไปในสถานะทางการเงินของบริษัท พบว่า หลายปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายของกลุ่ม Vingroup บริษัทต้องเผชิญกับปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ของเวียดนามที่กดดันรายได้หลัก จาก Vinhomes
ขณะเดียวกัน ต้องทุ่มเงินทุนมหาศาลเพื่อสนับสนุน VinFast ที่ยังคงขาดทุนอย่างต่อเนื่องหลายปี
โดยในปี 2024 VinFast มีรายได้ 52,800 ล้านบาท แต่กลับขาดทุนสูงถึง 92,700 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีหนี้สินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดย ณ ไตรมาส 2 ปี 2025 Vingroup มีหนี้สินกว่า 967,000 ล้านบาท (เป็นหนี้ระยะสั้น 608,000 ล้านบาท) ซึ่งคิดเป็นอัตราหนี้สินต่อทุนสูงถึง 5 เท่า
และปัจจุบัน หุ้น Vingroup ซื้อขายกันบนระดับ P/E ราว ๆ 50 เท่า
รวมไปถึงเรื่องการใช้มาร์จิน หรือใช้เงินกู้มาซื้อหุ้น ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในตลาดหุ้นเวียดนาม
ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ดันให้ราคาหุ้นของกลุ่ม Vingroup ปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรงอีกด้วย
ซึ่งตอนที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย
ราคาหุ้นของกลุ่ม Vingroup ก็อาจปรับตัวขึ้นเรื่อย ๆ
แต่เมื่อไรที่สถานการณ์ไม่เป็นใจ นักลงทุนให้ความคาดหวังกับธุรกิจน้อยลง
ก็อาจเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงได้
สุดท้าย ความมั่งคั่งของคุณเวืองที่เพิ่มขึ้นอย่างเปราะบางนี้ ก็อาจลดลงได้อย่างรุนแรงเช่นกัน..
คนรวยสุดในเวียดนาม ขึ้นมารวยเท่า เจ้าสัวธนินท์ เศรษฐีเบอร์ 1 ของไทย /โดย ลงทุนแมน
ซึ่งทั้งคู่มีความมั่งคั่งราว 16,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
https://www.facebook.com/share/p/1Bvupkt7bd/?mibextid=wwXIfr
ไทยกับเวียดนาม ถือเป็นคู่แข่งที่ถูกนำมาเปรียบเทียบกันแทบทุกมุม
หากพูดถึงมหาเศรษฐีที่รวยสุดในประเทศไทย เราคงนึกถึง คุณธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของเครือซีพี
แล้วถ้าถามว่า ใครคือคนที่รวยสุดในเวียดนาม ?
คำตอบคือ คุณฝ่าม เญิ้ต เวือง (Phạm Nhật Vượng) ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 57 ปี
สิ่งที่น่าสนใจ และอาจทำให้หลายคนประหลาดใจคือ ความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของทั้งสองประเทศ มีความร่ำรวยอยู่เท่ากันแล้ว..
ซึ่งทั้งคู่มีความมั่งคั่งราว 16,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยคุณเวือง เป็นหนึ่งในคนเวียดนามที่เกิดมาในช่วงที่เวียดนาม กำลังอยู่ในยุคสงครามเวียดนาม เคยต้องหนีไปทำธุรกิจที่ต่างแดน
ก่อนที่จะกลับมาประสบความสำเร็จในประเทศบ้านเกิด
ไต่เต้ากลายมาเป็นเศรษฐี Billionaire คนแรกของประเทศ
แล้วกว่าจะมาถึงจุดนี้ เขาผ่านอะไรมาบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
คุณเวือง เป็นชาวเวียดนามที่ถือกำเนิดขึ้นในเมืองไฮฟอง ที่ตั้งอยู่ทางเวียดนามตอนเหนือ
ช่วงเวลานั้น เวียดนามกำลังอยู่ในภาวะสงครามที่ประเทศเวียดนามแบ่งออกเป็น 2 ขั้ว
ขั้วคอมมิวนิสต์ก็คือ เวียดนามเหนือ ซึ่งมีสหภาพโซเวียตและจีนสนับสนุน
ขั้วต่อต้านคอมมิวนิสต์ก็คือ เวียดนามใต้ ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาสนับสนุน
เรื่องนี้ทำให้คุณพ่อของคุณเวือง ต้องเข้าร่วมกับกองทัพอากาศ ตั้งแต่เด็ก คุณเวืองจึงต้องอยู่กับคุณแม่ที่ทำธุรกิจเปิดร้านน้ำชาเล็ก ๆ พอประทังชีวิต
อย่างไรก็ตาม ความชื่นชอบในวิชาคณิตศาสตร์ ทำให้คุณเวือง จบการศึกษาที่ Hanoi University of Mining and Geology และสามารถสอบชิงทุนเพื่อศึกษาต่อที่สหภาพโซเวียตได้สำเร็จ
แต่โชคชะตาก็ดันมาเล่นตลกอีกครั้ง เพราะหลังจากคุณเวืองจบการศึกษา สหภาพโซเวียตก็ได้ล่มสลายลง..
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณเวือง จึงตัดสินใจไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศยูเครน
ที่นั่นเองกลับเป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางมหาเศรษฐีที่รวยสุดในประเทศเวียดนามของคุณเวือง
แล้วเขาเริ่มต้นทำธุรกิจอะไร ?
หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ทำให้ประเทศยูเครนได้รับผลกระทบหนัก คนยูเครนจึงลำบาก และมีฐานะยากจน
เรื่องนี้จึงทำให้คุณเวือง เริ่มต้นทำธุรกิจร้านอาหารเวียดนาม ต่อมาก็ได้ทำธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขายให้กับชาวยูเครน ซึ่งก็ถือเป็นสิ่งแปลกใหม่ในยุคนั้น เพราะแทบจะไม่มีใครรู้จัก
แต่ด้วยความที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าราคาถูก และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ Mivina ของคุณเวือง จึงกลายมาเป็นสินค้ายอดนิยมอย่างรวดเร็ว
เรื่องนี้ส่งผลให้คุณเวืองในวัย 25 ปี สามารถก่อตั้งบริษัท Technocom ทำธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจนกลายมาเป็นผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ครองตลาดประเทศยูเครนได้สำเร็จ
ซึ่งภายหลังคุณเวือง ก็ได้ตัดสินใจขายธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้กับ Nestlé เป็นมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท และหลังจากนั้นเขาตัดสินใจกลับไปเริ่มสร้างธุรกิจที่บ้านเกิดอีกครั้ง
เงินทุนมหาศาลก้อนนี้ คือใบเบิกทางให้เขาได้กลับไปสร้างตำนานบทใหม่ที่ประเทศบ้านเกิด..
สำหรับธุรกิจที่ประเทศเวียดนาม คุณเวือง ได้เริ่มต้นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สร้างโรงแรม ห้างสรรพสินค้า
สอดคล้องกับนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศเวียดนาม
โดยจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ได้เติบโตกลายเป็น Vingroup ปัจจุบันเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในเวียดนาม ด้วยมูลค่าบริษัทกว่า 792,000 ล้านบาท
แซงหน้า Vietcombank ธนาคารใหญ่สุดของเวียดนาม เป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว
ซึ่ง Vingroup เป็นบริษัทโฮลดิง ที่ประกอบไปด้วยเครือบริษัทอื่น ๆ มีทั้งธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์การค้า โรงแรม โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย เทคโนโลยี รวมไปถึงธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า VinFast
ผลประกอบการของ Vingroup ที่ผ่านมา
ปี 2021
รายได้ 150,800 ล้านบาท กำไร -3,000 ล้านบาท
ปี 2022
รายได้ 122,200 ล้านบาท กำไร 10,500 ล้านบาท
ปี 2023
รายได้ 193,700 ล้านบาท กำไร 2,600 ล้านบาท
ปี 2024
รายได้ 226,900 ล้านบาท กำไร 14,300 ล้านบาท
6 เดือนแรก ปี 2025
รายได้ 156,400 ล้านบาท กำไร 7,700 ล้านบาท
แล้วทำไมคุณเวือง ถึงรวยเทียบคุณธนินท์ได้ ?
คำตอบอยู่ที่การเติบโตอย่างร้อนแรงของราคาหุ้นในกลุ่ม Vingroup..
โดยนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
- Vingroup +320%
- Vinhomes +152%
- Vincom Retail +93%
ซึ่งการที่ราคาหุ้นทั้งกลุ่ม Vingroup พุ่งแรง ก็ทำให้คุณเวือง มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ล่าสุดจากข้อมูล Forbes เขามีความมั่งคั่งราว 16,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวยขึ้น 150% หรือมากกว่าเท่าตัว นับจากตอนต้นปี
ทำให้ความมั่งคั่งของเขาขึ้นมาเท่ากับคุณธนินท์ เจียรวนนท์ คนรวยสุดของประเทศไทยเราแล้ว
อย่างไรก็ตาม ความมั่งคั่งของคุณเวืองก็มีความเปราะบางซ่อนอยู่
เมื่อเจาะลึกลงไปในสถานะทางการเงินของบริษัท พบว่า หลายปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายของกลุ่ม Vingroup บริษัทต้องเผชิญกับปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ของเวียดนามที่กดดันรายได้หลัก จาก Vinhomes
ขณะเดียวกัน ต้องทุ่มเงินทุนมหาศาลเพื่อสนับสนุน VinFast ที่ยังคงขาดทุนอย่างต่อเนื่องหลายปี
โดยในปี 2024 VinFast มีรายได้ 52,800 ล้านบาท แต่กลับขาดทุนสูงถึง 92,700 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีหนี้สินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดย ณ ไตรมาส 2 ปี 2025 Vingroup มีหนี้สินกว่า 967,000 ล้านบาท (เป็นหนี้ระยะสั้น 608,000 ล้านบาท) ซึ่งคิดเป็นอัตราหนี้สินต่อทุนสูงถึง 5 เท่า
และปัจจุบัน หุ้น Vingroup ซื้อขายกันบนระดับ P/E ราว ๆ 50 เท่า
รวมไปถึงเรื่องการใช้มาร์จิน หรือใช้เงินกู้มาซื้อหุ้น ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในตลาดหุ้นเวียดนาม
ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ดันให้ราคาหุ้นของกลุ่ม Vingroup ปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรงอีกด้วย
ซึ่งตอนที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย
ราคาหุ้นของกลุ่ม Vingroup ก็อาจปรับตัวขึ้นเรื่อย ๆ
แต่เมื่อไรที่สถานการณ์ไม่เป็นใจ นักลงทุนให้ความคาดหวังกับธุรกิจน้อยลง
ก็อาจเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงได้
สุดท้าย ความมั่งคั่งของคุณเวืองที่เพิ่มขึ้นอย่างเปราะบางนี้ ก็อาจลดลงได้อย่างรุนแรงเช่นกัน..