วิเคราะห์: ถ้าสุขวิชชนะเลือกตั้งปี 2544 ประเทศไทยจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2020
ถ้าสุขวิชได้เป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2544 ประเทศไทยจะไม่เดินหลงทาง และจะมีความพร้อมครบทุกด้านเพื่อก้าวสู่ประเทศพัฒนาแล้วตามเป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ที่เขาคิดใหม่ ทำใหม่ วางระบบไว้เรียบร้อย
1. การปฏิรูประบบสาธารณสุขผ่านรัฐธรรมนูญ 2540 สำเร็จ
สุขวิชผลักดันการปฏิรูประบบสาธารณสุขอย่างเป็นระบบ ผ่านรัฐธรรมนูญ 2540 ขณะเป็นรองนายกรัฐมนตรี
โดยเฉพาะมาตรา 52, 62 และ 82 ซึ่งวางรากฐานสิทธิด้านสุขภาพถ้วนหน้า
ถ้าเขาได้เป็นนายกฯ ในปี 2544 ระบบประกันสุขภาพจะเติบโตจากฐานสิทธิ ไม่ใช่แค่ประชานิยม
การกระจายบริการสาธารณสุขจะลงถึงท้องถิ่นอย่างมีคุณภาพ ไม่ติดอยู่ในส่วนกลาง
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจะเกิดขึ้นอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เร่งทำเพื่อคะแนนนิยม
2. เศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเอง ฝ่าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ได้
แผนพัฒนาฯ 8 ที่สุขวิชวางไว้มุ่งสร้าง “เศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง” แทนระบบพึ่งพาทุนต่างชาติ
ถ้าเดินหน้าต่อเนื่อง เศรษฐกิจไทยจะรับแรงกระแทกจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551 ได้
รายได้ในชนบทจะไม่ถูกริดรอนจากกลไกตลาดโลก เพราะระบบพึ่งตนเองพร้อมแล้วตั้งแต่ปลายยุค 2540
ความเหลื่อมล้ำจะลดลงอย่างมีโครงสร้าง ไม่ใช่เพียงการแจกเงินหรือพักหนี้ชั่วคราว
3. การอภิวัฒน์การศึกษา: เด็กจน 4.35 ล้านคนได้เข้าเรียนจริง
ในเดือนพฤษภาคม 2540 เด็กในระบบรวม 16.68 ล้านคนได้เรียนฟรีจริง อาหารครบ 3 มื้อ มีอุปกรณ์ ค่ารถ
เด็กจนที่ไม่เคยมีโอกาสเข้าเรียนถึง 4.35 ล้านคนได้เข้าสู่ระบบ
การศึกษาฟรีของสุขวิชไม่ใช่แค่ค่าธรรมเนียม แต่รวมถึงคุณภาพ ชีวิต และโอกาส
งบประมาณลงตรงถึงโรงเรียน ไม่มีการแทรกแซง ไม่มีทุจริต
ระบบนี้ถ้าเดินหน้าต่อจะปูรากฐานคุณภาพคนไทยอย่างถาวรภายใน 10 ปี
4. โครงสร้างพื้นฐานมาตรฐานโลก เร็ว ถูก และทั่วถึง
สุขวิชวางแผนโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติครบวงจร ตั้งแต่รถไฟความเร็วสูง 3,400 กม.
ระบบขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่
ถนนวงแหวนและสายหลักรอบกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ 25 สาย
รถไฟฟ้า MRT โดยไม่ให้สัมปทานผูกขาด
สนามบินสุวรรณภูมิจะไม่ล่าช้า 6 ปี
ทุกโครงการเดินหน้าเร็ว ราคาถูก และโปร่งใส เพราะเขายึดหลัก “บริหารเพื่อประชาชน ไม่ใช่นายทุน”
5. รัฐธรรมนูญประชาชน 2540: เครื่องมือปฏิรูปทั้งระบบ
สุขวิชผลักดันรัฐธรรมนูญประชาชน 2540 จนสำเร็จ เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ทำได้จริง
รัฐธรรมนูญฉบับนี้รองรับการกระจายอำนาจ ปฏิรูปการศึกษา สาธารณสุข สื่อมวลชน และการบริหารราชการ
ถ้าได้ใช้รัฐธรรมนูญนี้อย่างเต็มที่ ประเทศไทยจะไม่ต้องกลับไปสู่การเมืองแบบทุนนิยมผูกขาด
และจะไม่มีรัฐประหารในปี 2549
6. รายได้คนไทยสวนวิกฤต เพราะพัฒนาแบบมีราก
แม้ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง รายได้ของคนไทยในทุกภาคไม่ลดลง
เพราะสุขวิชเดินหน้านโยบายสวัสดิการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนในชุมชนอย่างต่อเนื่อง
ระบบไม่ได้ล่ม เพราะเขาวางไว้ให้เศรษฐกิจ “ไม่ขึ้นกับทุนข้างบน” แต่ “เติบโตจากฐานล่าง”
บทสรุป: ถ้าสุขวิชชนะปี 2544 ประเทศไทยจะไม่หลงทาง ต้องพึ่งพาคาสิโนอย่างปัจจุบัน
แผนพัฒนา ฯ 8 จะเดินหน้าเต็มรูปแบบจนถึงผลลัพธ์ปี 2020
ประเทศไทยจะมีระบบศึกษา สาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจฐานรากที่เข้มแข็ง
ความขัดแย้งทางการเมืองและรัฐประหารจะไม่เกิด เพราะรัฐธรรมนูญ 2540 ได้รับการคุ้มครอง
ประเทศไทยจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2020 ตามที่สุขวิชวางเป้าหมายไว้
ประเทศไทยมีโอกาสเป็นประเทศพัฒนาแล้ว แต่เลือกประชานิยมเองจ้าาาา
ถ้าสุขวิชได้เป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2544 ประเทศไทยจะไม่เดินหลงทาง และจะมีความพร้อมครบทุกด้านเพื่อก้าวสู่ประเทศพัฒนาแล้วตามเป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ที่เขาคิดใหม่ ทำใหม่ วางระบบไว้เรียบร้อย
1. การปฏิรูประบบสาธารณสุขผ่านรัฐธรรมนูญ 2540 สำเร็จ
สุขวิชผลักดันการปฏิรูประบบสาธารณสุขอย่างเป็นระบบ ผ่านรัฐธรรมนูญ 2540 ขณะเป็นรองนายกรัฐมนตรี
โดยเฉพาะมาตรา 52, 62 และ 82 ซึ่งวางรากฐานสิทธิด้านสุขภาพถ้วนหน้า
ถ้าเขาได้เป็นนายกฯ ในปี 2544 ระบบประกันสุขภาพจะเติบโตจากฐานสิทธิ ไม่ใช่แค่ประชานิยม
การกระจายบริการสาธารณสุขจะลงถึงท้องถิ่นอย่างมีคุณภาพ ไม่ติดอยู่ในส่วนกลาง
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจะเกิดขึ้นอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เร่งทำเพื่อคะแนนนิยม
2. เศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเอง ฝ่าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ได้
แผนพัฒนาฯ 8 ที่สุขวิชวางไว้มุ่งสร้าง “เศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง” แทนระบบพึ่งพาทุนต่างชาติ
ถ้าเดินหน้าต่อเนื่อง เศรษฐกิจไทยจะรับแรงกระแทกจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551 ได้
รายได้ในชนบทจะไม่ถูกริดรอนจากกลไกตลาดโลก เพราะระบบพึ่งตนเองพร้อมแล้วตั้งแต่ปลายยุค 2540
ความเหลื่อมล้ำจะลดลงอย่างมีโครงสร้าง ไม่ใช่เพียงการแจกเงินหรือพักหนี้ชั่วคราว
3. การอภิวัฒน์การศึกษา: เด็กจน 4.35 ล้านคนได้เข้าเรียนจริง
ในเดือนพฤษภาคม 2540 เด็กในระบบรวม 16.68 ล้านคนได้เรียนฟรีจริง อาหารครบ 3 มื้อ มีอุปกรณ์ ค่ารถ
เด็กจนที่ไม่เคยมีโอกาสเข้าเรียนถึง 4.35 ล้านคนได้เข้าสู่ระบบ
การศึกษาฟรีของสุขวิชไม่ใช่แค่ค่าธรรมเนียม แต่รวมถึงคุณภาพ ชีวิต และโอกาส
งบประมาณลงตรงถึงโรงเรียน ไม่มีการแทรกแซง ไม่มีทุจริต
ระบบนี้ถ้าเดินหน้าต่อจะปูรากฐานคุณภาพคนไทยอย่างถาวรภายใน 10 ปี
4. โครงสร้างพื้นฐานมาตรฐานโลก เร็ว ถูก และทั่วถึง
สุขวิชวางแผนโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติครบวงจร ตั้งแต่รถไฟความเร็วสูง 3,400 กม.
ระบบขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่
ถนนวงแหวนและสายหลักรอบกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ 25 สาย
รถไฟฟ้า MRT โดยไม่ให้สัมปทานผูกขาด
สนามบินสุวรรณภูมิจะไม่ล่าช้า 6 ปี
ทุกโครงการเดินหน้าเร็ว ราคาถูก และโปร่งใส เพราะเขายึดหลัก “บริหารเพื่อประชาชน ไม่ใช่นายทุน”
5. รัฐธรรมนูญประชาชน 2540: เครื่องมือปฏิรูปทั้งระบบ
สุขวิชผลักดันรัฐธรรมนูญประชาชน 2540 จนสำเร็จ เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ทำได้จริง
รัฐธรรมนูญฉบับนี้รองรับการกระจายอำนาจ ปฏิรูปการศึกษา สาธารณสุข สื่อมวลชน และการบริหารราชการ
ถ้าได้ใช้รัฐธรรมนูญนี้อย่างเต็มที่ ประเทศไทยจะไม่ต้องกลับไปสู่การเมืองแบบทุนนิยมผูกขาด
และจะไม่มีรัฐประหารในปี 2549
6. รายได้คนไทยสวนวิกฤต เพราะพัฒนาแบบมีราก
แม้ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง รายได้ของคนไทยในทุกภาคไม่ลดลง
เพราะสุขวิชเดินหน้านโยบายสวัสดิการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนในชุมชนอย่างต่อเนื่อง
ระบบไม่ได้ล่ม เพราะเขาวางไว้ให้เศรษฐกิจ “ไม่ขึ้นกับทุนข้างบน” แต่ “เติบโตจากฐานล่าง”
บทสรุป: ถ้าสุขวิชชนะปี 2544 ประเทศไทยจะไม่หลงทาง ต้องพึ่งพาคาสิโนอย่างปัจจุบัน
แผนพัฒนา ฯ 8 จะเดินหน้าเต็มรูปแบบจนถึงผลลัพธ์ปี 2020
ประเทศไทยจะมีระบบศึกษา สาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจฐานรากที่เข้มแข็ง
ความขัดแย้งทางการเมืองและรัฐประหารจะไม่เกิด เพราะรัฐธรรมนูญ 2540 ได้รับการคุ้มครอง
ประเทศไทยจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2020 ตามที่สุขวิชวางเป้าหมายไว้