จุดประสงค์ที่สร้างกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะต้องการเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ระหว่างกองทุนประกันสังคม และกองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ เนื่องจากตัวผมเป็นผู้ประกันตน และภรรยาเป็นสมาชิก กบข. จึงทำให้ทราบว่าข้อมูลต่างๆ และรู้สึกว่าทำไม กบข. ถึงดีกว่ากองทุนประกันสังคมมาก ทั้งที่ผู้ประกันตนมีจำนวนมากกว่าสมาชิก กบข. และขนาดกองทุนประกันสังคมใหญ่กว่ามาก
เรามาเริ่มต้นด้วยประวัติศาสตร์การก่อตั้งกองทุนทั้ง 2 ครับ
1. ประวัติการก่อตั้งกองทุนประกันสังคม
กองทุนประกันสังคม เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความคุ้มครองด้านสวัสดิการสังคมแก่แรงงานในระบบ โดยช่วยให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ในกรณีต่างๆ เช่น เจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ว่างงาน และเงินบำนาญชราภาพ
การก่อตั้งและพัฒนาของกองทุนประกันสังคม
- เริ่มต้นแนวคิด
ระบบประกันสังคมในไทยมีแนวคิดมาตั้งแต่ สมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม (ประมาณปี 2495) แต่ยังไม่มีการดำเนินการจริง และมีการคัดค้านการก่อตั้งมาเรื่อย ๆ แต่ก็มีการศึกษาระบบประกันสังคมของประเทศอื่นๆ เพื่อเป็นต้นแบบ
- เริ่มนำร่องโครงการประกันสังคม
ในปี พ.ศ. 2515 มีการออก พระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2515 ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับแรกที่เกี่ยวกับการคุ้มครองลูกจ้างเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยจากการทำงาน แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพและสวัสดิการอื่นๆ
- การประกาศใช้พระราชบัญญัติประกันสังคม
มีความพยายามที่จะมีกองทุนประกันสังคมมาตลอด จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2533 ได้มีการออก พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2533 เริ่มแรกใช้กับสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป ในปี พ.ศ. 2536 มีการขยายความคุ้มครองไปยังสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 ได้ขยายให้ครอบคลุมสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 1 คนขึ้นไป
- โครงสร้างของกองทุนประกันสังคม
กองทุนประกันสังคมบริหารโดย สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ภายใต้ กระทรวงแรงงาน และมีรายได้จาก เงินสมทบ ของ
ลูกจ้าง/ผู้ประกันตน ร้อยละ 5
นายจ้าง ร้อยละ 5
รัฐบาล ร้อยละ 2.75
แต่คิดจากเงินเดือนสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ดังนั้นร้อยละ 5 จึงเท่ากับไม่เกิน 750 บาทต่อเดือน
- สิทธิประโยชน์ของกองทุนประกันสังคม
กองทุนประกันสังคมให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประกันตนใน 7 กรณีหลัก ได้แก่
เจ็บป่วย
คลอดบุตร
ทุพพลภาพ
เสียชีวิต
สงเคราะห์บุตร
ว่างงาน
บำนาญชราภาพ
ปัจจุบันของกองทุนประกันสังคม
ปัจจุบันกองทุนประกันสังคมครอบคลุมแรงงานหลายล้านคน และมีการขยายความคุ้มครองไปถึง แรงงานนอกระบบ (มาตรา 40) เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงสวัสดิการทางสังคมได้มากขึ้น
--------------------------------------------------------------------------
2. ประวัติการก่อตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
กบข. ก่อตั้งขึ้นตาม พระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2539 โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบบำเหน็จบำนาญของข้าราชการจากเดิมที่ใช้ระบบ "Defined Benefit" (DB) หรือการรับเงินบำนาญจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว มาเป็นระบบ "Defined Contribution" (DC) ที่ให้ข้าราชการร่วมออมเงินเอง มีสถานะเป็นองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ ไม่มีสถานะเป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ เป็นระบบเสริมระบบบำเหน็จบำนาญเดิม
วัตถุประสงค์ของ กบข.
ส่งเสริมการออมระยะยาว สำหรับข้าราชการเพื่อให้มีเงินใช้จ่ายหลังเกษียณ แบ่งเบาภาระงบประมาณของภาครัฐ ในการจ่ายเงินบำนาญให้กับข้าราชการสนับสนุนให้ข้าราชการมีทางเลือกในการลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เหมาะสม
รูปแบบการออมของ กบข.
- ข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข. จะต้องส่งเงินสะสมเข้ากองทุนในอัตราขั้นต่ำ 3% ของเงินเดือน (หรือเลือกส่งเพิ่มได้สูงสุด 15%)
- รัฐบาลจะสมทบเงินให้อีก ในอัตราที่เท่ากับอัตราเงินสะสมขั้นต่ำ 3%
- เงินในกองทุนจะถูกนำไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับสมาชิก
ข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข. เมื่อออกจากราชการ หรือ เกษียณอายุราชการ จะได้รับเงินก้อน กบข. หรือจะให้ กบข. ทยอยจ่ายคืนเป็นรายเดือนก็ได้ และบำเหน็จหรือบำนาญจากส่วนราชการเจ้าสังกัด ซึ่งเงินก้อน กบข. เป็นส่วนผสมระหว่างเงินออมของสมาชิกกับ เงินสมทบและเงินชดเชยจากบำนาญจากรัฐ และผลประโยชน์จากการลงทุนที่ กบข. บริหารจัดการให้
การเป็นสมาชิก กบข.
ข้าราชการที่เข้ารับราชการตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2540 เป็นต้นไป จะต้องเป็นสมาชิก กบข. โดยอัตโนมัติ
ข้าราชการที่รับราชการก่อนหน้านี้สามารถเลือกเข้าร่วม กบข. ได้ตามความสมัครใจ
ปัจจุบัน กบข. ดูแลเงินออมของข้าราชการจำนวนมากและมีบทบาทสำคัญในการบริหารเงินลงทุนเพื่อให้สมาชิกมีเงินออมเพียงพอสำหรับการเกษียณอายุ
ข้อมูลของกองทุนประกันสังคม เทียบกับกับ กบข.