เรื่อง กบข. ขอสรุปไว้ในโพสต์นี้ครับ

1 ...กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เป็นการออมเงินเกษียณภาคบังคับสำหรับข้าราชการไทย เป็นข้าราชการปุ๊บ โดนบังคับสมัครสมาชิก กบข.ทันที !!!
...ถ้าจะเอาเงินออกจาก กบข. จึงต้องเกษียณ หรือ ลาออกจากราชการ, พิการ หรือตาย เท่านั้นครับ

2 ...กบข.เป็น ”คนละส่วน“ กับเงินบำเหน็จ หรือ บำนาญรายเดือนที่เราจะได้รับจากกระทรวงการคลัง
...กบข.เป็นเงินที่เราสะสม + รัฐบาลสมทบมาให้ เอาไปลงทุนให้งอกเงย ได้เป็นเงินก้อนตอนเกษียณ (ส่วนจะเอาออกมาใช้แบบไหนค่อยว่ากันตอนเกษียณ)
...ส่วนบำเหน็จ/บำนาญ จากกระทรวงการคลัง เป็นเงินรัฐบาล
...ดังนั้น ในมุมมองของ Dr.MOney เงิน กบข.(เป็นเงินเรา) มั่นคงกว่า เงินบำนาญ (เป็นเงินเค้า) ครับ

3...สิ่งที่ กบข.เปิดโอกาสให้เราตัดสินใจเองได้ หลักๆ มี 2 เรื่อง ได้แก่
...1.) ออมเพิ่ม
...2.) เปลี่ยนแผนการลงทุน

3.1...ปกติ กบข.จะหักเงินเดือนเราไป 3% ทุกเดือนเป็นขั้นต่ำ (หักก่อนเงินเดือนเข้าบัญชี) แต่เราสามารถขอออมเพิ่มได้สูงสุด 27% รวมเป็น 30%
...ยิ่งออมเพิ่มเยอะ ตอนเกษียณก็จะได้เงิน กบข เยอะตาม น้องๆ ข้าราชการใหม่ถ้าออมเพิ่มตั้งแต่บรรจุ บางคนอาจมีโอกาสได้เงิน กบข ถึง 10 ล้านบาท !!!
...จะออมเพิ่มแบบหักดิบ หรือจะค่อยๆ เพิ่มทีละนิด (เช่น เพิ่มอัตราการออมเพิ่มทุกครั้งที่เงินเดือนขึ้น) แบบ Dr.MOney ก็ได้ครับ
...ส่วนรัฐบาลจะสมทบเงินให้ 5% (เงินสมทบ 3% + เงินชดเชย 2%) คงที่ (ไม่เพิ่มตามงินออมเพิ่มของเราครับ)

3.2...กบข.มีแผนลงทุนให้เราเลือกหลากหลาย แต่สำหรับน้องข้าราชการที่บรรจุใหม่จะอยู่ในแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนใหม่)
...แผนการลงทุนของ กบข.หลักๆ แบ่งเป็น 2+1 กลุ่ม ได้แก่
...1.) แผนสินทรัพย์เดี่ยว คือ ลงแค่สินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งเพียงอย่างเดียว ได้แก่ ตลาดเงิน, ตราสารหนี้, หุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ, อสังหาริมทรัพย์ไทย, ทองคำ
...2.) แผนสินทรัพย์ผสม เช่น แผนหลัก (มีหุ้นประมาณ 22%), แผนหุ้น 35 (หุ้น 35%), แผนหุ้น 65% และ แผนสมดุลตามอายุ
...3.) แผน DIY คือ ให้เราผสมสัดส่วนสินทรัพย์ต่างๆ (ในกลุ่มที่ 1.)) ได้เอง

3.3...แผนการลงทุนที่ Dr.MOney แนะนำสำหรับคนทั่วไป คือ แผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนใหม่)
...ซึ่งถ้าใครเป็นข้าราชการรุ่นก่อนๆ จะไม่อยู่ในแผนนี้แต่ต้น ต้องเปลี่นนแผนมาครับ
...แผนสมดุลฯ นี้มีข้อดีคือ ตอนเราอายุน้อย จะลงทุนในหุ้น 75% เสี่ยงสูง แต่ก็คาดหวังผลตอบแทนสูง
...แล้วพอถึงช่วง 10 ปีก่อนเกษียณ กบข จะค่อยๆ ลดสัดส่วนหุ้นลงเรื่อยๆ จนเหลือแค่ 20% ในช่วงที่จะเกษียณ (ช่วงใกล้เกษียณเราจะได้ต้องการผลตอบแทนมากเท่ากับต้องการให้เงินเราอยู่ครบไม่ขาดทุน)

3.4...สำหรับคนที่ต้องการแผนการลงทุนที่เสี่ยงสูงขึ้นเพื่อคาดหวังผลตอบแทนสูงขึ้น Dr.MOney แนะนำให้ใช้แผน DIY ที่ผสม แผนหุ้นต่างประเทศ 80% กับ แผนตราสารหนี้ 20% (หรือถ้าใครอยากลงทุนแผนทองคำ ให้แบ่งมา 5-10% จากแผนตราสารหนี้ครับ)

3.5...เราสามารถ “เปลี่ยนแปลงอัตราการออมเพิ่ม” และ “เปลี่ยนแผนการลงทุน” ได้ทาง mobile application "My GPF" (สมาชิก กบข.ทุกคนควรมี app นี้ไว้ครับ)
...โดยเปลี่ยนแผนการลงทุนได้ไม่เกิน 12 ครั้งต่อปี ส่วนเปลี่ยนแปลงอัตราการออมเพิ่มไม่ได้ระบุจำนวนครั้งไว้เพราะ กบข.จะแจ้งให้หน่วยงานต้นสังกัดเราดำเนินการ (น่าจะทำได้ไม่บ่อยเท่าเปลี่ยนแผนการลงทุนครับ)

4...เงินที่ถูกหักไปสะสมไว้ใน กบข.สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ โดยเมื่อรวมกับ RMF และ เบี้ยประกันบำนาญ แล้วใช้ลดหย่อนได้ไม่เกิน 500,000 บาท

5...หลังเกษียณสามารถจัดการกับเงิน กบข.ของเราได้ 5 วิธี ได้แก่
...1.) รับเงินทั้งก้อนมาบริหารต่อเอง
...2.) รับเป็นงวดๆ เลือกได้ว่าจะรับทุก 1, 3, 6 หรือ 12 เดือน
...3.) ให้ กบข.บริหารต่อทั้งหมดไปก่อน
...4.) รับเงินบางส่วน ที่เหลือให้ กบข.บริหารต่อ
...5.) รับเงินบางส่วน ที่เหลือค่อยรับเป็นงวดๆ แบบข้อ 2.)

5.1...นอกจากนี้หลังเกษียณยังสามารถเปลี่ยนแผนการลงทุนได้ไม่เกิน 12 ครั้งต่อปี เช่นเดียวกับก่อนเกษียณ (แต่ออมเงินเพิ่มไม่ได้แล้ว)

สรุป
...กบข.เป็นเครื่องมือในการออมและลงทุนเพื่อเกษียณที่ดี เพราะออมก่อนใช้ ออมเพิ่มเมื่อเงินเดือนขึ้น (หักเป็น %) เอาเงินออกก่อนเกษียณได้ยาก (ต้องลาออก, พิการ, ตาย) ลดหย่อนภาษีได้
...สิ่งที่ Dr.MOney เชียร์ให้ทุกคนทำ ได้แก่ ออมเพิ่มให้มากที่สุดเท่าที่จะไหว และ เปลี่ยนแผนการลงทุนตามที่แนะนำในข้อ 3

...ขอให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ข้าราชการทุกคนเกษียณอย่างมั่งคั่ง

...และอย่าลืมศึกษาความรู้ทางการเงิน เพราะความรู้ทางการเงินที่ถูกนำมาปฏิบัติ จะช่วยให้ชีวิตเราราบรื่นและร่ำรวยขึ้นครับ

Cr. FB Dr.MOney


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่