ทุ่งกะมัง...มั้งสินะ

ในช่วงปีนี้ที่ลมหนาวทำหน้าที่ของตัวเองได้นานกว่าหลายๆปีที่ผ่านมา
ความรู้สึกอยากออกเดินทางไปสัมผัสธรรมชาติก็มากตามไปด้วย
กับทริปนี้ที่คิดไวไปไวอีกครั้ง 

"ทุ่งกะมัง...มั้งสินะ"
หลังจากที่กลับมาจากทริปอ่างขาง
จิตใจผมก็ยังวนเวียนอยู่กับพญาเสือโคร่ง ที่ยังอยากไปแก้มือที่ขุนช่างเคี่ยนอีกสักครั้ง
ทริปอ่างขาง https://pantip.com/topic/43178759
แม้กระทั่งบ้านร่องกล้า ที่ไปมาเมื่อปีก่อน ก็ยังอยู่ในลิสต์ เพราะเดินทางไม่ไกลนัก
ทริปบ้านร่องกล้า https://pantip.com/topic/42490539
แต่สุดท้ายแล้ว เพื่อนในกลุ่มมือหมุนก็ถามมาว่า ไปหาที่นอนดูทางช้างเผือกกันมั้ย 
แล้วส่งลิงค์ Dark Sky ที่แนะนำพื้นที่เหมาะสำหรับดูดาวมาให้
และผมก็เจอทุ่งกะมังในลิสต์นี้ ทำให้นึกถึงน้องสาวเพื่อนที่ไปเป็นสะใภ้ชัยภูมิ
ที่ครั้งนึกเคยชวนผมไปถ่ายดอกกระเจียว แล้วเอ่ยไว้ว่า ไว้เราไปทุ่งกะมังกันนะ
ทริปชัยภูมิ https://pantip.com/topic/40166837
เวลาล่วงเลยไป 4 ปี ปัจจุบันน้องเค้ามีเจ้าตัวเล็กเพิ่มมาอีกคน วัยกำลังซนทีเดียว
ผมก็เลยจัดแจงโทรถามทันที ทุ่งกะมังกันมั้ย?
และแล้วทุ่งอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทริปทุ่งกะมังเกิดขึ้นทันใจ...ไวจัด


ทริปนี้เผมเดินทางจากที่ทำงาน ไปนอนค้างที่ตัวเมืองชัยภูมิก่อน
โดยเลือกเดินทางเพื่อทดสอบมอเตอร์เวย์สาย M6 ทั้งไปและกลับ ต้องยอมรับว่าวิวบนนี้สวยจริงๆ
โดยเฉพาะขากลับที่ผมวิ่งมาในช่วงเวลาใกล้พระอาทิตย์ตกสวยงามมาก 
แต่ไม่ได้เก็บรูปมานะครับ เพราะต้องขับรถ และเช่นเคย ผมเดินทางจากนนท์ไปชัยภูมิคนเดียว
ไปสมทบกับครอบครัวน้อง เเละเพื่อนน้องที่ชัยภูมิ 
ก่อนที่จะออกเดินทางพร้อมกันในช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น โดยที่ผมแวะไปไหว้เจ้าพ่อพญาแลก่อนเดินทาง
จากการที่รอดมาได้อย่างหวุดหวิดเมื่อทริปคราวก่อน
แล้วมาเติมพลังยามเช้าด้วยต้มเลือดหมู ตามต่อด้วยกาแฟ

Moon Space
ร้านนี้กาแฟดีในราคาเบาๆเลยครับ มู้ดร้านเป็นแบบที่ชอบอยู่แล้วด้วย
จัดไป 2 แก้ว ชิวๆ

จากนั้นเราก็มุ่งหน้าสู่เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าภูเขียว โดยแวะทานมื้อกลางวันระหว่างทางก่อนเข้าไป
จากตัวชัยภูมิมาป้อมหน้าทางเข้าใช้เวลาประมาณ 2 ชม.
จากป้อมไปพื้นที่พักอีก 23Km อันนี้ก็ใช้เวลาอีกเกือบๆ ชม. ครับ
ด้วยสภาพถนน และการจำกัดความเร็วเพื่อป้องกันอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับสัตว์ป่า
ที่นี่พอเข้ามา เราก็จะพบเห็นกวาง เนื้อทราย นกยูง เป็นพื้นฐานที่ได้เห็นแน่นอน
ส่วนพวกกระทิง หมีหมา หรือแมวดาว เรายังมีแต้มบุญไม่ถึงที่จะได้เห็นครับ เสียดาย
มีพี่ที่มาก่อนเราเปิดรูปแมวดาวให้ชมด้วย น่าอิจฉา...

ตกเย็นพวกเราออกมาเดินเล่นกันที่ทุ่งกะมัง 
สัมผัสอากาศสบายๆ โอโซน และแสงสวยๆยามพระอาทิตย์ตกกันไปครับ


เมื่อแสงหมด เราก็กลับมาจัดแจงอาหารเย็นกัน
สำหรับที่พัก ที่นี่จะมีไฟฟ้าแค่ช่วง 6 โมงเย็นถึงสามทุ่มแค่นั้นนะครับ 
มื้อเย็นของเราเป็นไปอย่างรวดเร็ว และดุเดือดมาก เนื่องจากน้องเป็นแม่ครัวอยู่แล้ว
จึงเตรียมของมาครบ แล้วปรุงสุกมาแล้ว มาอุ่นทานกัน มีสลัด ผัดหมี่ ไส้กรอก
เอาจริงๆ กินดีกว่าที่ผมอยู่คอนโดคนเดียวเสียอีก

เมื่ออิ่มหนำ อาบน้ำกันเรียบร้อย เราก็มีออกมาส่องสัตว์เดินดูดาวบริเวณใกล้ๆที่พักกันบ้าง
กลับมาก็นั่งคุยกันต่อเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยเที่ยงคืนไป
น้องกับเพื่อนไม่เจอกันมานานมาก ก็มีเรื่องเล่า ระหว่างนั่งคุยก็มีกวางมาเดิน 
มีเสียงหมาในหอน ให้อบอุ่นหัวใจ ไม่เหงากันไปครับ
ปล. ที่นี่ดาวสวยมาก เห็นชัดมาก ระยิบระยับเต็มไปหมด


ความตั้งใจของกลุ่ม อยากจะตื่นตีสี่ครึ่ง เพื่อออกมาดูทางช้างเผือกกัน ว่าจะพอเห็นด้วยตาเปล่าบ้างมั้ย
พอจะถ่ายรูปได้หรือป่าว? แต่ด้วยความที่คุยกันเพลิน จนบางคนบ่นๆว่า จะตื่นไหวมั้ยน๊าาาา
ฉายแววจะชิ่งนอนยาวล่ะสิ ก็ต้องมาลุ้นกัน ส่วนตัวผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้แล้วแหละ

และแล้วตีสี่ก็มีเสียงปลุก.......จากเด็กน้อย ไม่ใช่นาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ เพราะยังไม่ถึงเวลาตื่น
สมใจทุกคนเลย ลุกไปดูทางช้างเผือกกันเถอะ 555

อากาศน่าจะประมาณ 8 องศา สำหรับผมกำลังสบาย ไม่ได้หนาวจนทรมาน
ออกมายืนขาแข็งถ่ายรูปไหว ทางช้างเผือกมองเห็นรางๆ ด้วยตาเปล่า ให้เรารู้ตำแหน่ง
ไอโฟนน้องที่มาด้วยตั้งกล้องถ่ายได้อยู่ 
ผมเองก็ถ่ายเล่นของผมไปตามสภาพ ผมไม่ใช่สายแลนด์จริงจัง 
ถ่ายภาพ แต่งภาพตามอัตถภาพไปครับ แค่ชอบบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติครับ


ผมนั่งถ่าย นั่งเล่นตรงบริเวณทุ่งกะมังไปเรื่อยๆ เพื่อรอแสงเช้า
ส่วนน้องๆที่มาด้วย กลับเข้าที่พักไปก่อน เนื่องจากเด็กน้อยงอแง แล้วก็กลับมาอีกทีตอนมีแสง
การมาท่องเที่ยวแล้วได้นั่งดูดาว นั่งรอแสงเช้าเป็นความสุขอย่างนึงเลยครับ
ถามว่าง่วงมั้ย ทรมานตัวเองมั้ย กับการตื่นเช้า นั่งๆ ยืนๆ หนาวๆ นานๆ
สำหรับผม ไม่รู้สึกแบบนั้นนะ จะมารู้สึกตอนสายๆ หรือขับรถกลับแทน 555
แต่ผมก็จะมีแอบงีบตามทางเสมอๆ ครับ


และเมื่อแสงเช้าส่องมา ชีวิตชีวาก็บังเกิด มีคนออกมาเดินเล่น ถ่ายรูป ตั้งกล้องรอกวางกระโดด 
ทุกอย่างตรงหน้า ดูสวยงาม ดูมีความสุขกันถ้วนหน้าครับ
เซ็ทนี้ ชมภาพกันไปยาวๆ เลยนะครับ


หลังจากใช้เวลาที่ทุ่งกะมังกันมาพอสมควร ก็กลับมาทานมื้อเช้า
เก็บข้าวของ เตรียมตัวเดินทางกลับ ตัวผมเองก็แอบงีบเอาแรงอีกสักหน่อยก่อนเดินทาง
ทริปนี้ ผมอาจจะไม่ได้เดินทางคนเดียวเหมือนทริปก่อนๆ 
เป็นทริปที่มีคนคุ้นเคยอยู่บ้าง คนเพิ่งรู้จักอยู่ด้วย แต่ก็เป็นทริปที่สนุกสนานมีความสุข
และได้ถ่ายภาพท่ามกลางธรรมชาติอีกครั้ง มันดีจริงๆครับ ที่ได้เดินทาง
ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาชมนะครับ
ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

แล้วไว้เจอกันอีกนะ...ทุ่งกะมัง
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่