สวัสดีวันอาทิตย์ ที่ 8 ธันวาคม 2567 ครับ วันนี้มีโอกาสติดรถเพื่อนบ้านมาตลาดหัวตะเข้
เพื่อนบ้านมาหาซื้อของไปตกแต่งต้นคริสต์มาสครับ มาถึงตลาดหัวตะเข้ทั้งทีก็ต้องแวะไปเยี่ยมเยียน
"ตลาดเก่าหัวตะเข้" หรือ "ตลาดโบราณหัวตะเข้" ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตลาดสดในปัจจุบันครับ
มาอ่านประวัติกันคร่าวๆก่อนดีกว่าครับ >>>> หัวตะเข้ เป็นชื่อชุมชนและตลาด มีจุดเด่นคือเป็นจุดตัดของสามคลอง
ได้แก่คลองหัวตะเข้ คลองลำปลาทิวและคลองประเวศบุรีรมย์ อยู่ในเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
ที่มาของชื่อชุมชนหัวตะเข้มาจากเมื่อครั้งขุดคลองมาถึงบริเวณนี้แล้วพบหัวกะโหลกของจระเข้ตัวเล็กๆตัวหนึ่ง
มีแต่ส่วนศีรษะไม่มีส่วนลำตัว กะโหลกส่วนศีรษะจระเข้นี้ ยังเก็บไว้อยู่ในศาลเจ้าปึงเถ่ากง
ที่ตั้งอยู่ในบริเวณตลาดสดจนถึงปัจจุบันนี้ครับ (ไปรอบนี้ไม่ได้แวะศาลเจ้า เลยไม่มีรูปหัวกะโหลกจระเข้มาให้ชมกันครับ)
**ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย ครับ**
หลังจากซื้อของที่ต้องการเสร็จเรียบร้อย เอาของกลับไปเก็บที่รถ แล้วเราก็เดินตัวปลิวไปย่านตลาดเก่ากันครับ
เรียกว่าเป็นผลพลอยได้จากการออกมาตลาดในครั้งนี้ดีกว่าครับ เพราะเพื่อนบ้านก็ไม่รู้ว่าที่นี่ซ่อนตลาดโบราณริมน้ำเอาไว้
ถือโอกาสพาเพื่อนบ้านเดินเที่ยวซะหน่อยครับ ^^
ที่นี่ในวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะคึกคักหน่อยครับ ย่านตลาดเก่ามีลักษณะเป็นห้องแถวไม้ขนานไปกับริมคลองประเวศบุรีรมย์
มีทั้งร้านคาเฟ่ริมคลอง ร้านของกิน ร้านเวิร์กชอปเกี่ยวกับศิลปะทั้งวาดรูป ระบายสีเซรามิก ร้อยสร้อยข้อมือ
งานศิลปะแฮนด์เมดต่างๆให้พวกเราได้ลองฝีมือกันในราคาที่ไม่แพงครับ และก็มีโฮมสเตย์ที่พักด้วยครับ
ป่ะเราไปเดินเที่ยวกัน อาจจะไม่ละเอียด100% เพราะไม่ได้ตั้งใจมาทำรีวิว รอบนี้เอาไปคร่าวๆก่อนแล้วกันครับ ^^
V
V
V
V
V
การเดินทางมาตลาดหัวตะเข้มาได้หลายทาง โดย ตลาดจะตั้งอยู่ซอยลาดกระบัง17 ครับ
จะนั่งสองแถว วินมอเตอร์ไซค์ แทกซี่หรือรถส่วนตัวก็มาได้ แต่ช่วงนี้ลาดกระบังจะขึ้นชื่อเรื่องรถติดมากๆครับ
เราจอดรถกันไว้ที่หน้าศาลเจ้าปึงเถ่ากง ไม่ได้แวะไหว้ศาลเจ้าเลยครับ
มีคุณป้านั่งเก็บค่าจอดรถ 20 บาท หลังจากนั้นก็เดินออกมาตรงนี้
เดินไปจนสุดทาง ถ้าเลี้ยวขวาจะไปลานจอดรถของตลาดสดครับ
แต่เราเลี้ยวซ้าย เพื่อไปย่านตลาดเก่า เลี้ยวซ้ายไปจะเจอร้านขายขนมเปี๊ยะ
เป็นร้านเก่าแก่ของที่นี่เลยครับ
ขวามือจะเจอภาพสวยๆบนผนังตึกภาพนี้ครับ
เดินข้ามสะพานเล็กๆนี่ไปเลย จะเห็นป้ายตลาดเก่าหัวตะเข้
สะพานนี้ทอดตัวข้ามคลองประเวศบุรีรมย์ เชื่อมระหว่างชุมชนตลาดเก่ากับตลาดใหม่ครับ
ลงสะพานไปก็จะเจอประตูเหลืองบานนี้ เป็นฉากถ่ายรูปสุดคลาสสิคเลยครับ
เราเลี้ยวขวาไปยังย่านที่มีร้านอยู่เยอะๆ เจอร้านแรกเป็นผัดไทยร้านนี้ครับ
ในรีวิวเขาว่าอร่อย แต่วันนี้เราไม่ได้แวะชิมผัดไทยกันครับ
เราจะไปฝากท้องมื้อกลางวันกันที่ ร้านก๋วยเตี๋ยวโรงกลึง
ถึงแล้วร้านก๋วยเตี๋ยวโรงกลึง
ร้านอยู่ฝั่งริมคลอง บรรยากาศน่านั่งเลยครับ ลมพัดเย็นๆ
เมนูและราคาครับ
เริ่มจากโค้กเย็นๆมาก่อนเลยครับของเพื่อนบ้านเป็นน้ำแดง
ตามมาด้วยบะหมี่เกี๊ยวต้มยำ 2 ชาม หน้าตาสีสันน่ากิน
สำหรับผมชิมแล้วรสชาติทั่วๆไป ไม่ถึงกับว้าวอะไร ก็กินได้ปกติครับ
แต่บรรยากาศร้านริมคลองดีมากๆครับ
บะหมี่เกี๊ยว ชามละ 50 บาท โค้กขวดละ 15 บาท มื้อนี้จ่ายคนละ 65 บาท ครับ
อิ่มแล้วเดินกันต่อ ไปดูร้านเวิร์คชอปงานศิลปะกันบ้าง
เรือนแถวไม้ด้านที่ไม่ติดคลอง มักจะทำเป็นร้านเวิร์คชอปเกี่ยวกับงานศิลปะ
บางที่เป็นที่พักด้วย เป็นคาเฟ่ให้ได้นั่งชิวๆด้วยครับ
อย่างร้านนี้ 274 เวิร์คชอปสเปซ แอนด์เกสเฮ้าส์
เป็นทั้งร้านเวิร์คชอปงานศิลปะและเกสต์เฮ้าส์ในตัวเลยครับ
มีของแฮนด์เมดขาย กระเป๋าผ้าสวยมากๆ เจ้าของร้านชวนให้เข้าไปดูในร้าน
ตรงรูปโค้กขวดใหญ่นั่นด้านบนเป็นห้องพักครับ
ที่นี่เป็นเวิร์คชอปสำหรับระบายสีเซรามิคครับ
หรือใครจะปั้นเขาก็มีบริการสอนครับ มีค่าใช้จ่าย
ใครที่อยากได้ผลงานเซรามิคฝีมือตัวเองก็สอบถามที่ร้านได้เลยครับ
นี่เป็นผลงานของลูกค้าที่ทำไว้ รอการนำส่งไปยังลูกค้าครับ
เจ้าของการบอกว่ากระบวนการก็คือ ลูกค้าเพ้นท์ลายเสร็จ ทางร้านก็จะนำไปเผา
ให้สีมันขึ้นเป็นเงาๆ ลวดลายชัดเจนขึ้น ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลานาน
ลูกค้าที่มาเวิร์คชอปก็แค่ให้ที่อยู่ไว้ แล้วทางร้านจะจัดส่งผลงานที่สำเร็จสมบูรณ์แล้ว
กลับไปให้เราทีหลังครับ แค่นี้เราก็จะได้งานเซรามิคจากฝีมือของเราเองเก็บไว้เป็นที่ระลึกแล้วครับ
เสียดายวันนี้เรามีเวลาไม่มากพอที่จะนั่งทำ เลยได้แต่เดินๆดูผลงานของคนอื่นๆครับ
ตั้งใจว่าถ้ามีเวลาละมาปลีกวิเวกนั่งปั้นนั่งเพ้นท์เซรามิกให้ตัวเองซักชิ้นครับ
ร้านถัดมาที่เราเดินผ่านแล้วสะดุดตาก็คือร้านนี้ครับ
บ้านจิมะ เป็นร้านขายขนมหวานอย่าง นมปั่น น้ำผลไม้ปั่น ปังเย็น
อยู่ฝั่งริมคลอง ร้านตกแต่งน่ารักมากๆครับ
ส่วนร้านนี้จำชื่อร้านไม่ได้แล้วครับ เป็นทั้งคาเฟ่และร้านเวิร์คชอปศิลปะ เพ้นท์สีและมีเฟรมให้สำหรับวาดภาพ
ส่วนราคาไม่ได้ถ่ายรูปมาเลยครับ ว่าค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ใครอยากมานั่งวาดรูปริมคลองชิวๆก็มาได้ที่ร้านนี้ครับ
ป้ายเก่าๆ คลาสสิคๆระหว่างทางเดิน
ร้านขายของเล่นและขนมโบราณ ย้อนวัยไปเมื่อซัก30-40ปีที่แล้ว
ร้านนี้เป็น เวิร์คชอปทำเรซิน พวงกุญแจ เคสโทรศัพท์มือถือ และ สร้อยข้อมมือ จุ๊กจิ๊กๆ น่ารักมากๆครับ
กล้วยปิ้งร้านนี้อาจจะดูธรรมดาๆ ลองซื้อมาชิม 1 ไม้ อร่อยเลยครับ ไม่ทันได้ถ่ายรูปเลย ^^ หมดซะแล้ว
เราเดินมาจนสุดทาง เจอคาเฟ่ร้านนี้
💜สี่แยกหัวตะเข้ คาเฟ่ แอนด์ เกสต์เฮ้าส์💜
ร้านนี้อยู่บริเวณมุมสุดที่เป็นจุดที่ลำคลองสามสายมาบรรจบกัน
กลายเป็นสี่แยกลำคลองตามที่เห็นครับ
เราสั่งน้ำปั่นกับขนมปังปิ้งมากินกัน
เมนูและราคาครับ
ของผมสั่งเป็นนมน้ำผึ้งปั่น แก้วละ 50 บาท
ขนมปังปิ้งหน้าฝอยทอง 25 บาท หน้าเนยนมน้ำตาล 20 บาท
ต่อด้านล่างครับ
@@ ตลาดโบราณริมน้ำหัวตะเข้....ชุมชนศิลปะสุดเก๋ ย่านลาดกระบัง @@