มะเร็งเต้านม (Breast Cancer) เกิดจากการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์ในท่อน้ำนม ต่อมน้ำนม หรือส่วนต่างๆ ของเต้านม หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจลุกลามไปยังอวัยวะสำคัญ เช่น ปอด ตับ สมอง หรือกระดูก และอาจนำไปสู่การเสียชีวิต มะเร็งเต้านมเป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้หญิง แต่หากมีความรู้ความเข้าใจและตรวจพบเร็ว โอกาสรักษาหายขาดย่อมสูงขึ้น
ใครบ้างที่ควรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม และควรเริ่มเมื่อไหร่?
-การตรวจเต้านมด้วยตัวเอง: เริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 20 ปี ทำทุกเดือนหลังประจำเดือนหมด 7 วัน
-การตรวจโดยแพทย์: ตั้งแต่อายุ 20 ปี ควรตรวจทุก 3 ปี และเมื่ออายุเกิน 40 ปี ควรตรวจทุกปี
-การตรวจด้วยแมมโมแกรมหรืออัลตราซาวด์: เริ่มตรวจเมื่ออายุ 35-40 ปี และตรวจซ้ำทุกปีเมื่ออายุเกิน 40 ปี
ต้องมีอาการก่อนถึงจะตรวจได้หรือไม่?
ไม่จำเป็น! มะเร็งเต้านมระยะแรกมักไม่มีอาการ การตรวจตั้งแต่ไม่มีอาการช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาและลดความเสี่ยงในการสูญเสียเต้านม
สัญญาณเตือนมะเร็งเต้านม
-คลำเจอก้อนในเต้านมหรือรักแร้
-เต้านมเปลี่ยนขนาดหรือรูปร่าง
-มีผิวหนังบุ๋มหรือรอยย่นคล้ายเปลือกส้ม
-มีของเหลวผิดปกติไหลออกจากหัวนม เช่น เลือดหรือของเหลวคล้ายหนอง
หน้าอกเล็กหรือใหญ่เสี่ยงมะเร็งเต้านมต่างกันไหม?
ไม่ว่าจะหน้าอกเล็กหรือใหญ่ ทุกคนมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมได้เท่ากัน ขนาดเต้านมขึ้นอยู่กับไขมัน ไม่ใช่เนื้อเยื่อที่เป็นต้นเหตุของมะเร็ง
ผู้ชายเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมหรือไม่?
ใช่! แม้จะพบได้ไม่บ่อยเท่าผู้หญิง แต่ผู้ชายก็สามารถเป็นมะเร็งเต้านมได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม หรือความผิดปกติของฮอร์โมน
คันหัวนมหรือมีของเหลวไหลจากหัวนมคือสัญญาณอันตรายหรือเปล่า?
อาการคันหัวนมมักเกิดจากการระคายเคืองหรือแพ้ แต่ถ้าร่วมกับสัญญาณผิดปกติ เช่น หัวนมบุ๋มหรือมีแผลเรื้อรัง ควรรีบปรึกษาแพทย์
มะเร็งเต้านมถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ไหม?
พันธุกรรมมีผลต่อความเสี่ยง หากมีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม ความเสี่ยงอาจเพิ่มขึ้น 2-5 เท่า
การตรวจแมมโมแกรมปลอดภัยหรือไม่?
การตรวจแมมโมแกรมใช้รังสีในปริมาณต่ำมาก ซึ่งเทียบเท่ากับรังสีที่รับจากกิจกรรมประจำวันในช่วงเวลา 7 สัปดาห์ โอกาสเกิดอันตรายจึงน้อยมาก
น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง หรือน้ำมันมะพร้าว เพิ่มความเสี่ยงจริงไหม?
ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่บ่งชี้ว่าอาหารเหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม หากบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมกลับอาจช่วยลดความเสี่ยงได้ด้วยซ้ำ
การป้องกันมะเร็งเต้านมเริ่มต้นที่การดูแลตัวเอง เช่น ตรวจเต้านมเป็นประจำ ควบคุมน้ำหนัก และปรึกษาแพทย์เมื่อพบความผิดปกติใดๆ การรู้ทันและปฏิบัติตามคำแนะนำในการตรวจคัดกรองจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านเพิ่มเติม ที่
HDmall Blog
รวมคำถามและคำตอบที่ควรรู้ เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม
ใครบ้างที่ควรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม และควรเริ่มเมื่อไหร่?
-การตรวจเต้านมด้วยตัวเอง: เริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 20 ปี ทำทุกเดือนหลังประจำเดือนหมด 7 วัน
-การตรวจโดยแพทย์: ตั้งแต่อายุ 20 ปี ควรตรวจทุก 3 ปี และเมื่ออายุเกิน 40 ปี ควรตรวจทุกปี
-การตรวจด้วยแมมโมแกรมหรืออัลตราซาวด์: เริ่มตรวจเมื่ออายุ 35-40 ปี และตรวจซ้ำทุกปีเมื่ออายุเกิน 40 ปี
ต้องมีอาการก่อนถึงจะตรวจได้หรือไม่?
ไม่จำเป็น! มะเร็งเต้านมระยะแรกมักไม่มีอาการ การตรวจตั้งแต่ไม่มีอาการช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาและลดความเสี่ยงในการสูญเสียเต้านม
สัญญาณเตือนมะเร็งเต้านม
-คลำเจอก้อนในเต้านมหรือรักแร้
-เต้านมเปลี่ยนขนาดหรือรูปร่าง
-มีผิวหนังบุ๋มหรือรอยย่นคล้ายเปลือกส้ม
-มีของเหลวผิดปกติไหลออกจากหัวนม เช่น เลือดหรือของเหลวคล้ายหนอง
หน้าอกเล็กหรือใหญ่เสี่ยงมะเร็งเต้านมต่างกันไหม?
ไม่ว่าจะหน้าอกเล็กหรือใหญ่ ทุกคนมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมได้เท่ากัน ขนาดเต้านมขึ้นอยู่กับไขมัน ไม่ใช่เนื้อเยื่อที่เป็นต้นเหตุของมะเร็ง
ผู้ชายเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมหรือไม่?
ใช่! แม้จะพบได้ไม่บ่อยเท่าผู้หญิง แต่ผู้ชายก็สามารถเป็นมะเร็งเต้านมได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม หรือความผิดปกติของฮอร์โมน
คันหัวนมหรือมีของเหลวไหลจากหัวนมคือสัญญาณอันตรายหรือเปล่า?
อาการคันหัวนมมักเกิดจากการระคายเคืองหรือแพ้ แต่ถ้าร่วมกับสัญญาณผิดปกติ เช่น หัวนมบุ๋มหรือมีแผลเรื้อรัง ควรรีบปรึกษาแพทย์
มะเร็งเต้านมถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ไหม?
พันธุกรรมมีผลต่อความเสี่ยง หากมีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม ความเสี่ยงอาจเพิ่มขึ้น 2-5 เท่า
การตรวจแมมโมแกรมปลอดภัยหรือไม่?
การตรวจแมมโมแกรมใช้รังสีในปริมาณต่ำมาก ซึ่งเทียบเท่ากับรังสีที่รับจากกิจกรรมประจำวันในช่วงเวลา 7 สัปดาห์ โอกาสเกิดอันตรายจึงน้อยมาก
น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง หรือน้ำมันมะพร้าว เพิ่มความเสี่ยงจริงไหม?
ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่บ่งชี้ว่าอาหารเหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม หากบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมกลับอาจช่วยลดความเสี่ยงได้ด้วยซ้ำ
การป้องกันมะเร็งเต้านมเริ่มต้นที่การดูแลตัวเอง เช่น ตรวจเต้านมเป็นประจำ ควบคุมน้ำหนัก และปรึกษาแพทย์เมื่อพบความผิดปกติใดๆ การรู้ทันและปฏิบัติตามคำแนะนำในการตรวจคัดกรองจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ