เราโตมาอย่างลำบากเกิดมาพ่อแม่ก็ส่งไปให้อยู่กับยายที่ต่างจังหวัดพ่อแม่ส่งให้เรียนจบแค่ป.6ให้แค่เงินค่าข้าว ไม่เคยได้กินขนมแบบเพื่อนๆ เรามีน้องสาวหนึ่งคนอายุห่างกัน5ปีน้องคลอดก่อนกำหนด น้องไม่ค่อยแข็งแรง มักจะโดนยายตีอยู่ประจำ เพราะน้องค่อนข้างซื่อบื้อไม่ได้ดั่งใจ เรา2คนจะได้นอนด้วยกันที่มุมอับๆของเรา2คนพี่น้อง ไม่มีแม้พัดลมให้ดึกๆเราต้องลุกมาผลัดกันพัด เพราะร้อนนอนไม่หลับ ต่างจากพี่น้องคนอื่นในบ้านที่มีพัดลมกันคนล่ะตัว เพราะพ่อแม่ของพวกเขาส่งเงินให้ เวลาไปโรงเรียนเรา2คนมักได้เงินไปน้อยกว่าพวกพี่น้อง เพราะพ่อแม่ของพวกเราไม่มีเงินส่ง อดมื้อกินมื้อ เราเคยไปหยิบสินค้าป้ายเหลืองตอนไปบิ๊กซีกับแม่เพราะอยากกินมากๆจำได้ว่ามันน่าจะเป็นชีสลดราคาใกล้หมดอายุ แม่พูดกับเราว่าถ้ายังไม่มีปัญญาหาเงินอย่าสันหากินของดีๆเรากลั้นใจเรียนจนจบม.ต้นโดยที่พ่อและแม่ไม่ได้ส่งยายให้อาทิตย์ล่ะ100(ตอนนั้นพ.ศ2560)พ่อบอกให้ลาออกมาหาเงินช่วยครอบครัว แต่เราไม่อยากลาออก เถียงกันถึงขั้นจะตัดพ่อตัดลูก เราไปคุยผู้ชายคนนึ่งที่เขาเป็นกิ๊กแม่ที่คุยเพราะไม่อยากให้พ่อกับแม่เลิกกัน แม่รู้ แม่ไปพูดให้เราเสียๆหายๆว่าเป็นเด็กใจแตก ด่าเราสารพัด เขาอยากได้อยากกินอะไรแม่ซื้อให้ โทรศัพท์ก็ซื้อให้ ทีเรากับน้องให้อยู่อดๆอยากๆ สุดท้ายแล้วผู้ชายคนนั้นเขาก็ทิ้งแม่ เราเรียนต่อม.ปลายจนจบ(ด้วยเงินตัวเอง100%)รับจ้างทุกอย่างยันตี3-ตี4 เราต่อป.ตรี เราทำงานได้4เดือนยายป่วยเข้าโรงพยาบาลเราลาออกไปดูแลยายเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวบางทีก็สาปแช่งเพราะเราไม่ได้ดั่งใจ และเราห้ามให้กินของไม่ดี แช่งให้เราป่วย ทำมาค้าขายไม่ขึ้น ให้ลำบากจนวันเข้าโลง(ยายเป็นคนปากจัดขี้วีนแอะอะแช่ง)เฝ้าอยู่7เดือนเรากลับมาหางานใหม่ทำระหว่างรองานเราทำพาสไทม์+โอทีทุกวันฝากให้ที่บ้านเดือนล่ะ5-6พันต่อเดือน ต่อมาได้ทำงานประจำทุกอย่างเริ่มลงตัวเพราะเรามีแฟนหาเงินช่วยกัน2คน พ่อแม่เราอยากให้เรา2คนแต่งงานกัน สินสอดช่วยกันหาก็ได้ แต่เราไม่อยากแต่งงานเราเองที่ไม่อยากแต่งอยากอยู่กันไปเรื่อยๆเก็บเงินสร้างอนาคตด้วยกันไปเรื่อยๆ เสียดายเงิน ทุกคนกับคิดว่าเนรคุณ ไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง รู้สึกเสียใจ เรามีเงินซื้อบ้านหลังใหญ่ราคาหลักล้าน รถยนต์อีก2คัน บ้านเป็นชื่อแฟน เพราะเขาจ่ายเยอะกว่าเรา รถอีกหนึ่งคันเป็นชื่อเขาด้วย ครอบครัวเรามองว่าเราโง่ ให้ทุกอย่างเป็นชื่อผัว บังคับให้ราไปโอนมาเป็นชื่อตัวเองให้หมด และให้เราไปบอกแฟนด้วยนะว่าที่บ้านมีหนี้สินให้มาช่วยกันจ่าย เราบอกเราทำไม่ได้หรอก แต่เราเต็มใจที่จะให้ทุกอย่างเป็นชื่อแฟนนะ เขาเข้ามาเติมเต็มหลายอย่างในชีวิตเรามาก ได้กินอิ่ม กินอาหารดีๆ นอนหลับสะบายเตียงนุ่มแอร์เย็น ได้ไปในที่ที่อยากไป ได้นั่งรถแอร์เย็นๆเบาะนุ่มๆไม่ต้องวิ่งตามรถเมล์เหมือนแต่ก่อน ได้ของขวัญชิ้นโต ได้เป่าเค้กได้มีงานวันเกิดครั้งแรกในชีวิตตอนคบกับเขา ถ้าหากวันนึ่งเขาคิดทรยศหักหลังหรือทำอะไรไม่ดีต่อเรา เราก็ยินดีที่จะให้ในส่วนที่เขาหาไป สิ้นปีนี้พ่อแม่ยายและอากับหลานสาวขอมาอยู่บ้านเรากับแฟนเราพูดตามความรู้สึกนะว่าไม่อยากให้มา แฟนเราค่อนข้างรักสงบไม่ชอบความวุ่นวาย เรากลัวแฟนอึดอัด คนเยอะเรื่องแยะ ค่าใช้จ่ายก็คงเพิ่มขึ้นกลัวจะหมุนกันไม่ทันเพราะเรา2คนก็ทำงานประจำกินเงินเดือนอยู่ เราแทบไม่อยากโทรหาไม่อยากคุยด้วยด้วยซ้ำตอนเราไม่มีเงินก็มองเราเป็นหมาหัวเน่าตัวนึ่ง พูดอะไรไม่เคยคิดถึงจิตใจเราเลยสักครั้ง ทุกวันนี้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อก่อนยังร้องไห้อยู่เลย รู้สึกว่าคนในครอบครัวไม่มีใครรักเราเลยจริงๆ โกรธที่มีทั้งพ่อและแม่แต่พวกเขาปล่อยให้เราลำบากขนาดนี้ทั้งที่อายุพวกเขาก็ยังไม่เยอะ ไม่พยายามดิ้นรนให้เราสะบายกว่านี้ ต่างจากเราที่ตัวคนเดียว เรายังพยายยามหาให้พวกเขากินอิ่มนอนหลับเลย โกรธยายที่ใจร้ายใจดำ เราไม่กลับบ้านไปเยี่ยมพวกเขา2-3ปีแล้วแต่ยังส่งเงินทุกเดือนและก็ให้ทุกครั้งที่ขอไม่เคยต่อรอง บ่นไปงั้นแหละนึกถึงอดีตของตัวเองแล้วมันเศร้าแต่ไม่รู้จะบ่นให้ใครฟังกลัวคนอื่นรำคาญ พอได้พิมพ์ได้เล่าก็อาจจะสะบายใจขึ้นก็ได้มั้งง
อยากระบายเฉยๆ คนเดียว