PTT เบรกลงทุนโรงงานรถยนต์ EV หลังตลาดแข่งเดือด เปิดทาง"ฟ็อกซ์คอนน์"เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการหลัก

พับแผนไว้ก่อน



PTT ประกาศหยุดก่อสร้างโรงงานรถ EV หลังตลาดแข่งเดือด รีบเจรจายกให้ฟ็อกซ์คอนน์ไปดำเนินการเอง เพราะเชี่ยวชาญกว่า แต่ยังเก็บธุรกิจสถานีชาร์จไว้ เหตุมี OR เป็นจุดแข็ง ส่วนแผนธุรกิจปี 68 ย้ำยังเน้นธุรกิจหลัก ทั้งก๊าซธรรมชาติ - ไฮโดรเจน - ปิโตเลียม และ LNG พร้อมเดินหน้าหาพันธมิตรโรงกลั่น - ปิโตฯ และธุรกิจสุขภาพ

 ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยถึง แผนกลยุทธ์ธุรกิจปี 68 และ แผนธุรกิจระยะ 5 ปี (ปี 68-72) ว่า กำลังอยู่ในช่วงดำเนินการ และคาว่าจะเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาได้ช่วงกลางเดือนธ.ค.นี้

 ซึ่งในแผนดังกล่าว PTT จะยุติการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV ที่ร่วมทุนกับ ฟ็อกซ์คอนน์ กรุ๊ป เนื่องจากธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า ในช่วงที่ผ่านมามีการแข่งขันสูง ดังนั้นต้องเลือกก่อนว่า โครงการไหนสามารถดำเนินการได้ต่อ โดยบริษัทกำลังเจรจา เพื่อให้ทาง ฟ็อกซ์คอนน์ มาเป็นผู้ดำเนินการหลักแทนการร่วมทุน เพราะมีความเชี่ยวชาญมากกว่า โดยหากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบอีกครั้งภายหลัง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังขยายการลงทุนในกลุ่ม อีวี ชาร์จเจอร์ เนื่องจากบริษัทยังมีความได้เปรียบ เพราะมี OR ที่เป็นจุดแข็ง ในการขยายทำเลเพื่อการตั้งสถานีชาร์จ

 อนึ่ง ก่อนหน้านี้ช่วงปลายปี 65 PTT และ ฟ็อกซ์คอนน์ ได้ตั้งบริษัทร่วมทุน "ฮอริษอน พลัส" (PTT ถือหุ้น 60% - ฟ็อกซ์คอนน์ ถือ 40% ) ตั้งโรงงานรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี ใช้งบลงทุน 37,000 ล้านบาท หรือประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างอุปกรณ์การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโดยตั้งเป้าสร้างเสร็จและถึงขั้นตอนการส่งมอบการผลิตในปี 2567 และในเบื้องต้นจะมีกำลังการผลิต 50,000 คันต่อปี และจะทยอยเพิ่มขึ้นเป็น 150,000 คันต่อปี

 ขณะที่แผนธุรกิจส่วนอื่น ยังให้ความสำคัญกับกลุ่มธุรกิจหลักอย่าง ก๊าซธรรมชาติ , ไฮโดรเจน, สำรวจและผลิตปิโตรเลียม และ การนำเข้า LNG เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้เติบโตสูงต่อไปอีก 2-3 ปี โดยมีแผน หาพันธมิตรที่มีศักยภาพทั่วโลกเข้ามาสนับสนุนธุรกิจโรงกลั่น และปิโตเคมี เบื้องต้นคาดว่าจะเห็นความก้าวหน้าในปี 2568

 ปี 68 ภาพรวมธุรกิจปิโตรเคมี คาดจะดีกว่าปีนี้หรือ มีดาวน์ไซด์จำกัด เนื่องจากหากเศรษฐกิจโลกเติบโตขึ้น และ มีการตั้งด้อยค่าน้อยลง ส่วนธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเคมี คาดปริมาณการขายปิโตรเคมีจะเพิ่มขึ้น ด้าน LNG น่าจะมีอนาคตไปอีก 2-3 ปี "ดร.คงกระพัน กล่าว

สำหรับ ปัญหาของ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ที่มีปัญหาผู้รับเหมาช่วงโครงการพลังงานสะอาด (CFP) รวมตัวชุมนุมบริเวณหน้าโรงกลั่นไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้มีทีมเข้าไปให้คำแนะนำ เนื่องจากถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม TOP ถือเป็นธุรกิจที่มีกำไร และการก่อสร้างโรงงานจะเดินหน้าต่อไป

 ทางด้านธุรกิจสุขภาพภายใต้การดำเนินงานของ “อินโนบิก” อยู่ระหว่างมองหาพันธมิตรที่มีความชำนาญในธุรกิจดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 68 เช่นกัน

 นอกจากนี้ PTT จะผลักดันธุรกิจใหม่ด้านการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนใดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage: CCS) และธุรกิจไฮโดรเจน อีกทั้งยังมีการลงทุนในธุรกิจโฮโดรเจนต่างประเทศ รองรับการใช้พลังงานสะอาดเพิ่มเติมเพื่อลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนในอนาคต

19 พฤศจิกายน 2567 16:45
ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 3% หลังแหล่งน้ำมันใหญ่สุดในยุโรประงับการผลิต - กังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 3% หลังแหล่งน้ำมันใหญ่สุดในยุโรประงับการผลิต - กังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน

 https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=R3ZFVFZJSFVRYUU9&security=PTT&fbclid=IwY2xjawGqDw1leHRuA2FlbQIxMQABHcJEpTmp5C5JdWHecZqaTV5HXAK7RHC01yFPLGmvHyps_m4Fw5tIO4i-TA_aem_duKBvR6urKjpVwdBvF6AbQ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่