ปัทมา สาวใหญวัย 50 เธอทำงานตั้งแต่ ระดับ มหาลัย ส่งเสียตัวเองจนเรียนจบ ป ตรี ปัจจุบัน พ่อแม่เสียหมดแล้ว เธอเป็นลูกคนเดียว
ปัทมา อาศัยอยู่ใน ทาวน์เฮาส์หมู่บ้านแห่งนึงมา 30 ปี ตั้งแต่อายุ 20 เพื่อนบ้าน เก่าๆ ตายไปเยอะ ย้ายไปก็มาก คนที่รุ้จักเธอตอนเด็กๆ แทบเหลือน้อย และ บางคน ก็ไม่ได้ทักทายกัน เพราะต่างคนต่างอยู่
จากเด็กมหาลัย เธอทำงานจนอายุ 50 ปี ทาง ที่ทำงาน มีข้อเสนอ รับไปเลย 2 ล้าน ถ้า เออรี่ และ นี่คือ ข้อเสนอสุดท้ายหลังจากนี้ไม่มีละ นะ สำหรับคนอายุ 50 ที่อยากเออรี่ ปัทมา พอมีตังค์เก็บ จากรายได้เดือนละ 70000 มาหลายปี รวมกับ 2 ล้าน เป็น เธอมีตังค์ พอควร
เอาวะ ปัทมานึก สองล้านไม่ได้หาง่ายๆนะจ๊ะ ปัทมาบอกตัวเอง ทำงานไป อีก 5 ปี ก็ต้องเกษียณเหมือนกัน เพราะ เอกชน ไม่ได้ให้ทำถึง 60 สำหรับที่ทำงานเธอ จึงสรสุปว่า ปัทมา รีไทร์ แม้ร่างกายยังทำได้อีกสบายๆ มากกว่า 60 ก็ตาม
แต่ปัทมา ลืมนึกไปอย่างนึง เธอทำแต่งาน สังคมไม่มี เก็บตึงค์นับแรมปี ตอนนี้ ก็มาอยู่บ้าน ไม่ได้มีแผนอะไร เธอว่า เอาไว้ค่อยนึก และ เธอก็มาเจอ สังคมเพื่อนบ้าน หน้าใหม่ทั้งหลาย ที่เธอไม่ค่อยได้เสวนาด้วย แต่ไหนๆก็ว่างแล้ว เพื่อนบ้าน ก็ มาชวนคุย
ปัทมาคุยได้ สองสามเดือน เธอรู้ทันทีเลยว่า นี่คือ ชาวบ้าน เหมือนในละคร เรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็เอาให้มีเรื่องจนได้ ปากสว่าง เสียงดัง คนไม่ได้พูดอะไร ก็กลายเป็นคนผีดไปได้ และ นีนทา ไฟแล่บ
วันนึง เพื่อนบ้านเธอซ่อมบ้าน ปัทมา ก็รู้เต็มอกว่า มันทำอะไรไม่ได้นะ มันต้องทุบบ้านนั้น มาสะเทือนบ้านนี้ อยู่แล้ว ที่สำคัญ เพื่อนบ้านคนนี้ ไว้ใจไม่ได้ ปัทมากลับจากทำงาน มักเจออะไรที่ ล้ำที่ ไม่ว่าจะกันสาด ต้นไม้ ทำท่อน้ำที้งลงมาหน้าบ้านเธอ แต่ ปัทมาก็ เฉยๆ ยังไม่วายจะโดน
เมื่อเพื่อนบ้านซ่อมบ้าน ปัทมาก็ ทนๆไป เสียงดัง ต่างๆนานา ไม่มีปัญหา เธอคุยกับช่างอย่างดี เพราะเจ้าของบ้านไม่อยู่
แต่เพื่อนบ้านตอนเย็นก็จะมายืนดู ข้างบ้านเธอ และเธอออกไปที้งขยะ เจอ สามเพื่อนบ้าน อาวุโส ไม่โอเค วัย 65 - 70 มา ถามว่า หนวกหูไหม
ปัทมา ก็บอกว่าดังดีค่ะ
จากนั้น เบอร์ 1 วัย 70 ก็พูดว่า โอยเขาไม่ได้ซ่อมมานานแล้ว ต้องซ่อมละนะ ( ปัทมานึกในใจ กูไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย )
จากนั้น เบอร์ 2 วัย 65 พูดลอยๆ แบบเพลง อัสนีย์ " แหม ซ่อม ไม่กี่เดือนไม่ได้ซ่อม ทั้งปีเมื่อไหร่ ": ( ปัทมานึก โห กูว่าอะไรรึยังนะ )
แล้ว เบอร์สาม วัย 70 กลับจากเยอรมัน หลังจากไปหาตังค์จนแก่ตัว แต่อาชีพอะไร ปัทมารู้แต่ไม่พูด ก็แถมต่อว่า " แหม ไม่กี่เดือนแป๊ปๆก็จบแล้ว "
ปัทมา นึกในใจ นี่กุยังไม่ได้พูดบ่นอะไรสักคำเลยนะ อะไรวะนี่ เออรี่ มา เออเร่อ เจอ พวกประชาชนชาวซอย นี้ งงเว้ยเฮ้ย ซวยป่ะล่ะ
ปัทมา ได้แต่ยี้มหน่อยๆ แล้วเข้าบ้านเเลย เพราะรู่ว่า ถ้าพูดในแนว ก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอจะอยู่ยาก เพราะเขา ยัดข้อหาให้เธอแล้ว สามคนนี้ คือ ระดับ เลียเจ้าของบ้านที่ซ่อมมานานมาก ด้วยยืมตังค๋ บ้าง หาเพื่อนบ้าง ( ไม่มีเพื่อน ) และ ไม่มีใครเลย ( ลูกหลานไม่เอา )
ปัทมา มองดู สมุดบัญชี แล้ว ยกหู โทรหาเพื่อน สองสามคน สรุป เธอจะกลับไปทำงานดีกว่า เพราะรู้สึกว่า เธอยังไม่พร้อมจะมา เล่นละคร แถวบ้านแบบนี้
สังคมที่ทำงาน แม้วัย 50 ก็ยังทำได้ เพื่อนๆเต็มใจไม่บอกปัด ปัทมา ให้รีบมาไวๆ ช่วยๆกัน
บางครั้ง สังคมที่เราอยู่มาทั้งชีวีต กับคนมีเหตุ มีผล ต้องถกกันด้วย สาระ หากอยู่ ต้องมาเจอ ปั้นน้ำเป็นตัว มั่วเรื่องแล้ว สนับสนุนกันขึ้นมาแบบ ปัทมาเจอแบบนี้ ทำงานจนไม่ไหวจะดีกว่า ( ปัทมา บอกไว้ )
จบแล้วจ้า
เรืองสั้น เออรี่ เออเร่อ
ปัทมา อาศัยอยู่ใน ทาวน์เฮาส์หมู่บ้านแห่งนึงมา 30 ปี ตั้งแต่อายุ 20 เพื่อนบ้าน เก่าๆ ตายไปเยอะ ย้ายไปก็มาก คนที่รุ้จักเธอตอนเด็กๆ แทบเหลือน้อย และ บางคน ก็ไม่ได้ทักทายกัน เพราะต่างคนต่างอยู่
จากเด็กมหาลัย เธอทำงานจนอายุ 50 ปี ทาง ที่ทำงาน มีข้อเสนอ รับไปเลย 2 ล้าน ถ้า เออรี่ และ นี่คือ ข้อเสนอสุดท้ายหลังจากนี้ไม่มีละ นะ สำหรับคนอายุ 50 ที่อยากเออรี่ ปัทมา พอมีตังค์เก็บ จากรายได้เดือนละ 70000 มาหลายปี รวมกับ 2 ล้าน เป็น เธอมีตังค์ พอควร
เอาวะ ปัทมานึก สองล้านไม่ได้หาง่ายๆนะจ๊ะ ปัทมาบอกตัวเอง ทำงานไป อีก 5 ปี ก็ต้องเกษียณเหมือนกัน เพราะ เอกชน ไม่ได้ให้ทำถึง 60 สำหรับที่ทำงานเธอ จึงสรสุปว่า ปัทมา รีไทร์ แม้ร่างกายยังทำได้อีกสบายๆ มากกว่า 60 ก็ตาม
แต่ปัทมา ลืมนึกไปอย่างนึง เธอทำแต่งาน สังคมไม่มี เก็บตึงค์นับแรมปี ตอนนี้ ก็มาอยู่บ้าน ไม่ได้มีแผนอะไร เธอว่า เอาไว้ค่อยนึก และ เธอก็มาเจอ สังคมเพื่อนบ้าน หน้าใหม่ทั้งหลาย ที่เธอไม่ค่อยได้เสวนาด้วย แต่ไหนๆก็ว่างแล้ว เพื่อนบ้าน ก็ มาชวนคุย
ปัทมาคุยได้ สองสามเดือน เธอรู้ทันทีเลยว่า นี่คือ ชาวบ้าน เหมือนในละคร เรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็เอาให้มีเรื่องจนได้ ปากสว่าง เสียงดัง คนไม่ได้พูดอะไร ก็กลายเป็นคนผีดไปได้ และ นีนทา ไฟแล่บ
วันนึง เพื่อนบ้านเธอซ่อมบ้าน ปัทมา ก็รู้เต็มอกว่า มันทำอะไรไม่ได้นะ มันต้องทุบบ้านนั้น มาสะเทือนบ้านนี้ อยู่แล้ว ที่สำคัญ เพื่อนบ้านคนนี้ ไว้ใจไม่ได้ ปัทมากลับจากทำงาน มักเจออะไรที่ ล้ำที่ ไม่ว่าจะกันสาด ต้นไม้ ทำท่อน้ำที้งลงมาหน้าบ้านเธอ แต่ ปัทมาก็ เฉยๆ ยังไม่วายจะโดน
เมื่อเพื่อนบ้านซ่อมบ้าน ปัทมาก็ ทนๆไป เสียงดัง ต่างๆนานา ไม่มีปัญหา เธอคุยกับช่างอย่างดี เพราะเจ้าของบ้านไม่อยู่
แต่เพื่อนบ้านตอนเย็นก็จะมายืนดู ข้างบ้านเธอ และเธอออกไปที้งขยะ เจอ สามเพื่อนบ้าน อาวุโส ไม่โอเค วัย 65 - 70 มา ถามว่า หนวกหูไหม
ปัทมา ก็บอกว่าดังดีค่ะ
จากนั้น เบอร์ 1 วัย 70 ก็พูดว่า โอยเขาไม่ได้ซ่อมมานานแล้ว ต้องซ่อมละนะ ( ปัทมานึกในใจ กูไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย )
จากนั้น เบอร์ 2 วัย 65 พูดลอยๆ แบบเพลง อัสนีย์ " แหม ซ่อม ไม่กี่เดือนไม่ได้ซ่อม ทั้งปีเมื่อไหร่ ": ( ปัทมานึก โห กูว่าอะไรรึยังนะ )
แล้ว เบอร์สาม วัย 70 กลับจากเยอรมัน หลังจากไปหาตังค์จนแก่ตัว แต่อาชีพอะไร ปัทมารู้แต่ไม่พูด ก็แถมต่อว่า " แหม ไม่กี่เดือนแป๊ปๆก็จบแล้ว "
ปัทมา นึกในใจ นี่กุยังไม่ได้พูดบ่นอะไรสักคำเลยนะ อะไรวะนี่ เออรี่ มา เออเร่อ เจอ พวกประชาชนชาวซอย นี้ งงเว้ยเฮ้ย ซวยป่ะล่ะ
ปัทมา ได้แต่ยี้มหน่อยๆ แล้วเข้าบ้านเเลย เพราะรู่ว่า ถ้าพูดในแนว ก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอจะอยู่ยาก เพราะเขา ยัดข้อหาให้เธอแล้ว สามคนนี้ คือ ระดับ เลียเจ้าของบ้านที่ซ่อมมานานมาก ด้วยยืมตังค๋ บ้าง หาเพื่อนบ้าง ( ไม่มีเพื่อน ) และ ไม่มีใครเลย ( ลูกหลานไม่เอา )
ปัทมา มองดู สมุดบัญชี แล้ว ยกหู โทรหาเพื่อน สองสามคน สรุป เธอจะกลับไปทำงานดีกว่า เพราะรู้สึกว่า เธอยังไม่พร้อมจะมา เล่นละคร แถวบ้านแบบนี้
สังคมที่ทำงาน แม้วัย 50 ก็ยังทำได้ เพื่อนๆเต็มใจไม่บอกปัด ปัทมา ให้รีบมาไวๆ ช่วยๆกัน
บางครั้ง สังคมที่เราอยู่มาทั้งชีวีต กับคนมีเหตุ มีผล ต้องถกกันด้วย สาระ หากอยู่ ต้องมาเจอ ปั้นน้ำเป็นตัว มั่วเรื่องแล้ว สนับสนุนกันขึ้นมาแบบ ปัทมาเจอแบบนี้ ทำงานจนไม่ไหวจะดีกว่า ( ปัทมา บอกไว้ )
จบแล้วจ้า