อยากเล่าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตเราหน่อยค่ะ
ตั้งแต่เราเกิดมาและจำความได้ เราก็เห็นความวุ่นวายของบ้านแล้วค่ะ เพราะบ้านของเราไม่ได้มีแค่ครอบครัวของเรา ท้าวความก่อนว่า ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวที่ต้องดูแลคุณย่า (แม่ของพ่อ) ย่ามีลูก 5 คน หญิง 2 ชาย 3 พ่อเราเป็นน้องคนสุดท้อง แต่พ่อเราเพิ่งเสียไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพราะพ่อเราติดเหล้าหนักมากและเสียชีวิตเพราะเหล้า แต่ก่อนหน้านั้นพ่อเราเป็นคนขยัน ทำงานเก่ง ทำงานเมืองนอก จนกระทั่งหาเงินมาสร้างบ้านซื้อรถได้ ซึ่งบ้านที่พูดถึง พ่อเราสร้างใหม่ในที่ดินเดิมที่มันเคยเป็นของปู่กับย่า เพราะว่าพ่อเราเป็นคนดูแลย่า พ่อเราก็เลยได้ที่ดินตรงนี้มาโดยปริยาย ทั้งหมดคือโอนเป็นชื่อพ่อเราหมดแล้วนะคะ เมื่อที่บ้านมีคุณย่าและมันคือที่ดินเก่าของปู่ย่า ลุงป้าคนไหนที่มีปัญหา ก็จะมาอาศัยอยู่ที่นี่ หมายถึงครอบครัวเราก็ต้องใจกว้างดูแลคนเหล่านี้ด้วย ทั้งๆที่จริงแล้ว ย่าแบ่งที่ดินที่นาให้ครบทุกคน ทุกคนได้เท่ากัน มีแค่พ่อเราที่ได้พื้นที่ที่บ้านด้วยเพราะครอบครัวเราต้องดูแลย่า และพ่อเราก็สร้างบ้านหลังใหม่ใหญ่โตได้ และดูแลย่าอย่างดีมาตลอด จนตอนนี้ย่า 85 ปีแล้วค่ะ แล้วเค้าก็ยังแข็งแรงดีทุกอย่าง ไม่มีโรคประจำตัว นอกจากโรคกระดูกที่มันผุพังไปตามกาลเวลา เพราะแม่ของเราที่เป็นสะไภ้ก็ดูแลย่าดีมากอย่างกับแม่ของตัวเองมาตลอด แต่พอถึงเวลานึงพ่อแม่เราก็แยกทางกัน จริงๆพ่อเราก็นิสัยไม่ดีค่ะเพราะพ่อเรามีความเป็นชายแท้มาก แต่เราจะไม่พูดละกันเพราะเค้าเสียไปแล้ว เราจะพูดถึงแค่ปัญหาที่มันกำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
1.เริ่มตั้งแต่ป้าที่เป็นพี่คนโต คนนี้เค้าไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพราะบ้านเค้าก็มีกินมีใช้ แต่ว่าเค้าก็จะเป็นคนที่ค่อนข้างที่จะขี้เหนียวมาก เอาตรงๆก็คือ เค้าเป็นคนที่พูดจาดี ดูใจเย็นเพราะเป็นพี่คนโต แต่ในความเป็นจริง เค้าก็ไม่สามารถช่วยเหลือใครได้เลย ตัวอย่างเช่น ถ้าพี่น้องไปยืมเงินเค้าก็จะไม่ให้อย่างเดียวค่ะ นอกจากพ่อเราที่มีเครดิตมากสุด ถ้ามีคนจะยืมเงินเค้าแล้วพ่อเราเอาตัวเองไปประกัน เค้าก็จะยอมให้ยืมค่ะ
2.ป้าคนรอง คนนี้ตอนแรกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ แต่ว่าในส่วนของที่นาที่ได้มรดก เค้าขายให้พ่อเรา เพราะจะเอาเงินไปสร้างบ้าน แล้วพอสามีเค้าติดผู้หญิง ติดยา ติดการพนัน ทำให้เอาบ้านไปจำนองและโดนยึด ก็กลายเป็นคนไม่มีบ้าน ก็เทียวไปเทียวมา ทะเลาะกับผัวใหม่ก็มานอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บ้านเรา เป็นคนที่ขี้เกียจ แต่ป้าคนนี้มีลูกนะคะ ลูกก็มีบ้านอยู่ต่างจังหวัดเพราะไปทำงานสร้างครอบครัวอยู่ที่นู่นกัน จนสุดท้ายเค้าก็ต้องไปเลี้ยงหลาน ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้อยากไปหรอก ลูกเค้าเองก็ยังไม่ชอบนิสัยเค้าในหลายๆอย่าง เพราะเค้าเป็นคนเลื่อนลอย ไม่มีความรับผิดชอบ
3.ลุงคนกลาง ตอนนี้เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่ลุงคนนี้ขี้เมาค่ะ และอยู่กับครอบครัวเรามาตั้งแต่แรกเลย คนนี้ขายที่นาที่เป็นมรดกให้กับป้าคนโต เพราะจริงๆพ่อเราจะซื้อไว้หมด แต่ป้าคนโตขอซื้อต่อจากพ่อเรา พ่อเราก็เลยโอเค แล้วลุงขี้เมาก็มาอยู่กับครอบครัวเราเป็นสิบๆปี และกินอยู่กับครอบครัวเรา ก็เท่ากับว่าครอบครัวเราต้องรับผิดชอบเค้าด้วย ก่อนที่เค้าจะเสียชีวิตเพราะเหล้าเหมือนกัน ตอนเสียชีวิตพ่อเราก็ทำประกันไว้ให้ด้วยถึงได้มีเงินจัดงานศพใหญ่โต มากกว่า 200,000 บาท
4.ลุงคนที่ 4 คนนี้เราเกลียดสุดและเป็นปัญหากับเรามาจนถึงวันนี้ คนนี้ก็ขายที่นาที่เป็นมรดกให้กับพ่อเราเพื่อไปแต่งเมียค่ะ เป็นคนนิสัยไม่ดี ปากเสีย อีโก้สูง ทั้งๆที่ตัวเองอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ เคยมีครอบครัวและมีลูก สุดท้ายเมียก็ทิ้ง ไม่มีบ้านก็มาอาศัยอยู่กับบ้านเราตามเคย แต่เป็นคนที่อยากจะได้สมบัติของเรามากที่สุด พ่อเราซัพพอร์ตมาก เพราะเค้ารักพี่ชายเค้ามาก เคยลงทุนเอาโปร์ไฟล์ตัวเองไปสร้างเป็นโปร์ไฟล์พี่ชายเพื่อช่วยให้เค้าได้ไปทำงานต่างประเทศ เพราะพ่อเราก็รู้จักกับนายหน้าที่ส่งคนไปทำงานต่างประเทศ มันก็เลยง่าย ถ้าไม่มีเงินไปเมืองนอกพ่อเราก็ให้ยืมมาตลอด แต่ก็ไม่เคยคืน แต่ถ้ายืมคนอื่นไปกลับจ่ายเค้าจบภายในเดือนเดียว จนทุกวันนี้พ่อเราเสียไปแล้วก็ยังไม่ได้เงินที่เค้ายืมไปเลยค่ะ จนล่าสุดก็ให้ยืมไปอีก 200,000 พ่อเราเอาที่ดินทั้งบ้านและที่นาไปจำนองที่ธกสเพื่อให้เค้ายืมเงินไปเมืองนอก เรานี่อึ้งมาก เมื่อเอาที่ดินไปจำนองพ่อเราก็ต้องประกันชีวิตโดยปริยาย เมื่อเค้าเสียชีวิต เราก็ใช้หนี้ทุกอย่าง หักจากเงินประกันไปเกือบหมด แล้วเราก็ต้องมาไล่บี้เอาเงินที่ยืมไปกับลุงที่ 4 แทน พ่อเราก็เกือบจะให้ที่ดินบางส่วนเค้าไปแล้วด้วยซ้ำเพราะเค้าไม่มีที่อยู่ แต่พ่อเราเสียก่อนแล้วก็สร้างบ้านไม่เสร็จ เพราะทะเลาะกับพ่อเราก่อน เพราะความอีโก้สูงของเค้านั่นแหละ จริงๆพ่อเราเองก็เป็นคนที่จู้จี้จุกจิกประมาณนึง เค้าทะเลาะกันบ่อย แต่พี่ชายจะไปขออาศัยคนอื่นเค้าอยู่เราคิดว่าก็ต้องถ่อมตนกว่านี้ เพราะพ่อเราช่วยเหลือเค้ามาตลอด แต่เค้าก็ไม่เคยสำนึกอะไรนะคะ เค้าขี้เบ่ง ขี้อวด ชอบปากเสียใส่คนอื่น เคยทะเลาะกับเราหลายครั้ง เพราะช่วงไหนที่ไม่มีที่ไป ไม่มีงานทำ เค้าก็จะมาอาศัยอยู่บ้านเรา กินฟรี อยู่ฟรี ไม่เคยช่วยค่าอะไรทั้งนั้น
แน่นอนค่ะ พอพ่อเราเสีย ทรัพย์สินทุกอย่างมันก็จะต้องเป็นของทายาทตามกฎหมาย ซึ่งเราเรียนปริญญาตรีจบคณะนิติศาสตร์มา เราก็พอจะรู้ว่าใครที่มีสิทธิ์ที่จะได้รับมรดกบ้าง เราเป็นลูกคนเดียว หลังจากที่พ่อเลิกกับแม่เรา พ่อก็ไม่ได้จดทะเบียนกับคนอื่น แต่มีเมียบ้างตามประสาเค้า ซึ่งเราก็ไม่เคยไปยุ่ง ทายาทตามกฎหมายก็จะมีแค่เราและย่าที่มีสิทธิ์ได้รับมรดก ซึ่งครอบครัวเราดูแลย่ามาตลอด พ่อส่งเงินให้ใช้ สร้างบ้านใหญ่โต ย่าไปหาหมอบ่อยตามประสาคนแก่ ทั้งหมดคือพ่อเรารับผิดชอบมาตลอด แม่เราก็ดูแลย่ามาอย่าง แม้กระทั่งตัดเล็บเท้า อาบน้ำให้ ครอบครัวเรารับผิดชอบมาจนเกือบจะ 30 ปี แล้วพอปีนี้พ่อเราเสีย แม่เราก็กลับมาอยู่กับเราค่ะ เพราะเราสนิทกับแม่มาก และแม่ไม่ได้ต้องการจะมาหลอกล่อเอาทรัพย์สมบัติอะไรเรา ถึงเค้ามีแฟนใหม่เค้าก็เลือกเราก่อนเสมอ และที่เค้าต้องไปโดยไม่ได้แบ่งสินสมรสสักบาทก็เพราะเราเป็นคนบอกให้เค้าไปเอง เพราะตอนนั้นเราอยู่ประมาณ ม.4 แล้วเราตัดสินใจบอกให้พ่อกับแม่เลิกกันเอง เราไม่อยากเห็นแม่โดนพ่อกดขี่ข่มเหงทำร้ายร่างกายอีกต่อไปแล้ว แล้วพ่อเรามีฐานะมีบ้านให้อยู่ เราก็เลยต้องอยู่กับพ่อ
ก็นั่นแหละค่ะ เรารู้ว่าทรัพย์สินมันควรจะแบ่งเป็นสองส่วน ซึ่งเรากับย่าจะได้คนละครึ่ง เราไม่ได้อะไรถ้าจะแบ่งให้ย่าด้วย แต่ถ้าเป็นคนแก่ที่อายุ 85 แล้ว เค้าจะอยากได้สิ่งเหล่านี้ไปทำไมล่ะคะ ใช่ไหม? ย่าที่เราดูแลมาตลอด แม้กระทั่งเช็ดอุจจระ ปัสสวะ พาไปหาหมอเป็นหมื่นๆรอบ เสียทั้งสุขภาพจิตและเงินเลี้ยงดูมากมาย ตอนเราเรียนมหาลัยเราก็ต้องกลับบ้านประจำเพราะต้องคอยมาอยู่ดูแลเค้าแทนพ่อที่ไปทำงานต่างประเทศ เพราะลูกคนอื่นๆ หลานคนอื่นๆเค้าไปใช้ชีวิตกันหมด ไม่มีใครมาดูแลเลยสักคน ซึ่งเราก็ต้องรับหน้าที่นี้ทั้งหมด แต่พอตอนที่พ่อเราเสียเค้ากลับอยากที่จะได้ที่ดินเพื่อเอาไปให้ลูกเค้าคนอื่น ซึ่งก็คือ ไอ้ลุงคนที่ 4 นั่นแหละ เพราะย่าเราดูจะรักลูกคนนี้มากที่สุด แม้กระทั่งตอนที่พ่อเราอยู่เค้าก็อยากที่จะให้พ่อโอนที่ดินคือให้เค้าเพื่อที่จะเอาไปให้ลุงคนที่ 4 เราเองก็เพิ่งเข้าใจพ่อในวันที่เจอกับตัวเอง ว่าพ่อเราเสียใจและเป็นหนึ่งในสาเหตุที่พ่อเรากินเหล้าประชดชีวิต แต่ก็นั่นแหละค่ะ ย่าเค้าก็จะยังคงอยู่กับเรานะคะ เพราะลูกคนอื่นๆก็ยังไม่มีบ้าน แต่เรามีบ้านที่เป็นมรดกของพ่อนั่นแหละ ลูกย่าคนอื่นๆแม้จะแก่ 50-60 กันแล้วก็ตามก็ยังเลื่อยลอยกันอยู่ มีแค่ป้าที่เป็นพี่คนโตที่มั่นคง แต่เค้าก็ไม่ให้แม่ไปอยู่ด้วยหรอกนะคะ เพราะเค้าก็มีครอบครัวของเค้า ครอบครัวของเค้าก็วุ่นวายในแบบของเค้า แต่เค้าก็เดินมาดูแม่อยู่บ่อยๆค่ะ มาดูพอเป็นพิธี เพราะเค้าหน้าบาง ไม่อยากให้คนอื่นมองไม่ดี ส่วนเราก็ต้องหุงหาอาหารให้ย่าที่ไม่รักดีต่อไป แต่ที่น่าโมโหเค้าก็ยังอยากที่จะเอาทรัพย์สินของพ่อเราเอาไปให้ลูกคนอื่นๆที่เคยขายสมบัติของเค้ากินด้วยซ้ำ และคนเหล่านั้นก็ไม่เคยมาดูดำดูดีเค้าเลย เอาตรงๆเค้าก็ไม่รู้กฎหมายหรอกค่ะ แต่เราคิดว่ามันไม่แฟร์กับครอบครัวของเรามากๆ พวกลุงพวกป้าก็พากันอยากได้ ไฟความโลภมันลุกจนจะทะลุออกมาจากแววตา เค้าอยากจะแบ่งเอาทรัพย์สินทุกอย่างของเรา แม้กระทั่งรถหรืออื่นๆ ทุกวันนี้เราก็ยังคงทะเลาะกับย่ามาตลอด เราเองก็แค่อยากจะดูแลเค้าให้ดีจนวันสุดท้ายของเค้า ถึงแม้ว่าเค้าจะทำแบบนี้กับเราและครอบครัว แต่เราก็รู้สึกว่าเราทิ้งเค้าไม่ได้ เพราะเค้าก็อายุ 85 แล้ว เราเป็นที่ขี้สงสารมากค่ะ ต่อให้ไม่ใช่ย่าเรา เราเห็นคนแก่ที่น่าสงสารเราก็รู้สึกเศร้าแล้วค่ะ ถ้าสมมุติเราทิ้งเค้าไปจริงๆ ก็ไม่มีใครมาดูแลเค้าหรอกค่ะ ก็เหมือนปล่อยให้เค้าแห้งเหี่ยวและ die ไปในที่สุด ตอนเราเรียนมหาลัยเราต้องกลับบ้านทุกวัน กลับค่ำหน่อยก็ไม่มีคนมาเปิดไฟให้เค้าค่ะ ลูกก็อยู่ใกล้ๆกันเองแต่ก็ไม่มีใครมาดูแลเลย
ทุกวันนี้ที่เป็นปัญหาเพราะลุงคนที่ 4 อยากได้ที่ดินไปปลูกบ้าน สิ่งที่เค้าก่อสร้างเอาไว้ที่นาของเราที่พ่อเราเคยบอกว่าจะให้เค้าแต่ตอนนี้มันตกมาถึงเรา แล้วเราไม่ให้ เพราะเค้าไม่ได้โอนอะไรให้กันอยู่แล้ว มันเป็นสิทธิ์ของเรา แต่เค้าก็ไปป่าวประกาศ โกรธ และมองว่าเราไปแย่งที่เค้า ทั้งๆที่เค้าไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย แล้วเค้าก็เป็นหนี้เราอยู่ด้วย พ่อเราเคยซื้อดินไว้แปลงนึง ซึ่งไม่เกี่ยวกับมรดกของปู่ย่า เค้าซื้อเก็บไว้ให้เราตอนแต่งงานกับแม่ แต่ในตอนนั้น ลุงคนนี้มันก็วนเวียนอยากที่จะไปสร้างบ้านอยู่ที่นั่นเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเราด่าเปิงและไม่ให้สร้างค่ะ เค้าก็ไม่ได้สร้าง ส่วนพ่อก็เก่งแต่กับเมียและลูก ส่วนญาติพี่เค้าน้องเค้าก็ไม่ค่อยกล้าปฏิเสธอะไร ยอมให้พี่น้องเอาเปรียบมาตลอด และตอนนี้ลุงคนที่ 4 ก็ยังอยากที่ไปสร้างบ้านอยู่ในที่ของเรา โดยที่มีย่าและญาติพี่น้องของเค้าซัพพอร์ตเต็มที่ เพราะลึกๆก็พากันอิจฉาหาว่าเราได้มรดกเยอะ ทั้งเงินประกงประกันอีก
คือเอาจริงๆเราก็ไม่แคร์สายตาชาวโลกเท่าไหร่หรอกนะคะ ชาวบ้านก็มีทั้งคนที่เข้าใจและคนที่อิจฉาก็มี ส่วนตัวเราก็เป็นคนที่ข้างเก็บตัว เพราะเป็นลูกคนเดียว ไม่ได้ไปสุงสิงหรือไปอะไรกับใครพิเศษ ไม่เคยไปยืมเงินหรือขอความช่วยเหลือจากใคร มีแค่พ่อกับแม่ที่ซัพพอร์ตเรามาตลอด แต่เราก็แค่รู้สึกว่าระบาย และอยากได้ความจากเพื่อนๆว่าคิดเห็นกันยังไง และจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี
ญาติพี่น้องอยากได้มรดกของเรา
ตั้งแต่เราเกิดมาและจำความได้ เราก็เห็นความวุ่นวายของบ้านแล้วค่ะ เพราะบ้านของเราไม่ได้มีแค่ครอบครัวของเรา ท้าวความก่อนว่า ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวที่ต้องดูแลคุณย่า (แม่ของพ่อ) ย่ามีลูก 5 คน หญิง 2 ชาย 3 พ่อเราเป็นน้องคนสุดท้อง แต่พ่อเราเพิ่งเสียไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพราะพ่อเราติดเหล้าหนักมากและเสียชีวิตเพราะเหล้า แต่ก่อนหน้านั้นพ่อเราเป็นคนขยัน ทำงานเก่ง ทำงานเมืองนอก จนกระทั่งหาเงินมาสร้างบ้านซื้อรถได้ ซึ่งบ้านที่พูดถึง พ่อเราสร้างใหม่ในที่ดินเดิมที่มันเคยเป็นของปู่กับย่า เพราะว่าพ่อเราเป็นคนดูแลย่า พ่อเราก็เลยได้ที่ดินตรงนี้มาโดยปริยาย ทั้งหมดคือโอนเป็นชื่อพ่อเราหมดแล้วนะคะ เมื่อที่บ้านมีคุณย่าและมันคือที่ดินเก่าของปู่ย่า ลุงป้าคนไหนที่มีปัญหา ก็จะมาอาศัยอยู่ที่นี่ หมายถึงครอบครัวเราก็ต้องใจกว้างดูแลคนเหล่านี้ด้วย ทั้งๆที่จริงแล้ว ย่าแบ่งที่ดินที่นาให้ครบทุกคน ทุกคนได้เท่ากัน มีแค่พ่อเราที่ได้พื้นที่ที่บ้านด้วยเพราะครอบครัวเราต้องดูแลย่า และพ่อเราก็สร้างบ้านหลังใหม่ใหญ่โตได้ และดูแลย่าอย่างดีมาตลอด จนตอนนี้ย่า 85 ปีแล้วค่ะ แล้วเค้าก็ยังแข็งแรงดีทุกอย่าง ไม่มีโรคประจำตัว นอกจากโรคกระดูกที่มันผุพังไปตามกาลเวลา เพราะแม่ของเราที่เป็นสะไภ้ก็ดูแลย่าดีมากอย่างกับแม่ของตัวเองมาตลอด แต่พอถึงเวลานึงพ่อแม่เราก็แยกทางกัน จริงๆพ่อเราก็นิสัยไม่ดีค่ะเพราะพ่อเรามีความเป็นชายแท้มาก แต่เราจะไม่พูดละกันเพราะเค้าเสียไปแล้ว เราจะพูดถึงแค่ปัญหาที่มันกำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
1.เริ่มตั้งแต่ป้าที่เป็นพี่คนโต คนนี้เค้าไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพราะบ้านเค้าก็มีกินมีใช้ แต่ว่าเค้าก็จะเป็นคนที่ค่อนข้างที่จะขี้เหนียวมาก เอาตรงๆก็คือ เค้าเป็นคนที่พูดจาดี ดูใจเย็นเพราะเป็นพี่คนโต แต่ในความเป็นจริง เค้าก็ไม่สามารถช่วยเหลือใครได้เลย ตัวอย่างเช่น ถ้าพี่น้องไปยืมเงินเค้าก็จะไม่ให้อย่างเดียวค่ะ นอกจากพ่อเราที่มีเครดิตมากสุด ถ้ามีคนจะยืมเงินเค้าแล้วพ่อเราเอาตัวเองไปประกัน เค้าก็จะยอมให้ยืมค่ะ
2.ป้าคนรอง คนนี้ตอนแรกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ แต่ว่าในส่วนของที่นาที่ได้มรดก เค้าขายให้พ่อเรา เพราะจะเอาเงินไปสร้างบ้าน แล้วพอสามีเค้าติดผู้หญิง ติดยา ติดการพนัน ทำให้เอาบ้านไปจำนองและโดนยึด ก็กลายเป็นคนไม่มีบ้าน ก็เทียวไปเทียวมา ทะเลาะกับผัวใหม่ก็มานอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บ้านเรา เป็นคนที่ขี้เกียจ แต่ป้าคนนี้มีลูกนะคะ ลูกก็มีบ้านอยู่ต่างจังหวัดเพราะไปทำงานสร้างครอบครัวอยู่ที่นู่นกัน จนสุดท้ายเค้าก็ต้องไปเลี้ยงหลาน ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้อยากไปหรอก ลูกเค้าเองก็ยังไม่ชอบนิสัยเค้าในหลายๆอย่าง เพราะเค้าเป็นคนเลื่อนลอย ไม่มีความรับผิดชอบ
3.ลุงคนกลาง ตอนนี้เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่ลุงคนนี้ขี้เมาค่ะ และอยู่กับครอบครัวเรามาตั้งแต่แรกเลย คนนี้ขายที่นาที่เป็นมรดกให้กับป้าคนโต เพราะจริงๆพ่อเราจะซื้อไว้หมด แต่ป้าคนโตขอซื้อต่อจากพ่อเรา พ่อเราก็เลยโอเค แล้วลุงขี้เมาก็มาอยู่กับครอบครัวเราเป็นสิบๆปี และกินอยู่กับครอบครัวเรา ก็เท่ากับว่าครอบครัวเราต้องรับผิดชอบเค้าด้วย ก่อนที่เค้าจะเสียชีวิตเพราะเหล้าเหมือนกัน ตอนเสียชีวิตพ่อเราก็ทำประกันไว้ให้ด้วยถึงได้มีเงินจัดงานศพใหญ่โต มากกว่า 200,000 บาท
4.ลุงคนที่ 4 คนนี้เราเกลียดสุดและเป็นปัญหากับเรามาจนถึงวันนี้ คนนี้ก็ขายที่นาที่เป็นมรดกให้กับพ่อเราเพื่อไปแต่งเมียค่ะ เป็นคนนิสัยไม่ดี ปากเสีย อีโก้สูง ทั้งๆที่ตัวเองอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ เคยมีครอบครัวและมีลูก สุดท้ายเมียก็ทิ้ง ไม่มีบ้านก็มาอาศัยอยู่กับบ้านเราตามเคย แต่เป็นคนที่อยากจะได้สมบัติของเรามากที่สุด พ่อเราซัพพอร์ตมาก เพราะเค้ารักพี่ชายเค้ามาก เคยลงทุนเอาโปร์ไฟล์ตัวเองไปสร้างเป็นโปร์ไฟล์พี่ชายเพื่อช่วยให้เค้าได้ไปทำงานต่างประเทศ เพราะพ่อเราก็รู้จักกับนายหน้าที่ส่งคนไปทำงานต่างประเทศ มันก็เลยง่าย ถ้าไม่มีเงินไปเมืองนอกพ่อเราก็ให้ยืมมาตลอด แต่ก็ไม่เคยคืน แต่ถ้ายืมคนอื่นไปกลับจ่ายเค้าจบภายในเดือนเดียว จนทุกวันนี้พ่อเราเสียไปแล้วก็ยังไม่ได้เงินที่เค้ายืมไปเลยค่ะ จนล่าสุดก็ให้ยืมไปอีก 200,000 พ่อเราเอาที่ดินทั้งบ้านและที่นาไปจำนองที่ธกสเพื่อให้เค้ายืมเงินไปเมืองนอก เรานี่อึ้งมาก เมื่อเอาที่ดินไปจำนองพ่อเราก็ต้องประกันชีวิตโดยปริยาย เมื่อเค้าเสียชีวิต เราก็ใช้หนี้ทุกอย่าง หักจากเงินประกันไปเกือบหมด แล้วเราก็ต้องมาไล่บี้เอาเงินที่ยืมไปกับลุงที่ 4 แทน พ่อเราก็เกือบจะให้ที่ดินบางส่วนเค้าไปแล้วด้วยซ้ำเพราะเค้าไม่มีที่อยู่ แต่พ่อเราเสียก่อนแล้วก็สร้างบ้านไม่เสร็จ เพราะทะเลาะกับพ่อเราก่อน เพราะความอีโก้สูงของเค้านั่นแหละ จริงๆพ่อเราเองก็เป็นคนที่จู้จี้จุกจิกประมาณนึง เค้าทะเลาะกันบ่อย แต่พี่ชายจะไปขออาศัยคนอื่นเค้าอยู่เราคิดว่าก็ต้องถ่อมตนกว่านี้ เพราะพ่อเราช่วยเหลือเค้ามาตลอด แต่เค้าก็ไม่เคยสำนึกอะไรนะคะ เค้าขี้เบ่ง ขี้อวด ชอบปากเสียใส่คนอื่น เคยทะเลาะกับเราหลายครั้ง เพราะช่วงไหนที่ไม่มีที่ไป ไม่มีงานทำ เค้าก็จะมาอาศัยอยู่บ้านเรา กินฟรี อยู่ฟรี ไม่เคยช่วยค่าอะไรทั้งนั้น
แน่นอนค่ะ พอพ่อเราเสีย ทรัพย์สินทุกอย่างมันก็จะต้องเป็นของทายาทตามกฎหมาย ซึ่งเราเรียนปริญญาตรีจบคณะนิติศาสตร์มา เราก็พอจะรู้ว่าใครที่มีสิทธิ์ที่จะได้รับมรดกบ้าง เราเป็นลูกคนเดียว หลังจากที่พ่อเลิกกับแม่เรา พ่อก็ไม่ได้จดทะเบียนกับคนอื่น แต่มีเมียบ้างตามประสาเค้า ซึ่งเราก็ไม่เคยไปยุ่ง ทายาทตามกฎหมายก็จะมีแค่เราและย่าที่มีสิทธิ์ได้รับมรดก ซึ่งครอบครัวเราดูแลย่ามาตลอด พ่อส่งเงินให้ใช้ สร้างบ้านใหญ่โต ย่าไปหาหมอบ่อยตามประสาคนแก่ ทั้งหมดคือพ่อเรารับผิดชอบมาตลอด แม่เราก็ดูแลย่ามาอย่าง แม้กระทั่งตัดเล็บเท้า อาบน้ำให้ ครอบครัวเรารับผิดชอบมาจนเกือบจะ 30 ปี แล้วพอปีนี้พ่อเราเสีย แม่เราก็กลับมาอยู่กับเราค่ะ เพราะเราสนิทกับแม่มาก และแม่ไม่ได้ต้องการจะมาหลอกล่อเอาทรัพย์สมบัติอะไรเรา ถึงเค้ามีแฟนใหม่เค้าก็เลือกเราก่อนเสมอ และที่เค้าต้องไปโดยไม่ได้แบ่งสินสมรสสักบาทก็เพราะเราเป็นคนบอกให้เค้าไปเอง เพราะตอนนั้นเราอยู่ประมาณ ม.4 แล้วเราตัดสินใจบอกให้พ่อกับแม่เลิกกันเอง เราไม่อยากเห็นแม่โดนพ่อกดขี่ข่มเหงทำร้ายร่างกายอีกต่อไปแล้ว แล้วพ่อเรามีฐานะมีบ้านให้อยู่ เราก็เลยต้องอยู่กับพ่อ
ก็นั่นแหละค่ะ เรารู้ว่าทรัพย์สินมันควรจะแบ่งเป็นสองส่วน ซึ่งเรากับย่าจะได้คนละครึ่ง เราไม่ได้อะไรถ้าจะแบ่งให้ย่าด้วย แต่ถ้าเป็นคนแก่ที่อายุ 85 แล้ว เค้าจะอยากได้สิ่งเหล่านี้ไปทำไมล่ะคะ ใช่ไหม? ย่าที่เราดูแลมาตลอด แม้กระทั่งเช็ดอุจจระ ปัสสวะ พาไปหาหมอเป็นหมื่นๆรอบ เสียทั้งสุขภาพจิตและเงินเลี้ยงดูมากมาย ตอนเราเรียนมหาลัยเราก็ต้องกลับบ้านประจำเพราะต้องคอยมาอยู่ดูแลเค้าแทนพ่อที่ไปทำงานต่างประเทศ เพราะลูกคนอื่นๆ หลานคนอื่นๆเค้าไปใช้ชีวิตกันหมด ไม่มีใครมาดูแลเลยสักคน ซึ่งเราก็ต้องรับหน้าที่นี้ทั้งหมด แต่พอตอนที่พ่อเราเสียเค้ากลับอยากที่จะได้ที่ดินเพื่อเอาไปให้ลูกเค้าคนอื่น ซึ่งก็คือ ไอ้ลุงคนที่ 4 นั่นแหละ เพราะย่าเราดูจะรักลูกคนนี้มากที่สุด แม้กระทั่งตอนที่พ่อเราอยู่เค้าก็อยากที่จะให้พ่อโอนที่ดินคือให้เค้าเพื่อที่จะเอาไปให้ลุงคนที่ 4 เราเองก็เพิ่งเข้าใจพ่อในวันที่เจอกับตัวเอง ว่าพ่อเราเสียใจและเป็นหนึ่งในสาเหตุที่พ่อเรากินเหล้าประชดชีวิต แต่ก็นั่นแหละค่ะ ย่าเค้าก็จะยังคงอยู่กับเรานะคะ เพราะลูกคนอื่นๆก็ยังไม่มีบ้าน แต่เรามีบ้านที่เป็นมรดกของพ่อนั่นแหละ ลูกย่าคนอื่นๆแม้จะแก่ 50-60 กันแล้วก็ตามก็ยังเลื่อยลอยกันอยู่ มีแค่ป้าที่เป็นพี่คนโตที่มั่นคง แต่เค้าก็ไม่ให้แม่ไปอยู่ด้วยหรอกนะคะ เพราะเค้าก็มีครอบครัวของเค้า ครอบครัวของเค้าก็วุ่นวายในแบบของเค้า แต่เค้าก็เดินมาดูแม่อยู่บ่อยๆค่ะ มาดูพอเป็นพิธี เพราะเค้าหน้าบาง ไม่อยากให้คนอื่นมองไม่ดี ส่วนเราก็ต้องหุงหาอาหารให้ย่าที่ไม่รักดีต่อไป แต่ที่น่าโมโหเค้าก็ยังอยากที่จะเอาทรัพย์สินของพ่อเราเอาไปให้ลูกคนอื่นๆที่เคยขายสมบัติของเค้ากินด้วยซ้ำ และคนเหล่านั้นก็ไม่เคยมาดูดำดูดีเค้าเลย เอาตรงๆเค้าก็ไม่รู้กฎหมายหรอกค่ะ แต่เราคิดว่ามันไม่แฟร์กับครอบครัวของเรามากๆ พวกลุงพวกป้าก็พากันอยากได้ ไฟความโลภมันลุกจนจะทะลุออกมาจากแววตา เค้าอยากจะแบ่งเอาทรัพย์สินทุกอย่างของเรา แม้กระทั่งรถหรืออื่นๆ ทุกวันนี้เราก็ยังคงทะเลาะกับย่ามาตลอด เราเองก็แค่อยากจะดูแลเค้าให้ดีจนวันสุดท้ายของเค้า ถึงแม้ว่าเค้าจะทำแบบนี้กับเราและครอบครัว แต่เราก็รู้สึกว่าเราทิ้งเค้าไม่ได้ เพราะเค้าก็อายุ 85 แล้ว เราเป็นที่ขี้สงสารมากค่ะ ต่อให้ไม่ใช่ย่าเรา เราเห็นคนแก่ที่น่าสงสารเราก็รู้สึกเศร้าแล้วค่ะ ถ้าสมมุติเราทิ้งเค้าไปจริงๆ ก็ไม่มีใครมาดูแลเค้าหรอกค่ะ ก็เหมือนปล่อยให้เค้าแห้งเหี่ยวและ die ไปในที่สุด ตอนเราเรียนมหาลัยเราต้องกลับบ้านทุกวัน กลับค่ำหน่อยก็ไม่มีคนมาเปิดไฟให้เค้าค่ะ ลูกก็อยู่ใกล้ๆกันเองแต่ก็ไม่มีใครมาดูแลเลย
ทุกวันนี้ที่เป็นปัญหาเพราะลุงคนที่ 4 อยากได้ที่ดินไปปลูกบ้าน สิ่งที่เค้าก่อสร้างเอาไว้ที่นาของเราที่พ่อเราเคยบอกว่าจะให้เค้าแต่ตอนนี้มันตกมาถึงเรา แล้วเราไม่ให้ เพราะเค้าไม่ได้โอนอะไรให้กันอยู่แล้ว มันเป็นสิทธิ์ของเรา แต่เค้าก็ไปป่าวประกาศ โกรธ และมองว่าเราไปแย่งที่เค้า ทั้งๆที่เค้าไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย แล้วเค้าก็เป็นหนี้เราอยู่ด้วย พ่อเราเคยซื้อดินไว้แปลงนึง ซึ่งไม่เกี่ยวกับมรดกของปู่ย่า เค้าซื้อเก็บไว้ให้เราตอนแต่งงานกับแม่ แต่ในตอนนั้น ลุงคนนี้มันก็วนเวียนอยากที่จะไปสร้างบ้านอยู่ที่นั่นเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเราด่าเปิงและไม่ให้สร้างค่ะ เค้าก็ไม่ได้สร้าง ส่วนพ่อก็เก่งแต่กับเมียและลูก ส่วนญาติพี่เค้าน้องเค้าก็ไม่ค่อยกล้าปฏิเสธอะไร ยอมให้พี่น้องเอาเปรียบมาตลอด และตอนนี้ลุงคนที่ 4 ก็ยังอยากที่ไปสร้างบ้านอยู่ในที่ของเรา โดยที่มีย่าและญาติพี่น้องของเค้าซัพพอร์ตเต็มที่ เพราะลึกๆก็พากันอิจฉาหาว่าเราได้มรดกเยอะ ทั้งเงินประกงประกันอีก
คือเอาจริงๆเราก็ไม่แคร์สายตาชาวโลกเท่าไหร่หรอกนะคะ ชาวบ้านก็มีทั้งคนที่เข้าใจและคนที่อิจฉาก็มี ส่วนตัวเราก็เป็นคนที่ข้างเก็บตัว เพราะเป็นลูกคนเดียว ไม่ได้ไปสุงสิงหรือไปอะไรกับใครพิเศษ ไม่เคยไปยืมเงินหรือขอความช่วยเหลือจากใคร มีแค่พ่อกับแม่ที่ซัพพอร์ตเรามาตลอด แต่เราก็แค่รู้สึกว่าระบาย และอยากได้ความจากเพื่อนๆว่าคิดเห็นกันยังไง และจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี