ติดใจละซิ CEO ฟอร์ด ขับรถไฟฟ้า Xiaomi จนไม่อยากเลิกขับ
จิม ฟาร์ลีย์ ซีอีโอ Ford แบรนด์รถยนต์สัญชาติอเมริกันกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาได้ขับรถยนต์ไฟฟ้าของ Xiaomi ซึ่งสั่งตรงมาจากเซี่ยงไฮ้มาเป็นเวลา 6 เดือนแล้วและไม่มีความประสงค์ที่จะเลิกขับ
“มันยอดเยี่ยมมาก พวกเขาขายได้ 10,000-20,000 คันต่อเดือน และขายหมดภายใน 6 เดือน” ฟาร์ลีย์ กล่าวถึงรถไฟฟ้า Xiaomi Speed Ultra 7 (SU7) ในการสนทนาบน The Fully Charged Podcast ตามรายงานของ Business Insider
ฟาร์ลีย์ ยังได้กล่าวชื่นชม Xiaomi ว่าเป็น “ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม และเป็นแบรนด์ผู้บริโภคที่แข็งแกร่งกว่าบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อย่างมาก”
รายงานล่าสุดของ WSJ ระบุว่า ซีอีโอของแบรนด์รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาได้เดินทางไปจีนเพื่อทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้าของจีนในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งประสบการณ์ของเขาทำให้เขามองผู้ผลิตรถยนต์จีนเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของบริษัท
รายงานของ WSJ ระบุว่า ฟาร์ลีย์ ได้ส่งรถ EV ของจีนบางรุ่น ซึ่งรวมถึง Xiaomi SU7 ไปยังมิชิแกน เพื่อให้ผู้บริหารและกรรมการของ Ford ได้ดูและสัมผัส โดยรถอีกคันเป็นมินิแวนไฟฟ้าราคา 77,000 ดอลลาร์ (2.59 ล้านบาท) ของ Li Auto ซึ่งฟาร์ลีย์ Ford กล่าวว่ามันคล้ายกับ “การเดินทางโดยเครื่องบินชั้นธุรกิจหรือโฮมเธียเตอร์”
ฟาร์ลีย์ กล่าวกับ WSJ ว่าประสบการณ์เหล่านี้ทำให้เขาตระหนักว่า “การปฏิบัติตามมาตรฐานของจีนจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” ประสบการณ์เหล่านี้ยังทำให้เขาตัดสินใจยกเลิกแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า SUV ขนาดใหญ่ และหันมาเน้นที่รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กแทน
ความพยายามของ ฟาร์ลีย์ ในการทำความเข้าใจบริษัทคู่แข่งสัญชาติจีน มีเป้าหมายเพื่อให้ตามทันความรู้ความชำนาญของพวกเขา ตามรายงานของ WSJ
จีนเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก และผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศได้เอาชนะคู่แข่งระดับโลกด้วยรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี ปัจจุบัน BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของจีนกำลังแข่งขันกับ Tesla ของ อีลอน มัสก์ เพื่อขึ้นแท่นเป็นแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดในโลก
https://www.facebook.com/share/p/niNqZuKSNmo7bUou/
ติดใจละซิ CEO ฟอร์ด ขับรถไฟฟ้า Xiaomi จนไม่อยากเลิกขับ😁😁😁
จิม ฟาร์ลีย์ ซีอีโอ Ford แบรนด์รถยนต์สัญชาติอเมริกันกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาได้ขับรถยนต์ไฟฟ้าของ Xiaomi ซึ่งสั่งตรงมาจากเซี่ยงไฮ้มาเป็นเวลา 6 เดือนแล้วและไม่มีความประสงค์ที่จะเลิกขับ
“มันยอดเยี่ยมมาก พวกเขาขายได้ 10,000-20,000 คันต่อเดือน และขายหมดภายใน 6 เดือน” ฟาร์ลีย์ กล่าวถึงรถไฟฟ้า Xiaomi Speed Ultra 7 (SU7) ในการสนทนาบน The Fully Charged Podcast ตามรายงานของ Business Insider
ฟาร์ลีย์ ยังได้กล่าวชื่นชม Xiaomi ว่าเป็น “ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม และเป็นแบรนด์ผู้บริโภคที่แข็งแกร่งกว่าบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อย่างมาก”
รายงานล่าสุดของ WSJ ระบุว่า ซีอีโอของแบรนด์รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาได้เดินทางไปจีนเพื่อทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้าของจีนในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งประสบการณ์ของเขาทำให้เขามองผู้ผลิตรถยนต์จีนเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของบริษัท
รายงานของ WSJ ระบุว่า ฟาร์ลีย์ ได้ส่งรถ EV ของจีนบางรุ่น ซึ่งรวมถึง Xiaomi SU7 ไปยังมิชิแกน เพื่อให้ผู้บริหารและกรรมการของ Ford ได้ดูและสัมผัส โดยรถอีกคันเป็นมินิแวนไฟฟ้าราคา 77,000 ดอลลาร์ (2.59 ล้านบาท) ของ Li Auto ซึ่งฟาร์ลีย์ Ford กล่าวว่ามันคล้ายกับ “การเดินทางโดยเครื่องบินชั้นธุรกิจหรือโฮมเธียเตอร์”
ฟาร์ลีย์ กล่าวกับ WSJ ว่าประสบการณ์เหล่านี้ทำให้เขาตระหนักว่า “การปฏิบัติตามมาตรฐานของจีนจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” ประสบการณ์เหล่านี้ยังทำให้เขาตัดสินใจยกเลิกแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า SUV ขนาดใหญ่ และหันมาเน้นที่รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กแทน
ความพยายามของ ฟาร์ลีย์ ในการทำความเข้าใจบริษัทคู่แข่งสัญชาติจีน มีเป้าหมายเพื่อให้ตามทันความรู้ความชำนาญของพวกเขา ตามรายงานของ WSJ
จีนเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก และผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศได้เอาชนะคู่แข่งระดับโลกด้วยรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี ปัจจุบัน BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของจีนกำลังแข่งขันกับ Tesla ของ อีลอน มัสก์ เพื่อขึ้นแท่นเป็นแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดในโลก
https://www.facebook.com/share/p/niNqZuKSNmo7bUou/