JJNY : สภาถกญัตติด่วนคดีตากใบ│สส.ปชน.ลั่นวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดต้องยุติ│อุตุฯใต้แจ้งฝนหนัก│‘ปูติน’ร้อง‘บริสก์’‘กูตูเรส’ตอก

สภาถกญัตติด่วนคดีตากใบ ‘กมลศักดิ์’ จี้แก้ม.95 คดีจนท.รัฐทำร้ายปชช.เสียชีวิต ไม่มีอายุความ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4864484
 
 
สภาถกญัตติด่วน ‘ผลกระทบคดีตากใบหมดอายุความ’ หลัง ‘หัวเขียง’ ยอมถอนญัตติไม่ให้เลื่อน ชี้แค่ ‘นายกฯ’ แสดงความเสียใจ-ขอโทษก็เรื่องสง่างามแล้ว ขณะที่ ‘รอมฎอน’ ฉะอย่าใช้ความเงียบหนีปัญหา ต้องเผชิญหน้าอย่างมีวุฒิภาวะ เพราะกระบวนการยุติธรรมกำลังตีบตัน ด้าน ‘กมลศักดิ์’ จี้ รบ.แก้กฎหมายให้คดี  จนท.รัฐทำร้าย ปชช.เสียชีวิตไม่มีอายุความ

เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 25 ตุลาคม ที่รัฐสภา ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา เป็นประธานการประชุม โดย นายรอมฎอน ปันจอร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้เสนอขอเลื่อนญัตติด่วนด้วยวาจาขึ้นมาพิจารณาแทนระเบียบวาระที่มีอยู่เดิม เรื่อง ขอให้สภาพิจารณาผลกระทบกรณีการขาดอายุความของคดีตากใบ และข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการฟื้นฟูความชอบธรรมของรัฐ และการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

รวมทั้งญัตติด่วนด้วยวาจาของ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ เรื่อง ขอให้สภาร่วมกันพิจารณาหาทางออกกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีการสลายการชุมนุมเหตการณ์ตากใบที่จะขาดอายุความ ในเที่ยงคืนวันนี้ (25 ต.ค.) ขณะที่ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ไม่เห็นด้วยกับการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจากรณีตากใบ

จากนั้นผู้เสนอญัตติแสดงเหตุผลประกอบที่ต้องเลื่อนญัตติด่วนมาพิจารณาก่อน โดยนายรอมฎอนอภิปรายว่า ถ้านับจากวินาทีนี้จนถึงเที่ยงคืนวันนี้ (25 ต.ค.) มีเวลาประมาณ 13 ชั่วโมง 15 นาที ที่อายุความของคดีร้ายแรง ซึ่งเป็นผลมาจากโศกนาฏกรรมเมื่อ 20 ปีก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิตที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ถึง 85 คน และตอนนี้คดีอาญาที่ประชาชนฟ้องเองในศาลจังหวัดนราธิวาส มีจำเลย 7 คน ยังไม่สามารถนำจำเลยมาที่ศาลได้ และคดีที่อัยการสั่งฟ้องก็ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาและไม่มีการมอบตัว และผู้ต้องหาทั้ง 14 คนยังไม่ปรากฏตัวต่อศาล นี่คือปมปัญหาในวินาทีนี้

นายรอมฎอนอภิปรายว่า เหตุผลในการตั้งจุดนี้เพราะเหตุการณ์ตากใบเป็นส่วนหนึ่งในหลายๆ เหตุการณ์ที่มีความรุนแรงเกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ตากใบเป็นปมสำคัญ เป็นจุดเปลี่ยนเหตุการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นความทรงจำและประวัติศาสตร์บาดแผลที่ต้องชำระสะสางอย่างมีวุฒิภาวะเพื่อที่เราจะสามารถเดินหน้าต่อไปในการสร้างสันติภาพ หาข้อยุติจากความขัดแย้ง เราต้องการทางออกทางการเมือง เพราะเรื่องนี้เรื่องใหญ่ เป็นเรื่องของรัฐ เรื่องความมั่นคงของรัฐ เรื่องของสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ต้องยึดโยงกับหลักนิติธรรม

นายรอมฎอนกล่าวต่อว่า นอกเหนือจากอายุความกำลังจะหมด จำเลยและผู้ต้องหาไม่มาศาล ตอนนี้เราพบว่ากระบวนการยุติธรรมภายในประเทศกำลังถูกท้าทายและกำลังถึงภาวะตีบตัน แม้ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายตุลาการพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะทำให้ความจริงและความยุติธรรมเกิดขึ้น ขณะเดียวกันเวลานี้เกิดคำถามระหว่างประเทศว่าตกลงประเทศเราปกครองภายใต้หลักนิติธรรมหรือไม่ หลายเรื่องที่เคยเกิดขึ้น วัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดยังมีอยู่ ความรับผิดชอบที่ควรต้องมีจากเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำต่อประชาชนจะเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าหลังจากนี้อาจมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ที่สำคัญความเชื่อมั่นและความไว้วางใจต่ออำนาจรัฐที่กำลังถดถอยเรากำลังเผชิญกับข้อพิสูจน์ที่ว่ารัฐไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนได้จริงหรือไม่

ดังนั้น เราต้องระดมกำลังเพื่อแสวงหาทางออกในภาวะถดถอยนี้ และเราจะโอบอุ้มความรู้สึกของญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บที่กำลังรอคอยความจริงและความยุติธรรมได้อย่างไร ปัญหาความขัดแย้งที่เราเจอเป็นปัญหาทางการเมือง แต่ไม่ได้เป็นการเมืองฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล พรรคนั้น พรรคนี้ หรือนักการเมืองคนนั้น คนนี้ แต่เป็นปัญหาใหญ่ระหว่างความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนที่ไม่ลงรอยกันอยู่ภายใต้สภาพที่เปราะบาง เราจึงควรอย่างยิ่งที่ใช้พื้นที่สภาแห่งนี้รองรับความแตกต่างหลากหลายทางความคิด แทนที่จะปล่อยให้เสียงปืนเสียง เสียงระเบิด เสียงความรุนแรง ผูกขาดความจริง แทนที่ใช้ความเงียบหลบหนีปัญหา เราต้องเผชิญหน้าอย่างมีวุฒิภาวะ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ที่มีคนใช้อำนาจรัฐฆ่าประชาชนเกิดขึ้นอีก” นายรอมฎอนกล่าว

ด้านนายกมลศักดิ์อภิปรายว่า พรรคประชาชาติเห็นว่า เรื่องคดีตากใบที่กำลังจะหมดอายุความในเที่ยงคืนวันนี้น่าเป็นห่วง ไม่อยากให้เป็นเรื่องของพรรคประชาชาติเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องแสดงความเห็นไปยังฝ่ายบริหารเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตอนนี้กลายเป็นว่าพี่น้องประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมถูกใส่ร้ายว่าเป็นแนวร่วม อย่าไปให้ความสำคัญ ซึ่งถือเป็นการเบี่ยงประเด็น

นายกมลศักดิ์อภิปรายว่า เรื่องนี้สุมอยู่ในหัวอกพี่น้องผู้สูญเสียมาตลอด แม้จะได้รับเงินเยียวยาไปแล้วก็ตาม แต่คดีอาญายังไม่ระงับ นำไปสู่ปัญหาความรู้สึกของคนในพื้นที่โดยเฉพาะญาติผู้สูญเสีย จึงอยากให้ฝ่ายบริหารเอาจริงกับเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสักที ขอให้ติดตามตัวผู้ต้องหาเพื่อมารับผิดชอบ และขอให้ผู้ปฏิบัติงานปรับเปลี่ยนทัศนคติ การที่เขาลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยข้อกฎหมาย อย่าไปใส่ร้ายว่าเขาเป็นโจรหรือเป็นแนวร่วม

นายกมลศักดิ์กล่าวต่อว่า ยังมีเวลาจนถึงเที่ยงคืนของวันนี้ (25 ต.ค.) ผู้ต้องหายังสามารถเข้าไปมอบตัวโดยการเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และขอขอบคุณ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่าน มาออกมาให้ข่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตนในฐานะที่อยู่พรรคประชาติ เราอยู่ในพื้นที่ เห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรีออกมาขอโทษ แต่อยากให้ครอบครัวผู้สูญเสียเขามีความรู้สึกว่าไม่สูญเปล่ากับการลุกขึ้นมาต่อสู้ ช่วยแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 ว่าด้วยอายุความกรณีที่เจ้าหน้ารัฐทำให้ประชาชนเสียชีวิต ให้ไม่ขาดอายุความโดยเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแสดงให้เห็นความจริงใจที่มากขึ้น

การแสดงความจริงใจประกอบคำขอโทษให้ประชาชนที่นั่นรู้สึกว่าอย่างน้อยที่สุดที่เขาลุกขึ้นต่อสู้ แม้ไปไม่สุดทางแต่เขาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยเพื่อบรรเทาความรู้สึกเจ็บปวดโดยไม่มีอายุความ” นายกมลศักดิ์ระบุ

ขณะที่นายประยุทธ์อภิปรายว่า เสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่ส่วนตัวสงสัยว่าถ้าตนเป็นผู้สูญเสียจะฟ้องตั้งแต่วันแรก ทำไมมาฟ้องในปีสุดท้าย เหลืออีกไม่กี่วัน กี่เดือน และอยากให้ตำรวจจับกุมตัว 14 จำเลย อยากให้ผู้ต้องหามามอบตัวเอง อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องให้นายกฯต้องรับผิดชอบในขณะที่เหตุเกิดขึ้น นายกฯ เพิ่งอายุ 10 กว่าปี ยังเป็นเด็กนักเรียนอยู่ บ้านเมืองมีกระบวนการยุติธรรม ตำรวจ อัยการ ศาล การที่บางคนจะเรียกร้องให้นายกฯมารับผิดชอบ ตนหรือนายวันมูหะมัดนอร์ได้เป็นนายกฯก็คิดไม่ออกว่าต้องทำอย่างไร การแสดงความเสียใจและขอโทษก็เป็นเรื่องสง่างามแล้ว

ส่วนเรื่องเลื่อนญัตติหรือไม่ ผมตั้งใจไม่ให้เลื่อน เพราะความจริงเรื่องนี้เกิดมา 20 ปีแล้ว จะมาญัตติด่วนตรงนี้ ถามว่าด่วนเรื่องอะไร 6 ตุลา19 ผมโดนขังลืม ผมได้รับนิรโทษกรรม แล้วผมเอาเรื่องของผมด่วนไหม มันก็ไม่ด่วนเช่นกัน แต่ผมได้รับการประสานงานผิวเผิน ผมไม่ขัดข้อง ถ้าวิป 2 ฝ่ายตกลงกันได้ ผมก็ยินดีที่จะถอนญัตติออก” นายประยุทธ์กล่าว


 
ทวี ยัน รบ.ไม่เคยช่วยจำเลยคดีตากใบ สส.ปชน. ลั่น วัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดต้องยุติ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9475245

สส.นราธิวาส บี้ผู้ต้องหา คดีตากใบ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม สส.ปชน. ลั่นวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดต้องยุติ ‘ทวี’ ยัน รัฐบาลไม่เคยช่วยจำเลย ชี้คดีไม่ควรมีอายุความ

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2567 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม

นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้เสนอขอเลื่อนญัตติด่วนด้วยวาจาขึ้นมาพิจารณาแทนระเบียบวาระที่มีอยู่เดิม เรื่องขอให้สภาฯ พิจารณาผลกระทบกรณีการขาดอายุความของคดีตากใบ และข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการฟื้นฟูความชอบธรรมของรัฐ และการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

รวมทั้งญัตติด่วนวาจาของนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติเรื่องขอให้สภาฯ ร่วมกันพิจารณาหาทางออกกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กรณีการสลายการชุมนุมเหตการณ์ตากใบที่จะขาดอายุความ ในเที่ยงคืนวันนี้ (25 ต.ค.)

เวลา 11.20 น. นายซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส พรรคภูมิใจไทย (ภท.) อภิปรายว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นห่วงในเรื่องนี้ สำหรับเหตุการณ์ตากใบ แม้ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เกือบจะโดนชักชวนไปในเหตุการณ์ตากใบด้วย ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้น ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เนื่องจากหลายคนที่ไปก็ไม่รู้ว่าการเข้าไปจะโดนอะไร

ฉะนั้น ตนเข้าใจดีว่าผู้สูญเสียหลายท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ และกระบวนการยุติธรรมก็ควรเปิดพื้นที่ให้เขาสามารถพูดและบอกให้ประชาชนทั้งประเทศรู้ว่า เหตุการณ์วันนั้นไม่ใช่เหตุการณ์ของคนที่ทำความรุนแรงหรือจะก่อให้เกิดความรุนแรง

ทั้งนี้ สังเกตได้ว่าคดีตากใบที่กำลังจะหมดอายุความในวันนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีความรุนแรงเกิดขึ้นมากมาย ตนจึงอยากฝากให้ผู้ต้องหาเข้ามาในกระบวนการยุติธรรม ถ้าเข้าไปอยู่ในกระบวนการของศาลแล้ว ศาลจะว่าอย่างไรก็ว่าไปตามกระบวนการ ซึ่งตนเป็นคนในพื้นที่ เข้าใจดีว่าการทำงานในพื้นที่ 20 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการยุติธรรมหรืออะไรก็แล้วแต่ มักเกิดขึ้นยากมากในสามจังหวัดชายแดนใต้

เมื่อดูหลายอย่างแล้วรู้สึกหดหู่ใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำท่วม คนอื่นได้เยียวยา แต่คนสามจังหวัดชายแดนใต้ กลับไม่ได้รับการเยียวยา นี่คือสิ่งสะท้อนมาจากชาวบ้านว่า ทำไมรัฐบาลหรือคนของรัฐบาลทำไม่เหมือนกัน” นายซาการียา กล่าว

ด้าน นายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปราย ว่า รัฐควรต้องมีกระบวนการค้นหาความจริง วัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล ซึ่งถูกนิยามว่าเป็นนิติรัฐอภิสิทธิ์ราชนิติธรรมนั้น ควรต้องได้รับการปฏิรูปขนานใหญ่

ตนไม่อยากจินตนาการว่า หากคดีตากใบสิ้นอายุความ โดยไม่แม้แต่จะมีการนำตัวผู้ต้องหามาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร

ส่วนใครที่ออกมาพูดว่า เรื่องเกิดมาตั้งแต่ปี 47 จะมาฟื้นฝอยหาตะเข็บกันทำไม จนอาจกลายเป็นไฟลุกลามบานปลายนั้น คนที่พูดแบบนี้ เล่นการเมืองจนไม่สนใจเรื่องความเป็นธรรม ที่สำคัญคือมองสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ไม่ออก เนื่องจากเขาเชื่อแบบที่รัฐไทยและทหารเชื่อว่า เหตุการณ์ทั้งหมดต้องมาจากผู้ก่อการร้ายที่มีลักษณะการทำงานเป็นองค์กร มีโครงสร้าง และระบบชัดเจน

หากคิดแบบนี้ก็คงไม่แปลกที่งบประมาณจะถูกทุ่มลงไปมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ อย่างกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)

การให้เงินช่วยเหลือนั้น ไม่เพียงพอ เราต้องการให้หาคนที่กระทำสิ่งเหล่านี้ และป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีก เพราะสิ่งสำคัญคือความยุติธรรมต้องเกิด วัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวลต้องยุติ

จากนั้น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะสส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายว่า เหตุการณ์ตากใบและเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพลวัตที่ทุกภาคส่วนจะหาทางออก ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ความรู้สึกของคนจังหวัดชายแดนใต้เท่านั้น แต่เป็นความรู้สึกของคนทั้งประเทศ ที่สำคัญเป็นความรู้สึกของรัฐบาล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่