งานที่กำลังทำ ความโหดร้ายมันมาจากตัวเราเองหรือเปล่า?

สวัสดีค่ะ เราเป็นพนักงานร้านอาหาร อยู่ตำแหน่งอ่างล้างค่ะ

ในแต่ละวันจะมีลูกค้าใช้บริการปานกลาง-ค่อนข้างเยอะ จะพีคในช่วงเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ แม้วันธรรมดาไม่ได้เยอะเหมือนตามแถวกทม.หรือตามจังหวัดท่องเที่ยว แต่เมื่อเทียบกับจำนวนคนแล้วถือว่าหนักพอสมควรค่ะ

อ่างล้างวันธรรมดามักอยู่กัน 2 คน ส่วนวันหยุดต่างๆ จะอยู่กัน 3 คน เรากับDVT (เด็กฝึกงานจากวิลัยสายอาชีพ)
พวกเราทำทั้งล้างจาน ขัดกระทะ ทำของหวาน
ล้างจาน คืออันนี้ทำงานตลอดวันและเป็นหน้าที่หลักพวกเรา ส่วนของหวานมาเป็นครั้งคราว ไม่ได้มาบ่อย

เราอยากเล่าแต่มันเรื่องค่อนข้างยาวมาก จึงหาประเด็นที่มาเล่าจริง ๆ ให้ฟังค่ะ
-พวกเราล้างจานขัดกระทะทำของหวาน อันนี้คือหน้าหลัก แต่ต้องใส่ถุงมือสไลด์กระหล่ำไม่ใช่หน้าที่ของพวกเราเลย มีหน้าที่คือช่วยสไลด์เมื่อพวกเขา ยุ่ง ไม่มีเวลา เท่านั้น สุดท้ายฝ่ายบริการคิดว่าอันนั้นคือหน้าที่เราอย่างแท้จริง เพียงเพราะอยู่ใกล้แค่นั้นเอง
-จากเรื่องสไลด์กระหล่ำ ถึงแม้เราจานเยอะกระทะเยอะแค่ไหน จะกองท่วมขา แต่ก็ต้องทำให้พวกเขา ไม่ทำให้ก็ถูกฝ่ายบริการต่อว่า
-คนในครัวมีอยู่กัน 5-6 คน พอมีเวลาว่างก็คุยกันบ้าง เล่นโทรศัพท์กันบ้าง หลายครั้งพอเราบอกว่ามาสไลด์กะหล่ำให้หน่อย บางทีถูกเมินหนี ไม่รู้จะเกี่ยงอะไรหนักหนา
-DVT เป็นนักศึกษาฝึกงาน บางทีมาช่วยพวกเขาขึ้นของจากความเกรงใจ อยากช่วยเหลือ ถึงแม้อาจมีบ้างที่ไม่อยากไปช่วยเพราะงานกองตรงหน้า สุดท้ายต้องรี่ไปช่วยเหตุเพราะอยู่ที่ทำงานเดียวกัน
-บางครั้งล้างจานไม่ทัน ไม่ว่าจะกรณีไหน อีกคนจะพัก จะช่วยขึ้นของ จะทำของหวาน ไปเอาของจากสโตร์นอก ก็ถูกคนในครัวเรียกให้ไปส่งภาชนะตามที่ตัวเองต้องการโดยการตะโกนและลงน้ำหนักบวกกับเสียงดัง จนพวกเราคิดว่า พวกเราเป็นตัวอะไรกันแน่?
แถมพอพวกเขาว่างลูกค้าไม่เยอะ แทบจะไม่ส่งคนมาช่วยเราเลย
-จากที่เขาตะโกน บางทีพอเข้าใจได้ เพราะพัดลมมันดัง เสียงเครื่องจักรมันถล่มพื้นที่อ่างล้าง อย่างเช่นบริการเรียกให้ทำขนม จะมีคนหนึ่งเรียนตรงโซนทางเข้าสำหรับพนักงาน แถมเสียงเบามาก ซึ่งจะไม่ค่อยได้ยิน ยิ่งเราโฟกัสกับงานมาก ยิ่งหูดับเลยค่ะ
-กว่าจะรู้ต้องมีอีกคนมาพูดใกล้ๆ เรา หรือคนใดคนนึงได้ยินก็พรายกระซิบกันเอง จึงลงไปทำของหวานได้
เรื่องนี้เราบ่นหลายรอบมากค่ะ บอกให้บริการเดินมาเรียกเราแถวอ่างก็ได้ พูดเสียงค่อยแถมไกลขนาดนั้นก็ไม่ได้ยินหรอก ไม่ต้องรีบขนาดนั้น ถ้าประสานงานกันดีโอกาสลูกค้าคอมเพลนจะไม่มีเลย
-อ่างล้างไม่ได้มีหน้าที่แค่ล้างจานขัดกระทะ พวกเราต้องทำวนไปวนมาหัวหมุน อันไหนเขาขอเราก็ทำให้ แต่พอเราไม่ทัน อยากรู้จังทำไมไม่ส่งคนมาช่วยเลย? อีกอย่าง ร้านเรามี 23 โต๊ะค่ะ
-ยิ่งเวลาใกล้ช่วงเก็บร้านลูกค้าจะเยอะมาก เวลาเลิกงานคือ 21.30 คนนึงต้องขัดกระทะ อีกสองคนต้องช่วยเคลียร์จาน เช่นเดิมค่ะ พอถึงเวลาจริง น้อยครั้งมากที่จะช่วย
ลืมบอกไป เวลาเราจานไม่ได้เยอะ เราก็ช่วยเขาเคลียร์ของนะคะ พอจานกระทะมาเยอะหน่อย ถึงหันตัวไปทำงานของตัวเอง
จะบอกให้ว่าทำงานเกินเวลาบ่อยครั้ง แถมถูกด่า ถูกแซะอีกต่างหาก
-จะบอกว่าพวกเราแทบไม่ได้พักเลยค่ะ ทำงานเกือบตลอดทั้งวัน บางวันแบตใช้ไปไม่ถึง 10% ต่างกับบางคนชาร์จเอาๆ วันหนึ่ง 2-3 รอบ
-หลายครั้ง พวกเราถูกหาว่าไม่ทำงาน ไม่ชอบช่วยคนอื่น แต่ถามหน่อยค่ะ งานตัวเองก็มีจะให้ช่วยคนอื่นหลายรอบก็ตายกับตายสิคะ พอวันธรรมดามีเวลาว่างหน่อยก็ต้องเคลียร์พื้นที่ตัวเอง เพราะบริเวณอ่างล้างมันสกปรกบ่อย ถ้าไม่ทำเดี๋ยวก็ถูกด่าไม่ดูแลพื้นที่ ยิ่งเด็ก DVT มากันบ่ายสองครึ่ง เรานี่ตัวพลีชีพค่ะ มุดนู่น มุดนี่ขัดตรงนี้ ล้างถังดัก ต้องทำคลิปบอร์ด ล้างจาน แทบไม่ได้แตะกระทะเพราะช่วงเที่ยงเราเข้าพื้นที่คนเดียว แถมบ่ายสองต้องรับตลาดอย่างน้อยอีก 50 นาทีอีกค่ะ พอเรากลับมาก็ครัวก็หาว่าดองของ ดองกระทะ นู่นนี่นั่น บางจังหวะเขาก็เล่น แต่เรารู้สึกไม่พอใจ เหมือนเห็นเราเหนื่อยเป็นเรื่องสนุก
-เหตุผลที่เข้างานมาเราทำคนเดียวก็เพราะว่า เราต้องส่งงานให้เด็กDVT ทำต่อ นางมาหนึ่งคนเวลาบ่ายสองครึ่ง ให้เขามาล้างจานไปเลย ควรทำในสิ่งที่ควร จะได้ไม่ต้องลงมาหัวหมุนทำหลายอย่างค่ะ
-ถังดักไขมันนี่ตัวปัญหา มีทั้งหมดสามถัง แต่ล้างประจำคือถังของอ่างจานค่ะ เพราะมันสกปรก ส่วนของกระทะมี 2 บ่อ เราล้างอาทิตย์สองครั้ง เพราะเราไม่มีเวลา วันธรรมดาอยู่อ่างคนเดียว บ่ายสองครึ่งDVTมาคนหนึ่ง พวกเราหาช่วงล้างถังของกระทะหลายครั้งมาก อยากล้างมันบ่อย ๆ แต่ไม่มีเวลา วันธรรมดาคนก็มาเรื่อย ๆ
พอไม่ล้างก็ด่า พอล้างก็เร่ง เรารู้สึกเหนื่อยมากเลยค่ะ แค่เราเคลียร์จานเคลียร์กระทะเสร็จก็ปริ่มเวลาเลิกงาน เริ่มว่าพวกเรากันแล้ว ล้างช้า ทำอะไรช้า อีกหลายอย่าง
-โดนว่าใช้สก๊อตซ์ไบรท์ น้ำยาล้างจานเปลือง แต่หารู้ไม่ว่าใช้กันทั้งร้าน ไหนจะกระทะ บริการ ครัว ใช้กันทั้งร้านค่ะ วันนึงใช้แค่ครึ่งแพ็ค เราก็แปลกใจมันเปลืองตรงไหน?
-หลายคนบอกว่า อ่างล้างงานไม่หนัก แต่อยากรู้พอทำไมเวลาพวกเขาว่าง ๆ ถึงไม่ลงมากัน ของก็ไม่ได้ขึ้น อันนี้แปลกใจค่ะ เคลียร์ของตัวเองเสร็จก่อน แต่ทำไมไม่มาช่วย แถมพวกเราโดนด่าสารพัด เราเคยพูดนะคะ "ถ้าอยากกลับบ้านไว ก็ลงมาช่วยสิ"
-ไม่มีใครที่อยากทำงานเกินเวลา บางวันเกือบ 4 ทุ่ม 4 ทุ่มแตะๆ ก็ยังมี แม้กระทั่งตัวเราเอง แต่พวกคุณช่วยพวกเราสักหน่อยก็ยังดีค่ะ นึกถึงตอนที่พวกเราช่วยคุณบ้าง จานกระทะกองกัน แต่ก็ต้องเสียสละมาทำให้คุณ
-ต่อค่ะ รอเวลา ดึงเวลา รออ่างทิ้งขยะให้ฝ่ายเดียว เข้าใจว่าเป็นหน้าที่อ่าง แต่ในเมื่องานไม่เสร็จก็ต้องทำ พออ่างคนหนึ่งไปทิ้งในขณะที่เคลียร์จานไม่เสร็จอีกส่วนหนึ่ง ก็ไม่ค่อยลงมากันค่ะ เวลาฤกษ์แล้ว ช่วยกันเถอะค่ะ
-ตอนนี้สัญญาณสุขภาพมาแล้วค่ะ ต้นแขนเริ่มปวดแม้กระทั่งตอนมัดผม ปลายนิ้วเริ่มชา เวลาใช้แรงกดมาก ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง เราทำงานนี้กินเท่าไหร่ก็ยิ่งผอมลง จนคนที่บ้านทักว่าผอมลงหรือเปล่า? จากปกติก็ผอมทุนเดิมอยู่แล้ว
-เรื่ิองทำงานผิดพลาดอันนี้ยอมรับว่ามีแต่น้อย ทุกคนในที่ทำงานผิดพลาดหมด รวมทั้งหัวหน้าต่างๆ กระทั่งผู้จัดการ แต่ก็พัฒนาตัวเองมาโดยตลอด
-ล่าสุด เราเปลี่ยนถังแก๊สตู้โพสต์มิกซ์(ตู้กดน้ำอัดลม)ครั้งแรก เรียกเพื่อนร่วมงานมาช่วยหมุนตัวล็อคออก เพราะมันแน่นมาก แต่ก็ถูกหัวหน้าว่ามาสอนมาหลายครั้ง ทำไมไม่จำ ทำไมไม่มาถามก่อน แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จ เรารู้นะคะว่าอยากให้เป็น อีกอย่างเราไม่เคยเปลี่ยนเองจริง ๆ แต่เนื่องจากเราปลอดภัยไว้ก่อน จึงให้เพื่อนร่วมงานที่ชำนาญกว่าคลายออกให้ และถามว่าทำอย่างนี้ใช่ไหม จากนั้นก็ต่อถังใหม่ด้วยตัวเองค่ะ เช็คเรียบร้อย ปรากฏว่าเราต่อได้ค่ะ
เราบอกเขาว่า หนูเพิ่งเปลี่ยนเองครั้งแรกค่ะ มีบ้างนิดๆ หน่อยๆ ค่ะ
เอาจริงๆ นะคะ แก๊สก็หมดตอนเราไม่อยู่ เราจึงไม่ได้เปลี่ยนเอง จึงขาดความคล่องตัวตรงนี้ไป (ที่สอนทั้งหมดคือ3รอบค่ะ)  ครั้งแรกช้าแต่ชัวร์ยังดีกว่าเร็วแต่ทำอะไรผิดพลาดค่ะ

อยากรู้ว่าทั้งหมดที่ทำกับเราเกินไปหรือเปล่าคะ? ข้อผิดพลาดมี ยอมรับ แต่บางอย่างมันเกินไปหน่อยค่ะ เราเข้าใจว่าสังคมการทำงานไม่ได้สวยหรูอะไร..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่