ลัทธิ สัตตานัง คือ ลัทธิ สัสสตวาที

สัสสตทิฐิ เป็น มิจฉาทิฐิ
สัสสตทิฏฐิ เป็น มิจฉาทิฏฐิ
คือมีความเห็นผิด ว่า อัตตา และโลกเที่ยง 
ทั้งในภพเบื้องนี้ และภพเบื้องหน้า
 
ความเห็นผิดเช่นนี้ 
ไม่อาจทำให้ บรรลุ มรรคผล นิพพานได้

สมณะหรือพราหมณ์บางคนในโลกนี้ เป็นนักตรึก เป็นนักค้นคิด กล่าวแสดงปฏิภาณของตนตามที่ตรึกได้ ตามที่ค้นคิดได้อย่างนี้ว่า
อัตตาและโลกเที่ยง คงที่ตั้งอยู่มั่นดุจยอดภูเขา ตั้งอยู่มั่นดุจเสาระเนียด ส่วนเหล่า สัตว์นั้นย่อมแล่นไป ย่อมท่องเที่ยวไป ย่อมจุติ ย่อมเกิด แต่สิ่งที่เที่ยงเสมอคงมีอยู่แท้
นี้เป็นฐานะที่ ๔ ซึ่งสมณพราหมณ์พวกหนึ่งอาศัยแล้ว ปรารภแล้ว จึงมีทิฏฐิว่าเที่ยง ย่อมบัญญัติอัตตาและโลกว่าเที่ยง
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=9&A=1&Z=1071&pagebreak=1&fbclid=IwY2xjawF_JT9leHRuA2FlbQIxMQABHYRypxyH_7ionCGaIkobjeFIodHyukIdPx9oWs-VhQHAK1IWDN8JIpZi7w_aem_cDd-I_kaj9NR2OW7qi8qVQ

[๗๓๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นหนอ พิจารณาเห็นธรรมไรๆโดยความเป็นอัตตาอยู่ จักเป็นผู้ประกอบด้วยอนุโลมขันติ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ผู้ไม่ประกอบด้วยอนุโลมขันติ จักย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ เมื่อไม่ย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม จักทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล 
อนาคามิผล หรืออรหัตผล ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ 
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นหนอ พิจารณาเห็นธรรมไรๆ โดยความเป็นอนัตตาอยู่ จักเป็น
ผู้ประกอบด้วยอนุโลมขันติ ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ ผู้ประกอบด้วยอนุโลมขันติ จักย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ ผู้ย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม จักทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล หรืออรหัตผล 
ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ ฯ
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=31&A=10812&Z=10974&pagebreak=1&fbclid=IwY2xjawF_JalleHRuA2FlbQIxMQABHXGwkYeqPp3juaILdOWvtmgLFUmM9zOEjJ22PuZWw2V-Dt-4mQZbAkPbhA_aem_xOb0lE-CxJ8KCj3zMTvpBQ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๗ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๔
กถาวัตถุปกรณ์

             [๑๘๘] ส. ท่านหยั่งเห็นบุคคลโดยสัจฉิกัตถปรมัตถ์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. พระผู้มีพระภาค มีปกติตรัสคำจริง ตรัสสมกาล ตรัสเรื่องที่เป็นจริง
ตรัสถูกต้อง ตรัสไม่ผิด ตรัสไม่คลาดเคลื่อน มิใช่หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรเสนิยะ ศาสดา ๓ จำพวกนี้มี อยู่ปรากฏ
อยู่ในโลก ๓ จำพวกเป็นไฉน ศาสดาบางคนในโลกนี้ บัญญัติอัตตา
โดยความเป็นของจริง โดยความเป็นของแท้ ทั้งในปัจจุบัน ทั้งใน
สัมปรายภพ อนึ่ง ศาสดาบางคนในโลกนี้ บัญญัติอัตตาโดยความ
เป็นของจริง โดยความเป็นของแท้ แต่ในปัจจุบันไม่บัญญัติเช่น
นั้นในสัมปรายภพ อนึ่ง ศาสดาบางคนในโลกนี้ ไม่บัญญัติอัตตา
โดยความเป็นของจริง โดยความเป็นของแท้ ทั้งในปัจจุบัน ทั้งใน
สัมปรายภพ ใน ๓ จำพวกนั้น ศาสดาที่บัญญัติอัตตาโดยความ
เป็นของจริง โดยความเป็นของแท้ ทั้งในปัจจุบัน ทั้งใน
สัมปรายภพ นี้เรียกว่า สัสสตวาท ศาสดาที่บัญญัติอัตตา โดย
ความเป็นของจริง โดยความเป็นของแท้ แต่ในปัจจุบัน ไม่บัญญัติ
เช่นนั้นในสัมปรายภพ นี้เรียกว่า อุจเฉทวาท ศาสดาที่ไม่บัญญัติ
อัตตาโดยความเป็นของจริง โดยความเป็นของแท้ ทั้งในปัจจุบัน
ทั้งในสัมปรายภพ นี้เรียกว่า สัมมาสัมพุทธะ ดูกรเสนิยะ ศาสดา
๓ จำพวกนี้แล มีอยู่ ปรากฏอยู่ในโลก ดังนี้ ๑- เป็นสูตรมีอยู่จริง
มิใช่หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่พึงกล่าวว่า หยั่งเห็นบุคคลได้โดยสัจฉิกัตถปรมัตถ์ นะสิ
@๑. เทียบ อภิ. ปุ. ข้อ ๑๐๓

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ บรรทัดที่ ๒๑๕๖-๒๑๗๙. หน้าที่ ๙๒.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=3 7&A=2156&Z=2179&pagebreak=1
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่