สิ่งที่มี นั้น ไม่ใช่ตัวตน(อัตตา) เลย ไม่ว่า อะไร
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
[๓๖๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฐานะที่ไม่ควรเป็นได้ ๖ ประการนี้
๖ ประการเป็นไฉน คือ บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิ
ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อยึดถือสังขารไรๆ โดยความเป็นของเที่ยง ๑
เป็นผู้ไม่ควรเพื่อยึดถือสังขารไรๆ โดยความเป็นสุข ๑
เป็นผู้
ไม่ควรเพื่อยึดถือธรรมไรๆ โดยความเป็นอัตตา ๑
เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำอนันตริยกรรม ๑
เป็นผู้ไม่ควรเพื่อเชื่อถือความบริสุทธิ์โดยมงคลตื่นข่าว ๑
เป็นผู้ไม่ควรเพื่อแสวงหาเขตบุญภายนอกศาสนานี้ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฐานะที่ไม่ควรเป็นได้ ๖ ประการนี้แล ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=10317&Z=10325
[๗๓๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นหนอ
พิจารณา
เห็นธรรมไรๆโดยความเป็นอัตตาอยู่ จักเป็นผู้ประกอบด้วยอนุโลมขันติ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่
จะมีได้
ผู้ไม่ประกอบด้วยอนุโลมขันติ จักย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
เมื่อไม่ย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม จักทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล
สกทาคามิผล อนาคามิผล หรืออรหัตผล ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นหนอ
พิจารณา
เห็นธรรมไรๆ โดยความเป็นอนัตตาอยู่ จักเป็น
ผู้ประกอบด้วยอนุโลมขันติ ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้
ผู้ประกอบด้วยอนุโลมขันติ
จักย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้
ผู้ย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม จักทำ
ให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล หรืออรหัตผล ข้อนี้เป็น
ฐานะที่มีได้ ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=31&A=10812&Z=10974
ไม่มีแม้แต่ตัวตนชั่วคราว
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
[๓๖๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฐานะที่ไม่ควรเป็นได้ ๖ ประการนี้
๖ ประการเป็นไฉน คือ บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิ
ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อยึดถือสังขารไรๆ โดยความเป็นของเที่ยง ๑
เป็นผู้ไม่ควรเพื่อยึดถือสังขารไรๆ โดยความเป็นสุข ๑
เป็นผู้ไม่ควรเพื่อยึดถือธรรมไรๆ โดยความเป็นอัตตา ๑
เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำอนันตริยกรรม ๑
เป็นผู้ไม่ควรเพื่อเชื่อถือความบริสุทธิ์โดยมงคลตื่นข่าว ๑
เป็นผู้ไม่ควรเพื่อแสวงหาเขตบุญภายนอกศาสนานี้ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฐานะที่ไม่ควรเป็นได้ ๖ ประการนี้แล ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=10317&Z=10325
[๗๓๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นหนอ
พิจารณาเห็นธรรมไรๆโดยความเป็นอัตตาอยู่ จักเป็นผู้ประกอบด้วยอนุโลมขันติ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่
จะมีได้
ผู้ไม่ประกอบด้วยอนุโลมขันติ จักย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
เมื่อไม่ย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม จักทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล
สกทาคามิผล อนาคามิผล หรืออรหัตผล ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นหนอ
พิจารณาเห็นธรรมไรๆ โดยความเป็นอนัตตาอยู่ จักเป็น
ผู้ประกอบด้วยอนุโลมขันติ ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้
ผู้ประกอบด้วยอนุโลมขันติ
จักย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้
ผู้ย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม จักทำ
ให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล หรืออรหัตผล ข้อนี้เป็น
ฐานะที่มีได้ ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=31&A=10812&Z=10974