JJNY : ‘เท้ง‘ จี้ตามจำเลยคดีตากใบ│ครอบครัว'พลทหาร'ชี้แจง'กมธ.ทหารฯ'│ส.อ.ท.ผวาน้ำท่วมซัดศก.│สหรัฐ-ฟิลิปปินส์จัดซ้อมรบร่วม

‘เท้ง‘ จี้รัฐบาลอย่าปัดความรับผิดชอบ ตามจำเลยคดีตากใบรับผิด ก่อนคดีหมดอายุความ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4848792
 

‘ณัฐพงษ์‘ จี้รัฐบาลอย่าปัดความรับผิดชอบ ตามจำเลยคดีตากใบรับผิดก่อนคดีหมดอายุความ หวั่นประชาชนหมดความเชื่อมั่นรัฐบาล
 
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีคดีตากใบจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคม โดยประชาชนเรียกร้องให้จำเลยทั้ง 7 คนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หนึ่งในนั้นมี พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่า สถานะของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานะความเป็นจำเลยของ พล.อ.พิศาล ดังนั้น จึงยังเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องติดตามตัวจำเลยที่หลบหนีในต่างประเทศ ไม่ว่าจำเลยคนดังกล่าวจะเป็นสมาชิกหรือไม่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ตาม ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบในการติดตามจำเลยกลับเข้ามาดำเนินคดีได้ เพราะถือเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาลที่มีต่อประชาชนชาวไทยทั้งประเทศและประชาชนในสามจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อทวงคืนความยุติธรรม เนื่องจากเป็นคดีที่สร้างบาดแผลให้กับคนสามจังหวัดชายแดนใต้
 
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ส่วนจะนำจำเลยมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ก่อนคดีหมดอายุความหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าพึ่งดูผลลัพธ์ แต่ให้ดูถึงความตั้งใจและเจตจำนงทางการเมือง ที่ผ่านมามีการแถลงข่าวจากฝ่ายรัฐบาลว่ามีการเซ็นใบลาออก ดูเหมือนเรื่องจะจบ ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเป็นสมาชิกหรือไม่เป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย เพราะสถานะความเป็นจำเลยยังคงอยู่ หน้าที่ของรัฐบาลคือการติดตามจำเลยทุกคนที่ยังยังคงหลบหนีกลับมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
 
เมื่อถามว่า พล.อ.พิศาล ระบุในใบลาออกว่าจะมาชี้แจงหากอาการป่วยทุเลาลง ซึ่งน่าจะภายหลังคดีหมดอายุความ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หากเป็นแบบนั้นจริงสังคมคงตั้งคำถามและเชื่อได้ว่าสิ่งนี้เป็นความพยายามในการหลบหนีคดี รัฐบาลก็จะยิ่งสูญเสียความเชื่อมั่นต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนมากขึ้น ในฐานะฝ่ายค้านจะตรวจสอบเรื่องนี้ต่อ และตีแผ่ความจริงอย่างเข้มข้นต่อไป ตนเองไม่อยากพูดชี้นำเพราะตอนนี้ยังคงมีเวลาที่รัฐบาลยังสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ที่สุด
 
เมื่อถามว่า จะมีการตั้งกระทู้ถามในสภาฯ หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คงจะใช้กลไกหลายอย่าง ไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปที่ตั้งกระทู้ถามอย่างเดียว ยังมีอีกหลายเวที ทั้งการอภิปรายตามมาตรา 151 และ 152 การลงมติไม่ไว้วางใจ คณะกรรมาธิการที่ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด ยืนยันว่าเราจะใช้กลไกทุกช่องทางในการติดตามเรื่องนี้ต่อไป


 
ครอบครัว 'พลทหารศิริวัฒน์' ชี้แจง 'กมธ.ทหารฯ' ติดใจครูฝึก เห็นมีอาการชัก ยังสั่งให้ตากแดด
https://prachatai.com/journal/2024/10/111069

ครอบครัว “พลทหารศิริวัฒน์” เข้าชี้แจงต่อ กมธ. ทหาร กรณีพลทหารศิริวัฒน์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2567 ระหว่างเข้าฝึกทหารเกณฑ์พลัด 1 กรมสารวัตรทหารเรือ ครอบครัวติดใจครูฝึกเห็นพลทหารศิริวัฒน์มีอาการชักจากการถูกสั่งวิ่งรอบสนามควบคุมร่างกายไม่ได้ กลับทำร้ายร่างกายและให้นำตัวไปนอนตากแดด โดยไม่มีการปฐมพยาบาล กองทัพเรือระบุ ตั้งกรรมการสอบพลทหารร่วมกองร้อยอยู่
 
16 ต.ค. 2567 มูลนิธิผสานวัฒนธรรมรายงาน เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา เวลา 13.30 น. ครอบครัวของพลทหารศิริวัฒน์ ใจดี พร้อมทนายความจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เข้าร่วมรับฟังและชี้แจงข้อเท็จจริงกับประธานคณะกรรมาธิการการทหารสภาผู้แทนราษฎร กรณีพลทหารศิริวัฒน์ สังกัดกรมสารวัตรทหารเรือ กองทัพเรือ เสียชีวิตหลังเข้ารับการฝึกทหารทหารเกณฑ์พลัด 1/ 2567 และย้ายหน่วยฝึกเข้ากรมสารวัตรทหารเรือได้เพียง 1 วัน โดยในวันดังกล่าว กมธ การทหารได้เชิญผู้แทนจากกองทัพเรือ และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง
 
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้นำการประชุมในครั้งนี้ โดยมี เสนาธิการกรมสารวัตรทหารเรือ ผู้แทนจากกองทัพเรือ (ทร.)  ชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2567 ทางกองร้อยได้ให้ทหารเกณฑ์ฝึกบุคคลด้วยท่ามือเปล่า และสั่งให้วิ่งรอบสนาม สลับกับการหยุดพัก 30 นาที แต่พลทหารศิริวัฒน์เกิดอาการเหนื่อยหอบ จึงหยุดพักและเดินแทนการวิ่ง พร้อมทั้งไปนั่งพักบริเวณข้างสนามก่อนล้มตัวนอนลงไป กระทั่งมีการชักเกร็ง ไม่สามารถควบคุมแขนขาได้ ขาจึงไปโดนตัวครูฝึก ครูฝึกจึงได้เตะไปที่ต้นขา 2 ครั้ง และตบหน้า 1 ครั้ง หลังจากนั้น ได้ปล่อยให้พลทหารศิริวัฒน์อยู่คนเดียว เพื่อนทหารเห็นอาการไม่ดีขึ้น จึงแจ้งครูฝึกและพาตัวไปโรงพยาบาลในภายหลัง ก่อนที่พลทหารศิริวัฒน์เสียชีวิตอย่างกระทันหันในเวลาต่อมา
 
หลังจากการเสียชีวิตของพลทหารศิริวัฒน์ครอบครัวระบุ ไม่เคยได้รับข้อมูลจากกองทัพเรือแต่อย่างใด  อีกทั้ง เดิมทียังเข้าใจว่าลูกชายเสียชีวิตจากอาการป่วยเท่านั้น  จนกระทั่งครอบครัวได้พุดคุยข้อเท็จจริงกับเพื่อนทหาร และทราบถึงข้อเท็จจริง จึงได้ออกมาร้องเรียนหาความเป็นธรรม
ในที่ประชุมกมธ.ฯ มีข้อสังเกตในเรื่องข้อมูลไม่ตรงกัน รายงานที่ทางกองทัพเรือทำมายังไม่สมเหตุสมผล ไม่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งขณะนี้ผ่านมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ทางกองทัพเรือไทยตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงพลทหารร่วมกองร้อยได้เพียง 51 นายจาก 165 นาย ถือว่าล่าช้ามาก โดยกองทัพเรือไทยรับปากกับ กมธ.ฯ ว่าผลการสอบข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 3 พ.ย. 2567  ในส่วนของพนักงานสอบสวน สภ.พลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จะส่งสำนวนให้พนักงานอัยการดำเนินการต่อภายในวันที่ 25 ต.ค. 2567
 
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2567 นิชนันท์ วังคะฮาต อดีตผู้สมัคร สส.ชลบุรี และปณิตา ทองเช้ม พี่สาวของพลทหารศิริวัฒน์ ใจดี ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการการทหารสภาผู้แทนราษฎร โดยมีจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ โฆษกกรรมาธิการการทหารรับเรื่องร้องเรียน โดยเพื่อนทหารระบุว่า วันนั้นพลทหารศิริวัฒน์ถูกฝึกหนักและถูกสั่งให้วิ่ง ก่อนที่ร่างกายจะทนไม่ไหว ทำให้หน้ามืดและมีอาการชัก จนขาของพลทหารศิริวัฒน์ไปโดนขาของครูฝึก ทำให้ครูฝึกเตะไปที่ขาและซี่โครง พร้อมทั้งตบหน้าของพลทหารศิริวัฒน์ หลังจากพลทหารศิริวัฒน์หมดสติ ครูฝึกได้สั่งเพื่อนให้นำตัวพลทหารศิริวัฒน์ไปตากแดดบริเวณลานปูน โดยไม่มีการปฐมพยาบาลใด ๆ เป็นเวลากว่าหลายชั่วโมงจึงค่อยนำพลทหารศิริวัฒน์ไปโรงพยาบาล และเสียชีวิตในภายหลัง


 
ส.อ.ท.ผวาน้ำท่วมซัดศก.เสียหาย 3-5 หมื่นล้าน กดดัชนีเชื่อมั่นร่วงต่อเนื่อง
https://www.matichon.co.th/economy/news_4848852

ส.อ.ท.ผวาน้ำท่วมซัดศก.เสียหาย 3-5 หมื่นล้าน กดดัชนีเชื่อมั่นร่วงต่อเนื่อง 
 
นายนาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน 2567 ว่า ความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ 87.1 ปรับตัวลดลง จาก 87.7 ในเดือนสิงหาคม 2567 ปัจจัยด้านลบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง สร้างความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือนของประชาชน พื้นที่การเกษตรและอุตสาหกรรม รวมถึงพื้นที่การท่องเที่ยว
 
ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม มูลค่าสูงถึง 30,000 – 50,000 ล้านบาท ขณะที่กำลังซื้อในประเทศยังอ่อนแอจากแรงกดดันปัญหาหนี้ครัวเรือน ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย และการบริโภคสินค้าคงทนก็ยังคงชะลอตัวลง สะท้อนจากยอดขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ในประเทศช่วง 8 เดือน (มกราคม –สิงหาคม 2567) หดตัว 24% และ 11% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
 
นอกจากนี้ยังเผชิญกับความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบลงทุนในโครงการของภาครัฐ ณ วันที่ 27 กันยายน 2567 เบิกจ่ายงบลงทุนได้เพียง 63.31% ส่งผลให้ยอดขายสินค้าวัสดุก่อสร้างชะลอลง อีกทั้งปัญหาการทุ่มตลาดของสินค้าจีน ยังส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตของไทย ขณะที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญการแข่งขันสูง การแข็งค่าของเงินบาทอย่างรวดเร็วกดดันภาคการส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหารที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก และกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย
 
ประกอบกับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจากระดับ 34.92 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในเดือนสิงหาคม 2567 เป็น 33.52 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในเดือนกันยายน 2567 ตามการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00 ทำให้เงินทุนเคลื่อนย้ายเข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม เดือนกันยายนยังมีปัจจัยบวกจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 โดยการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการจำนวน 14.5 ล้านราย ช่วงวันที่ 25–30 กันยายน 2567 ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว ยังเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย
 
ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 29 กันยายน 2567 ที่ผ่านมามีทั้งสิ้น 26,005,295 คน ขยายตัว 30% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ มูลค่า 1,214,681 ล้านบาท และภาคการส่งออก ปรับดีขึ้นต่อเนื่องตามการขยายตัวของอุปสงค์ในตลาดโลก อาทิ สหรัฐฯ จีน อาเซียน ยุโรป อินเดีย แอฟริกาและตะวันออกกลาง เป็นต้น และอัตราค่าระวางเรือ ปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะเส้นทางสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งลดลง
 
ปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ เศรษฐกิจในประเทศ อัตราแลกเปลี่ยน ส่วนปัจจัยที่ผู้ประกอบการกังวลลดลง ได้แก่ เศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมัน สถานการณ์การเมืองในประเทศ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้” นายนาวากล่าว.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่