ทหารกล้าขอชี้แจง ความมั่นคงประเมินเป็นตัวเลขไม่ได้

พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กล่าวชี้แจง ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ 
พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เพื่อพิจารณางบของกระทรวงกลาโหม ว่า
"ทุกประเทศต้องจัดกำลังทหารป้องกันประเทศ ปกป้องอธิปไตย รับมือภัยคุกคาม แม้ความมั่นคงประเมินเป็นตัวเลขไม่ได้ แต่ก็คือความอยู่รอดของประเทศ ส่งผลถึงเศรษฐกิจความเป็นอยู่ประชาชน การเสริมสร้างกำลังทหารเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 52 และ พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม 2551 ทั้งนี้ กองทัพไทยประกอบไปด้วยเหล่าทัพ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกัน"

พล.อ.เฉลิมพลกล่าวต่อว่า "สำหรับนโยบายจะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์นั้นเน้นการปรับปรุงยืดอายุการใช้งาน การซ่อมบำรุง และยืนยันว่ากระทรวงกลาโหมใช้งบประมาณประหยัด คำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ความเดือดร้อนของประชาชน อีกทั้งการจัดหาเป็นไปตามขั้นตอน มีการจัดตั้งคณะกรรมการก่อนเสนอกระทรวงกลาโหมทำแผนยุทธศาสตร์ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และกระบวนการพิจารณากลั่นกรองเป็นไปอย่างรอบคอบเหมาะสม"

“ปัจจุบันกองทัพไทยมียุทโธปกรณ์คิดเป็นเงินรวมทั้งหมดประมาณ 500,000 ล้านบาท การจัดหาทดแทนในส่วนที่จำเป็น และซ่อมบำรุงคิดเป็น 1 หมื่นล้านบาทต่อปี หรือ 2% เพื่อดูแลรักษาให้คงสภาพ รวมถึงงบประมาณด้านการฝึกกำลังพล การสับเปลี่ยนกำลังทดแทน 
เมื่อมีการปรับย้ายการฝึกร่วมกับมิตรประเทศ

https://www.matichon.co.th/politics/news_3459518



ผบ.เหล่าทัพ ตบเท้าเข้าสภาฯ ชี้แจงงบฯ2566 ต่อ กมธ.
กองทัพ เผย ยุทโธปกรณ์ ที่ประจำการอยู่ คิดเป็นเงิน ราว 5 แสนล้านบาท
เผย จัดหาทดแทนในส่วนที่จำเป็นซ่อมบำรุง 1 หมื่นล้านบาทต่อปี

“บิ๊กแก้ว” เตือน ข้อมูลความมั่นคงมีชั้นความลับตามระเบียบสำนักนายกฯ
แนะ ระมัดระวังในการเผยแพร่ ปลัดกห. แจง งบฯกลาโหมลดลงทุกปี ตั้งแต่ปี 2564 ถึง ปี 2566



แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่