ตอนที่1
ชาตรี, เมย์, เอ็ม,และ เอก
พวกเขามีเหตุจำเป็นต้องขับรถไปที่สกลนครในช่วงตีสองตีสาม
เพราะเพื่อนของพวกเขาเกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรงและถูกนำตัวไปโรงพยาบาลในสกลนคร
พวกเขารู้สึกเป็นห่วงเพื่อนมาก
"เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
เมย์รีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมารับ
เมื่อได้ยินข่าวว่ามานีประสบอุบัติเหตุ
เมย์รู้สึกใจหาย

เธอรีบโทรหาเพื่อนๆ
เพื่อบอกข่าวร้ายและชวนกันไปเยี่ยมมานีที่โรงพยาบาล"
"ชาตรีอาสาขับรถ
เมื่อรับ เมย์
เอ็มขึ้นรถ แล้วก็เหลือเอก"
"ทางเข้าบ้านเอกต้องผ่านวัดร้างที่ดูน่ากลัว
เพราะบ้านเอกอยู่นา
"แสงจันทร์ส่องกระทบผนังวัดร้างที่ทรุดโทรม
เมย์รู้สึกขนลุกซู่เมื่อมองเห็นเงาต้นไม้เคลื่อนไหวผ่านหน้าต่างบานเก่า
ชาตรีหันมาเห็นสีหน้าตื่นตกใจของเมย์
"ไม่ต้องกลัวนะ เมย์ เรามีกันหลายคน"
ชาตรีและเอ็มพยายามสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลาย
แต่ลึกๆ แล้วต่างก็รู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน
พวกเขารีบเร่งเครื่องยนต์เพื่อออกจากบริเวณวัดร้างให้เร็วที่สุด
เมย์รู้สึกขนลุกซู่เมื่อมองกระจกหลังและเห็นเงาคล้ายคน
กำลังวิ่งตามมาติด ๆในความมืด
"เสียงเครื่องยนต์เร่งรัดดังกึกก้องตัดผ่านความเงียบสงัด
พวกเขาพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อรถค่อยๆ เคลื่อนออกจากบริเวณวัดร้างที่ดูน่ากลัว
ทุกอย่างดูเงียบเชียบ
เมื่อพ้นจากบริเวณวัดร้างมาได้แล้ว
"รถแล่นเข้าสู่ซอยเล็ก ๆ
บ้านเอกตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนาเขียวขจี
หลังคาบ้านมุงด้วยหญ้าคา
ดูเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น
ชาตรีมองดูกระท่อมเล็ก ๆ ของเอกแล้วนึกถึงความเรียบง่ายของชีวิต
บ้านหลังนี้อาจจะไม่หรูหรา
แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความรักและความอบอุ่น
ชาตรีคิดว่าชีวิตเราก็เหมือนกับบ้านหลังนี้
หากเรามีความสุขภายในใจ
บ้านหลังเล็ก ๆ ก็สามารถเป็นสวรรค์ได้"
ชาตรีเร่งเครื่องยนต์เพื่อมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลสกลนคร
เอ็มและเมย์หันไปยิ้มให้เอกที่เพิ่งขึ้นรถมา
บรรยากาศในก็ดูเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
ทั้ง4 คนเริ่มคุยกันเกี่ยวกับการไปเยี่ยมมานีที่สกลนคร
สกลนครเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
มีพื้นที่ใหญ่และประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน
สกลนครเป็นที่รู้จักกันดีในด้านวัฒนธรรม
และธรรมชาติที่สวยงาม
วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์
โดยเฉพาะวัฒนธรรมภูไท
และเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่เป็นที่ตั้งของ พระธาตุเชิงชุม
ซึ่งเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวสกลนคร
สิ่งที่น่าสนใจในสกลนครมีมากมาย
การเดินทางจากยโสธรไปสกลนคร
จะผ่านภูพานใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
ภูพาน เทือกเขาขนาดใหญ่มีความลึกลับ
ภูพานไม่ได้เป็นเพียงแค่เทือกเขาที่สวยงาม
แต่ยังซ่อนเรื่องราวลึกลับและความเชื่อที่น่าสนใจมากมาย
ไม่ว่าจะเคยเป็นฐานลับของกลุ่มคอมมิวนิสต์ในสมัยก่อน
ชาวบ้านเชื่อว่าใต้ภูพานมีเมืองบาดาลที่พญานาคอาศัยอยู่
และมีการพบเห็นปรากฏการณ์ประหลาดที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับพญานาค
เช่น แสงประหลาด
หรือเสียงดนตรีลึกลับ
ชาวบ้านบางคนเคยเจอแก้วเสด็จ
แก้วเสด็จ
เป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่ถูกกล่าวถึงในตำนาน
และความเชื่อของคนโบราณว่ามีพุทธคุณ
และอานุภาพทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม ป้องกันภัย
บางคนเจอผีกองกอยในป่าภูพาน
บางคนก็เข้าไปแล้วก็หายตัวไปอย่างลึกลับลือกันว่าถูกผีจับตัวไป
หรืออาจถูกกลุ่มคอมมุนิสต์ในสมัยก่อนหลงเหลืออยู่จับไป
................
ตอนที่2
รถยนต์ค่อยๆ ไต่ขึ้นเขาภูพาน เส้นทางคดเคี้ยวสองข้างทางนี้ก็มืดไปหมด
ยิ่งขับลึกเข้าไป
ความรู้สึกวังเวงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
มองไปก็มีแต่ไร่นา
นานๆจะมีรถสวนมา
เมย์หันไปกระซิบกับเอ็ม
"ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย"
เอ็มพยักหน้าเห็นด้วย
ในขณะที่ชาตรีพยายามตั้งสติ
ทันใดนั้น
ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนนิ่งราวกับรูปปั้นอยู่ข้างทาง
เหมือนจะเป็นชาวบ้านแถวนั้น
เมื่อรถเข้ามาใกล้ก็ยกมือโบกรถ
ดวงตาหญิงสาวนั้นเบิกกว้าง
มองมาที่พวกเขาด้วยสายตาที่น่ากลัว
ชาตรีตกใจมาก
คิดว่าไม่ใช่คนแน่ๆ
ชาตรีจำได้ว่าเคยได้ยินตำนานเล่าขาน
เกี่ยวกับผีที่หลอกล่อคนให้เข้าป่า
แล้วก็หายสาปสูญไป
เมื่อเห็นหญิงสาวคนนั้นยืนโบกรถอยู่ข้างทาง
ชาตรีก็อดคิดถึงตำนานเรื่องนั้นไม่ได้
เห็นไหมพวกเธอ
ชาตรีเอ่ยขึ้น
"เอ็มจำได้ไหมที่เราเคยเล่าเรื่องผีที่หลอกล่อคนเข้าป่า
แล้วก็หายตัวไป
"จำได้สิ แล้วเธอคิดว่า..."
"ฉันไม่แน่ใจว่าเธอคนนั้นจะเป็น..."
คงไม่ใช่หรอกน่า เอกปลอบเอ็ม
สักพัก
ก็ได้ยินเสียง พูดดังมาจากทางหลังรถว่า
ศพกูอยู่ตรงนี้
พวกเขาหันไปมองก็เห็นหญิงสาวคนนั้นเกาะท้ายรถ
ยิ้มให้พวกเขา
กรี๊ด
เมย์กรีดร้องออกมาด้วยความกลัว
ผีหลอก
เอ็ม
เอก ชาตรี
ตะโกนออกมาพร้อมกัน
......
บรรยากาศรอบข้างรู้สึกวังเวงและหนาวเย็น
อยู่ๆหมอกก็หนาขึ้นจนมองแทบไม่เห็นทางข้างหน้า
ชาตรีเห็นแสงไฟสลัวของปั๊มน้ำมันริมทาง
สักพักชาตรีก็เห็นปั้มน้ำมันข้างทาง
มีป้ายเขียนว่าเปิด ตลอด24ชั่วโมง
"แวะพักตรงนี้ก่อนไหม"
ชาตรีเสนอ
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
ปั๊มน้ำมันดูร้างและน่ากลัว
ไฟสลัวๆ ส่องกระทบผนังที่ลอกล่อน
ชาตรีลงจากรถไปดูปั้มน้ำมันใกล้ๆ
ชาตรีก็ได้กลิ่นแปลกๆเหมือนอะไรเน่า
ไม่เห็นพนักงานปั้ม เลย
เอกพูดขึ้น
ปั้มดูเก่ามาก
เหมือนปั้มร้าง
เมื่อพวกเขาเดินลงจากรถเข้าไปในปั๊มน้ำมัน
ชาตรีเดินนำหน้า
ขณะที่เมย์และเอกเดินตามมาติดๆ
"ที่นี่ดูเงียบเหงาจังเลยนะ"
เมย์เอ่ยขึ้นเสียงเบา
"อาจจะไม่มีคนอยู่ก็ได้"
เอ็มตอบพร้อมกับเหลือบตามองไปรอบๆ
เมื่อเข้ามาในตัวอาคารปั๊มน้ำมัน
พวกเขาก็พบว่าที่นี่เงียบราวกับไม่มีใครอยู่เลย
เครื่องเติมน้ำมันดูเก่าและเต็มไปด้วยฝุ่น
ตู้เย็นก็เปิดทิ้งไว้แต่ภายในกลับว่างเปล่า
"แปลกนะ ทำไมถึงไม่มีใครเลย"
ปวดฉี่จัง
เอ็มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินไปยังห้องน้ำ
...........
ตอนที่3
รอฉันด้วย
ชาตรีเดินตามเอ็มไปห้องน้ำ
เอกและเมย์ตัดสินใจรออยู่ที่รถและสำรวจรอบๆ
ขณะที่เอ็มและชาตรีเข้าไปในห้องน้ำ
บรรยากาศภายในปั้มนั้นเงียบน่าขนลุก
เสียงนาฬิกาติ๊กต๊อกดังก้องกังวานไปทั่วบริเวณ
เมย์ลองเดินไปดูตู้เย็นอีกครั้ง
สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับป้ายประกาศเก่าๆ
ที่ติดอยู่บนด้านหลังตู้เย็น
เป็นป้ายประกาศหายตัวของผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน
ขณะที่กำลังพิจารณาป้ายประกาศอยู่นั้น
เอกก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนออกมาจากห้องน้ำอย่างตกใจ
เอกและเมย์รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำด้วยความเป็นห่วงเอ็มและชาตรี
บรรยากาศภายในห้องน้ำมืดมิดและชื้นแฉะ
มีเพียงเสียงน้ำหยดติ๋งๆจากก๊อกน้ำที่เปิดทิ้งไว้
เอกและเมย์ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
เปิดไฟฉาย
แล้วค่อยๆ เดินไปข้างหน้า
แสงไฟจากโทรศัพท์ส่องไปทั่วห้องน้ำ
แต่ก็ไม่พบร่องรอยของเอ็มและชาตรีเลย
มีเพียงความมืดมิดและความเงียบ
ตอนนั้นเอง
อยู่ๆประตูห้องน้ำก็เปิดออกมา
และมีเสียงร้องไห้ออกมาจากด้านใน
เอกและเอ็มกลัวสุดขีดรีบวิ่งไปที่รถทันที
เมื่อพวกเขามาถึงรถ
ปรากฏว่าเอ็มและชาตรีนั่งรออยู่ในรถแล้ว
ทั้งสองคนดูงุนงง
"เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมพวกเธอวิ่งหนีออกมาจากห้องน้ำแบบนั้น?
" ชาตรีถามด้วยความสงสัย
เอกและเมย์ต่างตกใจและสับสน
"เราได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือจากในห้องน้ำ"
เอกอธิบายด้วยความงุนงง
"เอ็ม ชาตรี มาอยู่ที่รถได้ยังไง?
ฉันนึกว่าพวกเธอยังอยู่ในห้องน้ำซะอีก"
เมย์ถามด้วยเสียงสั่นเครือ
ทันใดนั้นก็มีคน เดินตรงมาที่รถ
เหมือนจะเป็นพนักงานปั้มน้ำมัน
...............
ตอนที่4
พวกเขาตัดสินใจขับรถออกจากปั้มทันที
โดยไม่สนใจพนักงานปั้มที่เดินมาหา
แต่เมื่อชาตรีพยายามสตาร์ทรถ
กลับพบว่ารถไม่ยอมติด
เสียงเครื่องยนต์ดังแค่ “แกร๊กๆ”
ไม่กี่ครั้งแล้วเงียบไป
ทุกคนเริ่มรู้สึกหวาดกลัวปั้มนี้
"ทำไมรถไม่ติดเลย!"
ชาตรีกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
"ลองใหม่อีกครั้งสิชาตรี!"
เมย์เสริมด้วยความกังวล
ชาตรีลองสตาร์ทรถอีกครั้ง
แต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม
โอ้ย ฉันจะบ้าตาย ชาตรีร้อง
ขณะที่พวกเขาพยายามหาวิธีแก้ไข
สายตาของเมย์กลับเหลือบไปเห็นพนักงานปั้มคนนั้น
ที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
ดวงตาของเขาเบิกโพลง
เหมือนตกใจสุดขีด
ผิวของเขาดูสว่างแปลกๆ
ราวกับว่ามีแสงส่องออกมาจากภายใน
"เราต้องทำยังไงดีเนี่ย?"
ชาตรีถามด้วยความหวาดกลัว
"
เราอาจจะต้องลงไปดูที่เครื่องยนต์หรืออะไรบางอย่าง"
เอ็มกล่าว
"ฉันไม่อยากออกไปจากรถเลย"
เมย์ตอบเสียงสั่น
ท่ามกลางความสับสนและหวาดกลัว
พวกเขาตัดสินใจลงไปดูที่เครื่องยนต์
หวังว่าจะหาสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด
แม้ว่าทุกคนจะรู้สึกกลัวและไม่อยากออกจากรถ
แต่ในสถานการณ์นี้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น
เอกเปิดฝากระโปรงรถ
และเริ่มตรวจสอบเครื่องยนต์
โดยใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์
เมย์และเอ็มยืนข้างๆ คอยให้กำลังใจ
เอกตรวจสอบสายไฟและชิ้นส่วนต่างๆ
แต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ
ขณะที่กำลังหาวิธีแก้ไข
เสียงทะเลาะกันระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง ก็ดังขึ้นจากปั้ม
"พวกเธอได้ยินเสียงนั่นไหม?" เมย์ถามอย่างกังวล
"ได้ยิน... ฟังเหมือนกัน"
เอ็มตอบ
ชาตรีที่ยืนดูอยู่ข้างๆ
เริ่มรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น
"รีบซ่อมให้เสร็จเร็วๆ เถอะ เราไม่ควรอยู่ที่นี่นานๆ"
ขณะที่เอกพยายามซ่อมเครื่องยนต์
เสียงทะเลาะนั้นกลับดังขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้น
พวกเขาพยายามไม่สนใจ
และให้ความสนใจกับการซ่อมเครื่องยนต์
ทันใดนั้นเอง
เอกก็พบว่าสายไฟที่เชื่อมต่อกับแบตเตอรี่หลุดออกมา
"เจอปัญหาแล้ว! สายไฟหลุดออกมา"
เอกพูดด้วยความโล่งใจ
"รีบต่อสายไฟกลับไปแล้วสตาร์ทรถเถอะ
" ชาตรีกล่าวอย่างรีบร้อน
เอกต่อสายไฟกลับไป
แล้วชาตรีก็ลองสตาร์ทรถอีกครั้ง
และครั้งนี้เครื่องยนต์ก็ติด
ทุกคนรู้สึกโล่งใจและรีบขึ้นรถทันที
ขณะที่พวกเขากำลังจะขับออกจากปั้ม
เสียงทะเลาะนั้นกลับดังขึ้นอีกครั้ง
เสียงผู้หญิงร้องตะโกนด่าทอผู้ชายด้วยน้ำเสียงที่เจ็บแค้น
"ฆ่ากูทำไม! ฆ่ากูทำไม!"
เสียงของเธอสะท้อนไปทั่วปั๊มน้ำมัน
ทำให้ทุกคนขนลุก
"เสียงของเธอ...
มันเหมือนกับเสียงที่เราได้ยินตอนแรกเลย
"
ชาตรีพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
"ใช่... มันเหมือนกันเป๊ะ"
ชาตรีขับรถออกจากปั้มอย่างรวดเร็ว
ในตอนเช้า
พวกเขาไปถามชาวบ้านแถวนั้นเกี่ยวกับปั้มน้ำมันที่เจอในคืนนั้น
"ปั้มน้ำมันเก่านั้นน่ะเหรอ?
" ชาวบ้านคนหนึ่งตอบ
"มันถูกปิดไปนานแล้ว
หลังจากมีเหตุการณ์คนตายที่นั่น
คนที่เจอก็มักจะเล่าว่าได้ยินเสียงทะเลาะกัน
และเห็นผีผู้หญิงโบกรถอยู่เรื่อยๆ
"โอ้ย นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอเรื่องแปลกๆ กับไอ้เอก"
มากับไอ้เอกทีไรเจอดีทุกที
ชาตรีพูดติดตลกพร้อมกับบ่น
"ดูเหมือนทุกอย่างจะต้องพังไม่เป็นท่าเมื่อมีไอ้เอกอยู่ด้วย
"
เอ็ม และ เมย์ หัวเราะเบาๆ
ขณะที่เอกยิ้มขำๆ
พร้อมพูดว่า
"อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ"
พวกเขารีบออกเดินทางไปยังโรงพยาบาลสกลนครต่อ
..................
"เรื่องราวของผีโบกรถที่ภูพานในวันนี้
เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความลึกลับที่ภูพาน
หากใครมีประสบการณ์เจอผี
หรือมีเรื่องราวลึกลับเกี่ยวกับภูพาน
อย่าลืมมาแชร์ให้พวกเราฟังกันนะครับ"
ผีโบกรถ ที่ สกลนคร
ชาตรี, เมย์, เอ็ม,และ เอก
พวกเขามีเหตุจำเป็นต้องขับรถไปที่สกลนครในช่วงตีสองตีสาม
เพราะเพื่อนของพวกเขาเกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรงและถูกนำตัวไปโรงพยาบาลในสกลนคร
พวกเขารู้สึกเป็นห่วงเพื่อนมาก
"เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
เมย์รีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมารับ
เมื่อได้ยินข่าวว่ามานีประสบอุบัติเหตุ
เมย์รู้สึกใจหาย
เธอรีบโทรหาเพื่อนๆ
เพื่อบอกข่าวร้ายและชวนกันไปเยี่ยมมานีที่โรงพยาบาล"
"ชาตรีอาสาขับรถ
เมื่อรับ เมย์
เอ็มขึ้นรถ แล้วก็เหลือเอก"
"ทางเข้าบ้านเอกต้องผ่านวัดร้างที่ดูน่ากลัว
เพราะบ้านเอกอยู่นา
"แสงจันทร์ส่องกระทบผนังวัดร้างที่ทรุดโทรม
เมย์รู้สึกขนลุกซู่เมื่อมองเห็นเงาต้นไม้เคลื่อนไหวผ่านหน้าต่างบานเก่า
ชาตรีหันมาเห็นสีหน้าตื่นตกใจของเมย์
"ไม่ต้องกลัวนะ เมย์ เรามีกันหลายคน"
ชาตรีและเอ็มพยายามสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลาย
แต่ลึกๆ แล้วต่างก็รู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน
พวกเขารีบเร่งเครื่องยนต์เพื่อออกจากบริเวณวัดร้างให้เร็วที่สุด
เมย์รู้สึกขนลุกซู่เมื่อมองกระจกหลังและเห็นเงาคล้ายคน
กำลังวิ่งตามมาติด ๆในความมืด
"เสียงเครื่องยนต์เร่งรัดดังกึกก้องตัดผ่านความเงียบสงัด
พวกเขาพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อรถค่อยๆ เคลื่อนออกจากบริเวณวัดร้างที่ดูน่ากลัว
ทุกอย่างดูเงียบเชียบ
เมื่อพ้นจากบริเวณวัดร้างมาได้แล้ว
"รถแล่นเข้าสู่ซอยเล็ก ๆ
บ้านเอกตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนาเขียวขจี
หลังคาบ้านมุงด้วยหญ้าคา
ดูเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น
ชาตรีมองดูกระท่อมเล็ก ๆ ของเอกแล้วนึกถึงความเรียบง่ายของชีวิต
บ้านหลังนี้อาจจะไม่หรูหรา
แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความรักและความอบอุ่น
ชาตรีคิดว่าชีวิตเราก็เหมือนกับบ้านหลังนี้
หากเรามีความสุขภายในใจ
บ้านหลังเล็ก ๆ ก็สามารถเป็นสวรรค์ได้"
ชาตรีเร่งเครื่องยนต์เพื่อมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลสกลนคร
เอ็มและเมย์หันไปยิ้มให้เอกที่เพิ่งขึ้นรถมา
บรรยากาศในก็ดูเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
ทั้ง4 คนเริ่มคุยกันเกี่ยวกับการไปเยี่ยมมานีที่สกลนคร
สกลนครเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
มีพื้นที่ใหญ่และประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน
สกลนครเป็นที่รู้จักกันดีในด้านวัฒนธรรม
และธรรมชาติที่สวยงาม
วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์
โดยเฉพาะวัฒนธรรมภูไท
และเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่เป็นที่ตั้งของ พระธาตุเชิงชุม
ซึ่งเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวสกลนคร
สิ่งที่น่าสนใจในสกลนครมีมากมาย
การเดินทางจากยโสธรไปสกลนคร
จะผ่านภูพานใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
ภูพาน เทือกเขาขนาดใหญ่มีความลึกลับ
ภูพานไม่ได้เป็นเพียงแค่เทือกเขาที่สวยงาม
แต่ยังซ่อนเรื่องราวลึกลับและความเชื่อที่น่าสนใจมากมาย
ไม่ว่าจะเคยเป็นฐานลับของกลุ่มคอมมิวนิสต์ในสมัยก่อน
ชาวบ้านเชื่อว่าใต้ภูพานมีเมืองบาดาลที่พญานาคอาศัยอยู่
และมีการพบเห็นปรากฏการณ์ประหลาดที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับพญานาค
เช่น แสงประหลาด
หรือเสียงดนตรีลึกลับ
ชาวบ้านบางคนเคยเจอแก้วเสด็จ
แก้วเสด็จ
เป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่ถูกกล่าวถึงในตำนาน
และความเชื่อของคนโบราณว่ามีพุทธคุณ
และอานุภาพทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม ป้องกันภัย
บางคนเจอผีกองกอยในป่าภูพาน
บางคนก็เข้าไปแล้วก็หายตัวไปอย่างลึกลับลือกันว่าถูกผีจับตัวไป
หรืออาจถูกกลุ่มคอมมุนิสต์ในสมัยก่อนหลงเหลืออยู่จับไป
................
ตอนที่2
รถยนต์ค่อยๆ ไต่ขึ้นเขาภูพาน เส้นทางคดเคี้ยวสองข้างทางนี้ก็มืดไปหมด
ยิ่งขับลึกเข้าไป
ความรู้สึกวังเวงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
มองไปก็มีแต่ไร่นา
นานๆจะมีรถสวนมา
เมย์หันไปกระซิบกับเอ็ม
"ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย"
เอ็มพยักหน้าเห็นด้วย
ในขณะที่ชาตรีพยายามตั้งสติ
ทันใดนั้น
ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนนิ่งราวกับรูปปั้นอยู่ข้างทาง
เหมือนจะเป็นชาวบ้านแถวนั้น
เมื่อรถเข้ามาใกล้ก็ยกมือโบกรถ
ดวงตาหญิงสาวนั้นเบิกกว้าง
มองมาที่พวกเขาด้วยสายตาที่น่ากลัว
ชาตรีตกใจมาก
คิดว่าไม่ใช่คนแน่ๆ
ชาตรีจำได้ว่าเคยได้ยินตำนานเล่าขาน
เกี่ยวกับผีที่หลอกล่อคนให้เข้าป่า
แล้วก็หายสาปสูญไป
เมื่อเห็นหญิงสาวคนนั้นยืนโบกรถอยู่ข้างทาง
ชาตรีก็อดคิดถึงตำนานเรื่องนั้นไม่ได้
เห็นไหมพวกเธอ
ชาตรีเอ่ยขึ้น
"เอ็มจำได้ไหมที่เราเคยเล่าเรื่องผีที่หลอกล่อคนเข้าป่า
แล้วก็หายตัวไป
"จำได้สิ แล้วเธอคิดว่า..."
"ฉันไม่แน่ใจว่าเธอคนนั้นจะเป็น..."
คงไม่ใช่หรอกน่า เอกปลอบเอ็ม
สักพัก
ก็ได้ยินเสียง พูดดังมาจากทางหลังรถว่า
ศพกูอยู่ตรงนี้
พวกเขาหันไปมองก็เห็นหญิงสาวคนนั้นเกาะท้ายรถ
ยิ้มให้พวกเขา
กรี๊ด
เมย์กรีดร้องออกมาด้วยความกลัว
ผีหลอก
เอ็ม
เอก ชาตรี
ตะโกนออกมาพร้อมกัน
......
บรรยากาศรอบข้างรู้สึกวังเวงและหนาวเย็น
อยู่ๆหมอกก็หนาขึ้นจนมองแทบไม่เห็นทางข้างหน้า
ชาตรีเห็นแสงไฟสลัวของปั๊มน้ำมันริมทาง
สักพักชาตรีก็เห็นปั้มน้ำมันข้างทาง
มีป้ายเขียนว่าเปิด ตลอด24ชั่วโมง
"แวะพักตรงนี้ก่อนไหม"
ชาตรีเสนอ
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
ปั๊มน้ำมันดูร้างและน่ากลัว
ไฟสลัวๆ ส่องกระทบผนังที่ลอกล่อน
ชาตรีลงจากรถไปดูปั้มน้ำมันใกล้ๆ
ชาตรีก็ได้กลิ่นแปลกๆเหมือนอะไรเน่า
ไม่เห็นพนักงานปั้ม เลย
เอกพูดขึ้น
ปั้มดูเก่ามาก
เหมือนปั้มร้าง
เมื่อพวกเขาเดินลงจากรถเข้าไปในปั๊มน้ำมัน
ชาตรีเดินนำหน้า
ขณะที่เมย์และเอกเดินตามมาติดๆ
"ที่นี่ดูเงียบเหงาจังเลยนะ"
เมย์เอ่ยขึ้นเสียงเบา
"อาจจะไม่มีคนอยู่ก็ได้"
เอ็มตอบพร้อมกับเหลือบตามองไปรอบๆ
เมื่อเข้ามาในตัวอาคารปั๊มน้ำมัน
พวกเขาก็พบว่าที่นี่เงียบราวกับไม่มีใครอยู่เลย
เครื่องเติมน้ำมันดูเก่าและเต็มไปด้วยฝุ่น
ตู้เย็นก็เปิดทิ้งไว้แต่ภายในกลับว่างเปล่า
"แปลกนะ ทำไมถึงไม่มีใครเลย"
ปวดฉี่จัง
เอ็มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินไปยังห้องน้ำ
...........
ตอนที่3
รอฉันด้วย
ชาตรีเดินตามเอ็มไปห้องน้ำ
เอกและเมย์ตัดสินใจรออยู่ที่รถและสำรวจรอบๆ
ขณะที่เอ็มและชาตรีเข้าไปในห้องน้ำ
บรรยากาศภายในปั้มนั้นเงียบน่าขนลุก
เสียงนาฬิกาติ๊กต๊อกดังก้องกังวานไปทั่วบริเวณ
เมย์ลองเดินไปดูตู้เย็นอีกครั้ง
สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับป้ายประกาศเก่าๆ
ที่ติดอยู่บนด้านหลังตู้เย็น
เป็นป้ายประกาศหายตัวของผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน
ขณะที่กำลังพิจารณาป้ายประกาศอยู่นั้น
เอกก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนออกมาจากห้องน้ำอย่างตกใจ
เอกและเมย์รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำด้วยความเป็นห่วงเอ็มและชาตรี
บรรยากาศภายในห้องน้ำมืดมิดและชื้นแฉะ
มีเพียงเสียงน้ำหยดติ๋งๆจากก๊อกน้ำที่เปิดทิ้งไว้
เอกและเมย์ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
เปิดไฟฉาย
แล้วค่อยๆ เดินไปข้างหน้า
แสงไฟจากโทรศัพท์ส่องไปทั่วห้องน้ำ
แต่ก็ไม่พบร่องรอยของเอ็มและชาตรีเลย
มีเพียงความมืดมิดและความเงียบ
ตอนนั้นเอง
อยู่ๆประตูห้องน้ำก็เปิดออกมา
และมีเสียงร้องไห้ออกมาจากด้านใน
เอกและเอ็มกลัวสุดขีดรีบวิ่งไปที่รถทันที
เมื่อพวกเขามาถึงรถ
ปรากฏว่าเอ็มและชาตรีนั่งรออยู่ในรถแล้ว
ทั้งสองคนดูงุนงง
"เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมพวกเธอวิ่งหนีออกมาจากห้องน้ำแบบนั้น?
" ชาตรีถามด้วยความสงสัย
เอกและเมย์ต่างตกใจและสับสน
"เราได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือจากในห้องน้ำ"
เอกอธิบายด้วยความงุนงง
"เอ็ม ชาตรี มาอยู่ที่รถได้ยังไง?
ฉันนึกว่าพวกเธอยังอยู่ในห้องน้ำซะอีก"
เมย์ถามด้วยเสียงสั่นเครือ
ทันใดนั้นก็มีคน เดินตรงมาที่รถ
เหมือนจะเป็นพนักงานปั้มน้ำมัน
...............
ตอนที่4
พวกเขาตัดสินใจขับรถออกจากปั้มทันที
โดยไม่สนใจพนักงานปั้มที่เดินมาหา
แต่เมื่อชาตรีพยายามสตาร์ทรถ
กลับพบว่ารถไม่ยอมติด
เสียงเครื่องยนต์ดังแค่ “แกร๊กๆ”
ไม่กี่ครั้งแล้วเงียบไป
ทุกคนเริ่มรู้สึกหวาดกลัวปั้มนี้
"ทำไมรถไม่ติดเลย!"
ชาตรีกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
"ลองใหม่อีกครั้งสิชาตรี!"
เมย์เสริมด้วยความกังวล
ชาตรีลองสตาร์ทรถอีกครั้ง
แต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม
โอ้ย ฉันจะบ้าตาย ชาตรีร้อง
ขณะที่พวกเขาพยายามหาวิธีแก้ไข
สายตาของเมย์กลับเหลือบไปเห็นพนักงานปั้มคนนั้น
ที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
ดวงตาของเขาเบิกโพลง
เหมือนตกใจสุดขีด
ผิวของเขาดูสว่างแปลกๆ
ราวกับว่ามีแสงส่องออกมาจากภายใน
"เราต้องทำยังไงดีเนี่ย?"
ชาตรีถามด้วยความหวาดกลัว
"
เราอาจจะต้องลงไปดูที่เครื่องยนต์หรืออะไรบางอย่าง"
เอ็มกล่าว
"ฉันไม่อยากออกไปจากรถเลย"
เมย์ตอบเสียงสั่น
ท่ามกลางความสับสนและหวาดกลัว
พวกเขาตัดสินใจลงไปดูที่เครื่องยนต์
หวังว่าจะหาสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด
แม้ว่าทุกคนจะรู้สึกกลัวและไม่อยากออกจากรถ
แต่ในสถานการณ์นี้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น
เอกเปิดฝากระโปรงรถ
และเริ่มตรวจสอบเครื่องยนต์
โดยใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์
เมย์และเอ็มยืนข้างๆ คอยให้กำลังใจ
เอกตรวจสอบสายไฟและชิ้นส่วนต่างๆ
แต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ
ขณะที่กำลังหาวิธีแก้ไข
เสียงทะเลาะกันระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง ก็ดังขึ้นจากปั้ม
"พวกเธอได้ยินเสียงนั่นไหม?" เมย์ถามอย่างกังวล
"ได้ยิน... ฟังเหมือนกัน"
เอ็มตอบ
ชาตรีที่ยืนดูอยู่ข้างๆ
เริ่มรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น
"รีบซ่อมให้เสร็จเร็วๆ เถอะ เราไม่ควรอยู่ที่นี่นานๆ"
ขณะที่เอกพยายามซ่อมเครื่องยนต์
เสียงทะเลาะนั้นกลับดังขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้น
พวกเขาพยายามไม่สนใจ
และให้ความสนใจกับการซ่อมเครื่องยนต์
ทันใดนั้นเอง
เอกก็พบว่าสายไฟที่เชื่อมต่อกับแบตเตอรี่หลุดออกมา
"เจอปัญหาแล้ว! สายไฟหลุดออกมา"
เอกพูดด้วยความโล่งใจ
"รีบต่อสายไฟกลับไปแล้วสตาร์ทรถเถอะ
" ชาตรีกล่าวอย่างรีบร้อน
เอกต่อสายไฟกลับไป
แล้วชาตรีก็ลองสตาร์ทรถอีกครั้ง
และครั้งนี้เครื่องยนต์ก็ติด
ทุกคนรู้สึกโล่งใจและรีบขึ้นรถทันที
ขณะที่พวกเขากำลังจะขับออกจากปั้ม
เสียงทะเลาะนั้นกลับดังขึ้นอีกครั้ง
เสียงผู้หญิงร้องตะโกนด่าทอผู้ชายด้วยน้ำเสียงที่เจ็บแค้น
"ฆ่ากูทำไม! ฆ่ากูทำไม!"
เสียงของเธอสะท้อนไปทั่วปั๊มน้ำมัน
ทำให้ทุกคนขนลุก
"เสียงของเธอ...
มันเหมือนกับเสียงที่เราได้ยินตอนแรกเลย
"
ชาตรีพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
"ใช่... มันเหมือนกันเป๊ะ"
ชาตรีขับรถออกจากปั้มอย่างรวดเร็ว
ในตอนเช้า
พวกเขาไปถามชาวบ้านแถวนั้นเกี่ยวกับปั้มน้ำมันที่เจอในคืนนั้น
"ปั้มน้ำมันเก่านั้นน่ะเหรอ?
" ชาวบ้านคนหนึ่งตอบ
"มันถูกปิดไปนานแล้ว
หลังจากมีเหตุการณ์คนตายที่นั่น
คนที่เจอก็มักจะเล่าว่าได้ยินเสียงทะเลาะกัน
และเห็นผีผู้หญิงโบกรถอยู่เรื่อยๆ
"โอ้ย นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอเรื่องแปลกๆ กับไอ้เอก"
มากับไอ้เอกทีไรเจอดีทุกที
ชาตรีพูดติดตลกพร้อมกับบ่น
"ดูเหมือนทุกอย่างจะต้องพังไม่เป็นท่าเมื่อมีไอ้เอกอยู่ด้วย
"
เอ็ม และ เมย์ หัวเราะเบาๆ
ขณะที่เอกยิ้มขำๆ
พร้อมพูดว่า
"อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ"
พวกเขารีบออกเดินทางไปยังโรงพยาบาลสกลนครต่อ
..................
"เรื่องราวของผีโบกรถที่ภูพานในวันนี้
เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความลึกลับที่ภูพาน
หากใครมีประสบการณ์เจอผี
หรือมีเรื่องราวลึกลับเกี่ยวกับภูพาน
อย่าลืมมาแชร์ให้พวกเราฟังกันนะครับ"