กองทัพอากาศไทย เลือกจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ “กริพเพน” JAS 39 Gripen E/F ให้เข้าบรรจุในฝูงบินขับไล่โจมตีฝูงใหม่ เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่ F-16 A/B ณ ฝูงบิน 102 กองบิน 1 ซึ่งบรรจุประจำการ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 เป็นเวลามากกว่า 36 ปีแล้ว
จากกระแสข่าวบริษัท Saab สวีเดน ได้มีข้อเสนอสุดพิเศษยากที่จะปฎิเสธ ด้วยการแถมขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ Meteor แบบ BVR ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ Meteor ที่มีความสามารถในการติดตามและทำลายเป้าหมายในระยะไกลมากกว่า 200 กิโลเมตร โดยเครื่องบินขับไล่ JAS 39 Gripen E สามารถบรรทุกได้สูงสุดมากถึง 7 ลูก
ล่าสุดได้มีการเปิดผยจาก พี่เล็ก วาสนา นักข่าวสายทหาร วงในที่สุดแล้วในประเทศไทย (แหล่งข่าวน่าจะมาจากดาวสามดวง) ยืนยันว่าบริษัท Saab ได้เสนอขีปนาวุธ Meteor ชัวร์ 100 % ซึ่งอยู่ในข้อเสนอที่ยื่นให้กับกองทัพอากาศไทย
โดยจะทำเป็นลายลักษณ์อักษรและระบุไว้ในสัญญาจัดซื้อต่อไป เหตุที่กองทัพอากาศไทยไม่อยากเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะบริษัท Saab สวีเดนมีแผนจะขายเครื่องบิน Gripen E/F ให้กับประเทศอื่นอีกหลายประเทศ ถ้าข่าวอย่างเป็นทางการจากกองทัพอากาศเผยแพร่ออกไปว่ามีการแถมขีปนาวุธ Meteor ให้กับไทย จะเป็นที่เอาเยี่ยงอย่างกับประเทศอื่น ที่กำลังเป็นคู่เจรจากับทางบริษัท Saab (คาดว่า ฟิลิปปินส์และอินเดีย) ก็จะมาขอแถมขีปนาวุธ Meteor เหมือนกองทัพอากาศไทย ซึ่งจะทำให้เป็นปัญหาใหญ่กับบริษัท Saab ที่จะได้กำไรน้อยลง
กรณีของประเทศไทย บริษัท Saab ได้ลงทุนมาก ยอมได้กำไรน้อยนิด ในการแถมลูกขีปนาวุธ Meteor เพราะมีการเดิมพันสูง โดยต้องการเอาชนะ F-16 Block 70 ของฝั่งสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ถ้าหากกองทัพอากาศไทยเลือก Jas 39 Gripen E/F มีโอกาสก้าวต่อไปที่จะเกิดกริพเพนฝูงที่ 3 ฝูงที่ 4 ในอนาคต เพราะว่าบริษัท Saab ได้วางระบบ Link-T ที่จะให้ลิขสิทธิ์ขาดกับกองทัพไทย รวมทั้งระบบ Network Centric Warfare และระบบต่างๆ ซึ่ง Saab ต้องยอมลงทุนแถมขีปนาวุธ Meteor เพื่อมัดใจกองทัพอากาศไทยให้อยู่มัด
แหล่งข่าวจากกองทัพอากาศไทย ยืนยันว่าบริษัท Saab แถมขีปนาวุธ Meteor 100 % แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าให้ได้ทั้งหมดกี่ลูก เพราะจะเป็นประเด็น และกระทบต่อเรื่องความลับทางยุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศ (คาดว่า 1 ลำต่อ 2 ลูก ลองไปคำนวณกันเอง)
การที่แหล่งข่าวกองทัพอากาศยืนยันว่า บริษัท Saab แถมขีปนาวุธ Meteor เป็นการตบหน้าทหารคีย์บอร์ดฉาดใหญ่ ก่อนหน้านี้ในสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งใน Facebook , Youtube เหล่าทหารคีย์บอร์ดแห่งโลกอินเตอร์เน็ต ระดับผู้บัญชาการคีย์บอร์ด เสนาธิการทหารคีย์บอร์ด ต่างวิพากษ์วิจารณ์ด้อยค่าไทยกันเองว่า ยุโรปไม่ขายขีปนาวุธ Meteor ให้ไทย หรือแม้กระทั่งด้อยค่าเครื่องบิน Gripen ว่าเป็นเครื่องบินจดประกอบ ชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดมาจากสหรัฐอเมริกา สวีเดนผลิตชิ้นส่วนเองไม่ได้ , เครื่องบิน Gripen ใช้ขีปนาวุธ Meteor ไม่ได้จริง พวกนี้ชอบนั่งเทียนมโนจินตนาการโดยปราศจากข้อเท็จจริง ซึ่งความเป็นจริงแล้วทุกครั้งที่มีการจัดงาน Defense and Security ทางบริษัท MBDA เสนอขายขีปนาวุธ Meteor ให้กองทัพอากาศไทยทุกครั้ง แต่เหตุผลที่กองทัพอากาศไทยยังไม่ซื้อเพราะ ราคาสูง พูดภาษาชาวบ้านง่ายๆคือไม่มีตังค์ซื้อ
สำหรับจรวดอากาศสู่อากาศพิสัยกลางแบบ Meteor นั้นเป็นจรวดที่มีประสิทธิภาพสูงมากที่สุดแบบหนึ่งของโลก มีค่าความเป็นไปได้ในการยิงถูกข้าศึกสูงที่สุดแบบหนึ่ง เนื่องจากจรวดใช้เครื่องยนต์ Ramjet Meteor เป็นจรวดอากาศสู่อากาศที่ทันสมัยที่สุดในโลกและมีระบบขับเคลื่อน ramjet ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยให้มันบินได้ไกลกว่าและเร็วกว่าจรวดอากาศสู่อากาศอื่น ๆ แทนการใช้เชื้อเพลิงแข็งแบบจรวดทั่วไปที่มักจะเผาไหม้หมดภายในเวลาอันรวดเร็วและจรวดต้องพึ่งพลังงานจลน์ในการเคลื่อนที่เข้าหาเป้าหมาย รวมถึง No Escape Zone ที่แม่นยำและระยะที่มากกว่ารุ่นอื่นๆ พร้อมกับระบบ Datalink ระหว่างตัวจรวดและตัวอากาศยานที่ยิงเพื่อทำให้อากาศยานที่ยิงสามารถปรับปรุงเป้าหมายให้เป็นปัจจุบันที่สุด ด้วยขีดความสามารถของ Meteor นี้ Gripen สามารถโจมตีเป้าหมายระยะยิงที่ไกลทำให้อากาศยานที่ยิงปลอดภัยจากการโจมตีตอบโต้ของอากาศยานข้าศึก โดยที่มีความเสี่ยงน้อยต่อนักบินของเรา นี่ไม่ใช่เพียงเพราะสมรรถนะทางจลนศาสตร์ที่เหนือกว่าเท่านั้น ยังเพราะอาวุธปล่อยนำวิถีมีพื้นที่เป้าหมายที่ไม่สามารถหลบหนี(no escape zone)ได้เหนือกว่าด้วย
จรวดอากาศสู่อากาศพิสัยกลางแบบ Meteor สามารถติดตั้งกับเครื่องบิน JAS 39 Gripen C / D / E ของบริษัท Saab สวีเดน
เทียบกับจรวดอากาศสู่อากาศพิสัยกลางขั้นสูง (AMRAAM) แบบ AIM-120C-8 เป็นที่รู้จักแพร่หลายในชื่ออาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120D อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศรุ่นใหม่ล่าสุดจากสหรัฐอเมริกา โดย AIM-120C-8 ยังคงใช้ motor จรวดขับเคลื่อนเชื้อเพลิงแข็งเช่นเดียวกับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120C-5 และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120C-7 รุ่นก่อนหน้า
แต่มีการเพิ่มพูนขีดความสามารถการครอบคลุมพื้นที่สังหารเป้าหมายโดยไม่มีทางหลบหนีได้(no-escape envelope) และการเล็งเป้าหมายมุมสูง(high-angle off-boresight) มากกว่ารุ่นก่อนหน้า
ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พิจารณาอนุมัติการขาย AIM-120C-8 อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลางขั้นสูง (AMRAAM) จำนวน 250 นัด ขีปนาวุธฝึกจำนวน 6 นัด และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้กับรัฐบาลสวีเดนในราคาประมาณ 605 ล้านดอลลาร์ วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2566
จรวดอากาศสู่อากาศพิสัยกลางขั้นสูง (AMRAAM) แบบ AIM-120C-8 สามารถติดตั้งกับเครื่องบิน JAS 39 Gripen C / D / E ของบริษัท Saab สวีเดน
อ้างอิง
ความเข้าใจผิดๆ ! JAS 39 Gripen E/F เครื่องบินจดประกอบ ชิ้นส่วนมาจากสหรัฐอเมริกา สวีเดนผลิตชิ้นส่วนเองไม่ได้
https://pantip.com/topic/42581780




แถมฟรี จรวด Meteor ! สวีเดนจัดโปรเดือดซื้อ Jas 39 Gripen E/F แถมจรวดสุดไฮเทค หักปากกาเซียนทหารคีย์บอร์ดที่บอกไม่แถม
กองทัพอากาศไทย เลือกจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ “กริพเพน” JAS 39 Gripen E/F ให้เข้าบรรจุในฝูงบินขับไล่โจมตีฝูงใหม่ เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่ F-16 A/B ณ ฝูงบิน 102 กองบิน 1 ซึ่งบรรจุประจำการ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 เป็นเวลามากกว่า 36 ปีแล้ว
จากกระแสข่าวบริษัท Saab สวีเดน ได้มีข้อเสนอสุดพิเศษยากที่จะปฎิเสธ ด้วยการแถมขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ Meteor แบบ BVR ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ Meteor ที่มีความสามารถในการติดตามและทำลายเป้าหมายในระยะไกลมากกว่า 200 กิโลเมตร โดยเครื่องบินขับไล่ JAS 39 Gripen E สามารถบรรทุกได้สูงสุดมากถึง 7 ลูก
ล่าสุดได้มีการเปิดผยจาก พี่เล็ก วาสนา นักข่าวสายทหาร วงในที่สุดแล้วในประเทศไทย (แหล่งข่าวน่าจะมาจากดาวสามดวง) ยืนยันว่าบริษัท Saab ได้เสนอขีปนาวุธ Meteor ชัวร์ 100 % ซึ่งอยู่ในข้อเสนอที่ยื่นให้กับกองทัพอากาศไทย โดยจะทำเป็นลายลักษณ์อักษรและระบุไว้ในสัญญาจัดซื้อต่อไป เหตุที่กองทัพอากาศไทยไม่อยากเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะบริษัท Saab สวีเดนมีแผนจะขายเครื่องบิน Gripen E/F ให้กับประเทศอื่นอีกหลายประเทศ ถ้าข่าวอย่างเป็นทางการจากกองทัพอากาศเผยแพร่ออกไปว่ามีการแถมขีปนาวุธ Meteor ให้กับไทย จะเป็นที่เอาเยี่ยงอย่างกับประเทศอื่น ที่กำลังเป็นคู่เจรจากับทางบริษัท Saab (คาดว่า ฟิลิปปินส์และอินเดีย) ก็จะมาขอแถมขีปนาวุธ Meteor เหมือนกองทัพอากาศไทย ซึ่งจะทำให้เป็นปัญหาใหญ่กับบริษัท Saab ที่จะได้กำไรน้อยลง
กรณีของประเทศไทย บริษัท Saab ได้ลงทุนมาก ยอมได้กำไรน้อยนิด ในการแถมลูกขีปนาวุธ Meteor เพราะมีการเดิมพันสูง โดยต้องการเอาชนะ F-16 Block 70 ของฝั่งสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ถ้าหากกองทัพอากาศไทยเลือก Jas 39 Gripen E/F มีโอกาสก้าวต่อไปที่จะเกิดกริพเพนฝูงที่ 3 ฝูงที่ 4 ในอนาคต เพราะว่าบริษัท Saab ได้วางระบบ Link-T ที่จะให้ลิขสิทธิ์ขาดกับกองทัพไทย รวมทั้งระบบ Network Centric Warfare และระบบต่างๆ ซึ่ง Saab ต้องยอมลงทุนแถมขีปนาวุธ Meteor เพื่อมัดใจกองทัพอากาศไทยให้อยู่มัด
แหล่งข่าวจากกองทัพอากาศไทย ยืนยันว่าบริษัท Saab แถมขีปนาวุธ Meteor 100 % แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าให้ได้ทั้งหมดกี่ลูก เพราะจะเป็นประเด็น และกระทบต่อเรื่องความลับทางยุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศ (คาดว่า 1 ลำต่อ 2 ลูก ลองไปคำนวณกันเอง)
การที่แหล่งข่าวกองทัพอากาศยืนยันว่า บริษัท Saab แถมขีปนาวุธ Meteor เป็นการตบหน้าทหารคีย์บอร์ดฉาดใหญ่ ก่อนหน้านี้ในสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งใน Facebook , Youtube เหล่าทหารคีย์บอร์ดแห่งโลกอินเตอร์เน็ต ระดับผู้บัญชาการคีย์บอร์ด เสนาธิการทหารคีย์บอร์ด ต่างวิพากษ์วิจารณ์ด้อยค่าไทยกันเองว่า ยุโรปไม่ขายขีปนาวุธ Meteor ให้ไทย หรือแม้กระทั่งด้อยค่าเครื่องบิน Gripen ว่าเป็นเครื่องบินจดประกอบ ชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดมาจากสหรัฐอเมริกา สวีเดนผลิตชิ้นส่วนเองไม่ได้ , เครื่องบิน Gripen ใช้ขีปนาวุธ Meteor ไม่ได้จริง พวกนี้ชอบนั่งเทียนมโนจินตนาการโดยปราศจากข้อเท็จจริง ซึ่งความเป็นจริงแล้วทุกครั้งที่มีการจัดงาน Defense and Security ทางบริษัท MBDA เสนอขายขีปนาวุธ Meteor ให้กองทัพอากาศไทยทุกครั้ง แต่เหตุผลที่กองทัพอากาศไทยยังไม่ซื้อเพราะ ราคาสูง พูดภาษาชาวบ้านง่ายๆคือไม่มีตังค์ซื้อ
สำหรับจรวดอากาศสู่อากาศพิสัยกลางแบบ Meteor นั้นเป็นจรวดที่มีประสิทธิภาพสูงมากที่สุดแบบหนึ่งของโลก มีค่าความเป็นไปได้ในการยิงถูกข้าศึกสูงที่สุดแบบหนึ่ง เนื่องจากจรวดใช้เครื่องยนต์ Ramjet Meteor เป็นจรวดอากาศสู่อากาศที่ทันสมัยที่สุดในโลกและมีระบบขับเคลื่อน ramjet ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยให้มันบินได้ไกลกว่าและเร็วกว่าจรวดอากาศสู่อากาศอื่น ๆ แทนการใช้เชื้อเพลิงแข็งแบบจรวดทั่วไปที่มักจะเผาไหม้หมดภายในเวลาอันรวดเร็วและจรวดต้องพึ่งพลังงานจลน์ในการเคลื่อนที่เข้าหาเป้าหมาย รวมถึง No Escape Zone ที่แม่นยำและระยะที่มากกว่ารุ่นอื่นๆ พร้อมกับระบบ Datalink ระหว่างตัวจรวดและตัวอากาศยานที่ยิงเพื่อทำให้อากาศยานที่ยิงสามารถปรับปรุงเป้าหมายให้เป็นปัจจุบันที่สุด ด้วยขีดความสามารถของ Meteor นี้ Gripen สามารถโจมตีเป้าหมายระยะยิงที่ไกลทำให้อากาศยานที่ยิงปลอดภัยจากการโจมตีตอบโต้ของอากาศยานข้าศึก โดยที่มีความเสี่ยงน้อยต่อนักบินของเรา นี่ไม่ใช่เพียงเพราะสมรรถนะทางจลนศาสตร์ที่เหนือกว่าเท่านั้น ยังเพราะอาวุธปล่อยนำวิถีมีพื้นที่เป้าหมายที่ไม่สามารถหลบหนี(no escape zone)ได้เหนือกว่าด้วย
จรวดอากาศสู่อากาศพิสัยกลางแบบ Meteor สามารถติดตั้งกับเครื่องบิน JAS 39 Gripen C / D / E ของบริษัท Saab สวีเดน
เทียบกับจรวดอากาศสู่อากาศพิสัยกลางขั้นสูง (AMRAAM) แบบ AIM-120C-8 เป็นที่รู้จักแพร่หลายในชื่ออาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120D อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศรุ่นใหม่ล่าสุดจากสหรัฐอเมริกา โดย AIM-120C-8 ยังคงใช้ motor จรวดขับเคลื่อนเชื้อเพลิงแข็งเช่นเดียวกับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120C-5 และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120C-7 รุ่นก่อนหน้า
แต่มีการเพิ่มพูนขีดความสามารถการครอบคลุมพื้นที่สังหารเป้าหมายโดยไม่มีทางหลบหนีได้(no-escape envelope) และการเล็งเป้าหมายมุมสูง(high-angle off-boresight) มากกว่ารุ่นก่อนหน้า
ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พิจารณาอนุมัติการขาย AIM-120C-8 อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลางขั้นสูง (AMRAAM) จำนวน 250 นัด ขีปนาวุธฝึกจำนวน 6 นัด และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้กับรัฐบาลสวีเดนในราคาประมาณ 605 ล้านดอลลาร์ วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2566
จรวดอากาศสู่อากาศพิสัยกลางขั้นสูง (AMRAAM) แบบ AIM-120C-8 สามารถติดตั้งกับเครื่องบิน JAS 39 Gripen C / D / E ของบริษัท Saab สวีเดน
อ้างอิง
ความเข้าใจผิดๆ ! JAS 39 Gripen E/F เครื่องบินจดประกอบ ชิ้นส่วนมาจากสหรัฐอเมริกา สวีเดนผลิตชิ้นส่วนเองไม่ได้
https://pantip.com/topic/42581780