“ณัฐพงษ์” ขนสส.ลงพื้นที่น้ำท่วมให้กำลังใจชาวเชียงราย
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_765753/
“ณัฐพงษ์” ขนสส.พรรคประชาชน ลงพื้นที่สำรวจน้ำท่วมให้กำลังใจชาวเชียงราย พบชาวบ้านกังวล สร้างเขื่อนปากแบงกั้นโขง
พรรคประชาชนลงพื้นที่สำรวจน้ำท่วม อ.เวียงแก่น อ.ขุนตาล และ อ.เทิง จ.เชียงราย นำโดยนาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นาง
จุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม สส.เชียงราย โดยสถานการณ์น้ำใน จ.เชียงราย ยังคงน่าเป็นห่วง มีฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำป่าไหลหลาก หลายพื้นที่มีน้ำท่วมสูง และน้ำกำลังเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ นายนาย
ณัฐพงษ์ พร้อม สส.เชียงราย ลงพื้นที่เพื่อสำรวจสถานการณ์น้ำและให้กำลังประชาชนที่ประสบอุทกภัย จุดแรกได้เดินทางไปที่ อ.เวียงแก่น หลังจากนั้น ได้เดินทางไปยังบ้านป่าข่า อ.ขุนตาล และ อ.เทิง
นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ชาวบ้านที่ได้พูดคุยด้วย บอกว่า ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเห็นครั้งนี้น้ำแรงที่สุด ตอนไป อ.เวียงแก่น เห็นสภาพที่น้ำเริ่มลดแล้วแต่โคลนก็ยังเยอะอยู่ และเทศบาลและประชาชนมาช่วยกันทำความสะอาดนอกจากเดินทางมาให้กำลังใจแล้วยังสอบถามประชาชนว่าหากมีอะไรขาดเหลืออยากให้ สส. ช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็พร้อมดำเนินการ ขณะเดียวกันการเดินทางมาที่ อ.ขุนตาล พบว่า มีสะพานข้ามลำห้วยถูกน้ำซัดขาดคิดว่าหากรัฐบาลพอจะจัดสรรงบกลาง หรืองบภัยพิบัติมาช่วยเหลือซ่อมแซมสะพานก็เป็นการแก้ไขเบื้องต้น
ส่วนภัยพิบัติอุทกภัยในเมืองไทยมีมาอย่างยาวนาน จะมีแนวทางแก้ปัญหาแบบยั่งยืนอย่างไร นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า การจัดสรรงบประมาณสำหรับการป้องกันนั้นสำคัญที่สุด ตนเองเป็นกรรมาธิการติดตามงบประมาณเห็นว่าใช้เพียงงบกลางแก้ปัญหาเป็นครั้งๆ วันก่อนสส. ก็เพิ่งอภิปรายเรื่องเขื่อนน้ำคำ เพื่อให้บริหารจัดการน้ำ
ขณะลุ่มน้ำโขงและลำน้ำสาขาที่อาศัยธรรมชาติร่วมกัน แต่สถานการณ์กลับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จะแก้ไขอย่างไร นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ประเด็นลุ่มน้ำโขงนั้นใช้ร่วมกัน ต้องร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน มีคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยฯ ที่ลงมาดูและขับเคลื่อนเรื่องนี้
นาย
ณัฐพงษ์ ยังกล่าวว่าในฐานะที่อยู่พรรคฝ่ายค้าน จะใช้กลไกที่มีอยู่ ทั้ง กมธ. ต่างๆ มาลงพื้นที่ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนให้เยอะที่สุด ให้ความเชื่อมั่นว่าเสียงจากชาวบ้านจะมีความหมาย และนำไปสะท้อนให้มีการแก้ไขปรับปรุง
ด้านนาง
จุฬาลักษณ์ สส.เชียงราย กล่าววว่า กรณีที่มีชาวบ้านร้องเรียนเรื่องโครงการเขื่อนปากแบง ที่จะสร้างกั้นแม่น้ำโขง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบข้ามพรมแดนต่อชุมชนใน อ.เวียงแก่นนั้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กมธ. ความมั่นคงฯ ได้มาลงพื้นที่ และชาวบ้าน อ.เชียงของ อ.เวียงแก่น ได้พูดเรื่องผลกระทบข้ามพรมแดนจากน้ำเท้อ ระบบนิเวศที่จะเสียหาย พันธุ์ปลาและการประมงซึ่งกมธ.ก็ติดตามใกล้ชิดว่านโยบายของรัฐบาลจะเป็นอย่างไรต่อไป ได้รับฟังจากท้องถิ่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ภาคเอกชน และมูลนิธิต่างๆ ก็มีการเล่าถึงสภาพปัญหาและผลกระทบ ซึ่งประชาชนไม่ได้ต้องการการเยียวยาแต่ต้องการไม่ให้เกิด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบเสียหายเกิดขึ้น
“ธนาธร” เผยจุดเริ่มต้นงานการเมือง มาจากรั้วมหาวิทยาลัย จนเข้าใจความเหลื่อมล้ำ
https://www.thairath.co.th/news/politic/2810169
“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” บรรยายงานพบนักศึกษาใหม่ มธ. เผยที่มาเบื้องหลังความคิดการเมือง จากการทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัย จนเห็นความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย ฝากข้อคิดนักศึกษาใหม่ใช้ชีวิตเรียนรู้โลกให้กว้างที่สุด
วันที่ 23 สิงหาคม 2567 ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานมูลนิธิคณะก้าวหน้า รับเชิญเป็นผู้บรรยายในงานพบเพื่อนใหม่ของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ “
TPC First Meet 2024” ร่วมเวทีพร้อมกับ นายวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล และ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี ในหัวข้อ “หนทางพิชิตชีวิตมหาวิทยาลัย”
โดยเนื้อหาของการบรรยายครั้งนี้เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์และข้อคิดจากการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย โดยนาย
ธนาธรระบุว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คือสถานที่ที่ความสนใจปัญหาสังคมและความเหลื่อมล้ำของตนถูกบ่มเพาะและเติบโต ผ่านการทำกิจกรรมทั้งค่ายอาสาต่างๆ รวมทั้งการได้ทำกิจกรรมในองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) และสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ซึ่งเป็นองค์กรทางการเมืองของนิสิตนักศึกษาที่เรียกร้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรมให้กับประชาชนที่ได้รับปัญหาต่างๆ ทำให้เราซึมซับความถูกผิด เข้าใจในความอยุติธรรมและความเหลื่อมล้ำ
บรรยากาศการใช้ชีวิตของตนในมหาวิทยาลัยให้น้ำหนักไปกับเพื่อนและกิจกรรมทางสังคมเป็นส่วนใหญ่ แต่ให้น้ำหนักกับการศึกษาน้อยมาก ผ่านเวลามา 20 กว่าปีเมื่อมองย้อนกลับไปแล้วตนก็ได้ข้อคิดกับตัวเองว่าการแสวงหาความเป็นเลิศทางวิชาการพร้อมกับการทำกิจกรรมร่วมกันเป็นไปได้ ไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง มองย้อนไปก็เสียดายมากว่าวันนั้นถ้าตนตั้งใจเรียนกว่านี้ วันนี้จะทำงานได้ดีกว่านี้
...
นาย
ธนาธร กล่าวต่อไปว่าทุกคนในฐานะปัจเจกมีพลังและศักยภาพที่จะสร้างสรรค์โลกที่ดีและน่าอยู่กว่านี้อยู่ในตัวเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาหรือใครก็มีศักยภาพนั้นอยู่ ตอนที่ตนเริ่มเข้ามาทำงาน อมธ. ตนไม่มีแม้กระทั่งทักษะในการพูดที่สาธารณะ เป็นเด็กค่าเฉลี่ยที่แค่พอทำได้ตามค่าเฉลี่ยในทุกเรื่อง แต่พอได้เริ่มมาทำกิจกรรมก็ได้เปิดโลกทัศน์ตัวเองออก สร้างเสริมศักยภาพในตัวเรา จนติดตัวเรามาเอาไปใช้ในงานทั้งด้านธุรกิจและงานด้านสังคมจนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าบทบาทไหนเราทุกคนต่างมีพลังและศักยภาพในการส่งโลกที่ดีกว่านี้ให้กับคนรุ่นต่อไปได้
ก่อนเข้าธรรมศาสตร์โลกของตนแคบมาก แค่ 20 ตารางกิโลเมตรรอบ ถ.สุขุมวิท เพชรบุรี พระรามสี่ พญาไท จนกระทั่งได้ไปค่ายอาสาพัฒนาชนบทครั้งแรก ตนตกใจมากว่าทำไมสังคมไทยอนุญาตให้มีความเหลื่อมล้ำขนาดนี้ ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้ตนได้ตระหนักว่ายังมีความอยุติธรรมอยู่มากขนาดไหน จากจุดนั้นตนถึงเริ่มตั้งคำถามกับระบบระเบียบสังคม ว่าเรายังมีทางเลือกอื่นหรือไม่ในการพัฒนาประเทศที่ดีกว่านี้
ในช่วงท้ายของการบรรยาย นายธนาธรได้ฝากข้อคิดถึงการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย โดยระบุว่าในช่วงชีวิตของการเป็นนักศึกษานี้ ตนแนะนำให้ทุกคนออกไปทำสิ่งที่ไม่เคยทำ เดินทางไปที่ที่ไม่เคยไป อ่านหนังสือเล่มที่ไม่เคยอ่าน คบเพื่อนต่างเพศ ต่างวัย ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา ต่างศรัทธา ไม่มีอะไรทำก็ไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัด ไปดูวิถีชีวิตของเขาว่าเติบโตมาต่างจากเราอย่างไร
“
การเก็บประสบการณ์แบบนี้จะทำให้เราค้นหาตัวเองได้ ทำให้คอมฟอร์ทโซนของเรากว้างขึ้น เห็นโลกมากขึ้น เข้าใจความคิดของผู้คนที่ต่างไปมากขึ้น ทำให้เรามีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ซึ่งเป็นพื้นฐานในการรักษาความเป็นมนุษย์ภายในตัวของเราเอาไว้ได้ ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง เชื่อมั่นในศักยภาพของเราเอง อยากให้ทุกคนเชื่อในศักยภาพของตัวเองและเดินหน้าใช้ชีวิตด้วยความหวัง” นาย
ธนาธรกล่าว
โบกมือลาอีกราย! Food Republic เปิดให้บริการสาขาสุดท้าย ถึง 22 พ.ย.นี้
https://www.matichon.co.th/social/news_4752782
โบกมือลาอีกราย! Food Republic เปิดให้บริการสาขาสุดท้าย ถึง 22 พ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก Food Republic (Thailand) ได้โพสต์ประกาศปิด Foodrepublic และจะให้บริการวันสุดท้าย วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567
โดยระบุข้อความว่า
“
Foodrepublic เปิดให้บริการวันสุดท้าย วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ขอบคุณลูกค้าผู้มีอุปการคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
ลูกค้าสามารถนำบัตรรับประทานอาหารมาแลกคืนได้จนถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เวลา 21:30 น.”
อย่างไรก็ตาม Food Republic Thailand หรือฟู้ดรีพับลิค ผู้ให้บริการฟู้ดคอร์ตชื่อดังจากประเทศสิงคโปร์ ที่ถือเป็นศูนย์อาหารที่โด่งดังระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ โมเดิร์น แบล็ก แอนด์ ไวท์ (Modern Black and White) ซึ่งรวมร้านค้า 20 ร้าน
ทั้งนี้ ฟู้ดรีพับลิคที่สาขาไอคอนสยาม ก็เพิ่งปิดตัวไปเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา และสาขาเมกาบางนาเองก็ประกาศปิดตัวเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา โดยสาขาที่เซ็นทรัลพระราม 9 ถือเป็นสาขาสุดท้าย.
JJNY : “ณัฐพงษ์”ขนสส.ลงพื้นที่เชียงราย│“ธนาธร”เผยจุดเริ่มต้นงานการเมือง│โบกมือลาอีกราย!Food Republic│ไฟไหม้ไร่อ้อยบราซิล
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_765753/
“ณัฐพงษ์” ขนสส.พรรคประชาชน ลงพื้นที่สำรวจน้ำท่วมให้กำลังใจชาวเชียงราย พบชาวบ้านกังวล สร้างเขื่อนปากแบงกั้นโขง
พรรคประชาชนลงพื้นที่สำรวจน้ำท่วม อ.เวียงแก่น อ.ขุนตาล และ อ.เทิง จ.เชียงราย นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นางจุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม สส.เชียงราย โดยสถานการณ์น้ำใน จ.เชียงราย ยังคงน่าเป็นห่วง มีฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำป่าไหลหลาก หลายพื้นที่มีน้ำท่วมสูง และน้ำกำลังเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ นายนายณัฐพงษ์ พร้อม สส.เชียงราย ลงพื้นที่เพื่อสำรวจสถานการณ์น้ำและให้กำลังประชาชนที่ประสบอุทกภัย จุดแรกได้เดินทางไปที่ อ.เวียงแก่น หลังจากนั้น ได้เดินทางไปยังบ้านป่าข่า อ.ขุนตาล และ อ.เทิง
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ชาวบ้านที่ได้พูดคุยด้วย บอกว่า ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเห็นครั้งนี้น้ำแรงที่สุด ตอนไป อ.เวียงแก่น เห็นสภาพที่น้ำเริ่มลดแล้วแต่โคลนก็ยังเยอะอยู่ และเทศบาลและประชาชนมาช่วยกันทำความสะอาดนอกจากเดินทางมาให้กำลังใจแล้วยังสอบถามประชาชนว่าหากมีอะไรขาดเหลืออยากให้ สส. ช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็พร้อมดำเนินการ ขณะเดียวกันการเดินทางมาที่ อ.ขุนตาล พบว่า มีสะพานข้ามลำห้วยถูกน้ำซัดขาดคิดว่าหากรัฐบาลพอจะจัดสรรงบกลาง หรืองบภัยพิบัติมาช่วยเหลือซ่อมแซมสะพานก็เป็นการแก้ไขเบื้องต้น
ส่วนภัยพิบัติอุทกภัยในเมืองไทยมีมาอย่างยาวนาน จะมีแนวทางแก้ปัญหาแบบยั่งยืนอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การจัดสรรงบประมาณสำหรับการป้องกันนั้นสำคัญที่สุด ตนเองเป็นกรรมาธิการติดตามงบประมาณเห็นว่าใช้เพียงงบกลางแก้ปัญหาเป็นครั้งๆ วันก่อนสส. ก็เพิ่งอภิปรายเรื่องเขื่อนน้ำคำ เพื่อให้บริหารจัดการน้ำ
ขณะลุ่มน้ำโขงและลำน้ำสาขาที่อาศัยธรรมชาติร่วมกัน แต่สถานการณ์กลับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จะแก้ไขอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ประเด็นลุ่มน้ำโขงนั้นใช้ร่วมกัน ต้องร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน มีคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยฯ ที่ลงมาดูและขับเคลื่อนเรื่องนี้
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวว่าในฐานะที่อยู่พรรคฝ่ายค้าน จะใช้กลไกที่มีอยู่ ทั้ง กมธ. ต่างๆ มาลงพื้นที่ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนให้เยอะที่สุด ให้ความเชื่อมั่นว่าเสียงจากชาวบ้านจะมีความหมาย และนำไปสะท้อนให้มีการแก้ไขปรับปรุง
ด้านนางจุฬาลักษณ์ สส.เชียงราย กล่าววว่า กรณีที่มีชาวบ้านร้องเรียนเรื่องโครงการเขื่อนปากแบง ที่จะสร้างกั้นแม่น้ำโขง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบข้ามพรมแดนต่อชุมชนใน อ.เวียงแก่นนั้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กมธ. ความมั่นคงฯ ได้มาลงพื้นที่ และชาวบ้าน อ.เชียงของ อ.เวียงแก่น ได้พูดเรื่องผลกระทบข้ามพรมแดนจากน้ำเท้อ ระบบนิเวศที่จะเสียหาย พันธุ์ปลาและการประมงซึ่งกมธ.ก็ติดตามใกล้ชิดว่านโยบายของรัฐบาลจะเป็นอย่างไรต่อไป ได้รับฟังจากท้องถิ่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ภาคเอกชน และมูลนิธิต่างๆ ก็มีการเล่าถึงสภาพปัญหาและผลกระทบ ซึ่งประชาชนไม่ได้ต้องการการเยียวยาแต่ต้องการไม่ให้เกิด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบเสียหายเกิดขึ้น
“ธนาธร” เผยจุดเริ่มต้นงานการเมือง มาจากรั้วมหาวิทยาลัย จนเข้าใจความเหลื่อมล้ำ
https://www.thairath.co.th/news/politic/2810169
“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” บรรยายงานพบนักศึกษาใหม่ มธ. เผยที่มาเบื้องหลังความคิดการเมือง จากการทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัย จนเห็นความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย ฝากข้อคิดนักศึกษาใหม่ใช้ชีวิตเรียนรู้โลกให้กว้างที่สุด
วันที่ 23 สิงหาคม 2567 ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานมูลนิธิคณะก้าวหน้า รับเชิญเป็นผู้บรรยายในงานพบเพื่อนใหม่ของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ “TPC First Meet 2024” ร่วมเวทีพร้อมกับ นายวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล และ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี ในหัวข้อ “หนทางพิชิตชีวิตมหาวิทยาลัย”
โดยเนื้อหาของการบรรยายครั้งนี้เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์และข้อคิดจากการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย โดยนายธนาธรระบุว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คือสถานที่ที่ความสนใจปัญหาสังคมและความเหลื่อมล้ำของตนถูกบ่มเพาะและเติบโต ผ่านการทำกิจกรรมทั้งค่ายอาสาต่างๆ รวมทั้งการได้ทำกิจกรรมในองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) และสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ซึ่งเป็นองค์กรทางการเมืองของนิสิตนักศึกษาที่เรียกร้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรมให้กับประชาชนที่ได้รับปัญหาต่างๆ ทำให้เราซึมซับความถูกผิด เข้าใจในความอยุติธรรมและความเหลื่อมล้ำ
บรรยากาศการใช้ชีวิตของตนในมหาวิทยาลัยให้น้ำหนักไปกับเพื่อนและกิจกรรมทางสังคมเป็นส่วนใหญ่ แต่ให้น้ำหนักกับการศึกษาน้อยมาก ผ่านเวลามา 20 กว่าปีเมื่อมองย้อนกลับไปแล้วตนก็ได้ข้อคิดกับตัวเองว่าการแสวงหาความเป็นเลิศทางวิชาการพร้อมกับการทำกิจกรรมร่วมกันเป็นไปได้ ไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง มองย้อนไปก็เสียดายมากว่าวันนั้นถ้าตนตั้งใจเรียนกว่านี้ วันนี้จะทำงานได้ดีกว่านี้
...
นายธนาธร กล่าวต่อไปว่าทุกคนในฐานะปัจเจกมีพลังและศักยภาพที่จะสร้างสรรค์โลกที่ดีและน่าอยู่กว่านี้อยู่ในตัวเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาหรือใครก็มีศักยภาพนั้นอยู่ ตอนที่ตนเริ่มเข้ามาทำงาน อมธ. ตนไม่มีแม้กระทั่งทักษะในการพูดที่สาธารณะ เป็นเด็กค่าเฉลี่ยที่แค่พอทำได้ตามค่าเฉลี่ยในทุกเรื่อง แต่พอได้เริ่มมาทำกิจกรรมก็ได้เปิดโลกทัศน์ตัวเองออก สร้างเสริมศักยภาพในตัวเรา จนติดตัวเรามาเอาไปใช้ในงานทั้งด้านธุรกิจและงานด้านสังคมจนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าบทบาทไหนเราทุกคนต่างมีพลังและศักยภาพในการส่งโลกที่ดีกว่านี้ให้กับคนรุ่นต่อไปได้
ก่อนเข้าธรรมศาสตร์โลกของตนแคบมาก แค่ 20 ตารางกิโลเมตรรอบ ถ.สุขุมวิท เพชรบุรี พระรามสี่ พญาไท จนกระทั่งได้ไปค่ายอาสาพัฒนาชนบทครั้งแรก ตนตกใจมากว่าทำไมสังคมไทยอนุญาตให้มีความเหลื่อมล้ำขนาดนี้ ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้ตนได้ตระหนักว่ายังมีความอยุติธรรมอยู่มากขนาดไหน จากจุดนั้นตนถึงเริ่มตั้งคำถามกับระบบระเบียบสังคม ว่าเรายังมีทางเลือกอื่นหรือไม่ในการพัฒนาประเทศที่ดีกว่านี้
ในช่วงท้ายของการบรรยาย นายธนาธรได้ฝากข้อคิดถึงการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย โดยระบุว่าในช่วงชีวิตของการเป็นนักศึกษานี้ ตนแนะนำให้ทุกคนออกไปทำสิ่งที่ไม่เคยทำ เดินทางไปที่ที่ไม่เคยไป อ่านหนังสือเล่มที่ไม่เคยอ่าน คบเพื่อนต่างเพศ ต่างวัย ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา ต่างศรัทธา ไม่มีอะไรทำก็ไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัด ไปดูวิถีชีวิตของเขาว่าเติบโตมาต่างจากเราอย่างไร
“การเก็บประสบการณ์แบบนี้จะทำให้เราค้นหาตัวเองได้ ทำให้คอมฟอร์ทโซนของเรากว้างขึ้น เห็นโลกมากขึ้น เข้าใจความคิดของผู้คนที่ต่างไปมากขึ้น ทำให้เรามีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ซึ่งเป็นพื้นฐานในการรักษาความเป็นมนุษย์ภายในตัวของเราเอาไว้ได้ ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง เชื่อมั่นในศักยภาพของเราเอง อยากให้ทุกคนเชื่อในศักยภาพของตัวเองและเดินหน้าใช้ชีวิตด้วยความหวัง” นายธนาธรกล่าว
โบกมือลาอีกราย! Food Republic เปิดให้บริการสาขาสุดท้าย ถึง 22 พ.ย.นี้
https://www.matichon.co.th/social/news_4752782
โบกมือลาอีกราย! Food Republic เปิดให้บริการสาขาสุดท้าย ถึง 22 พ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก Food Republic (Thailand) ได้โพสต์ประกาศปิด Foodrepublic และจะให้บริการวันสุดท้าย วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567
โดยระบุข้อความว่า
“Foodrepublic เปิดให้บริการวันสุดท้าย วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ขอบคุณลูกค้าผู้มีอุปการคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
ลูกค้าสามารถนำบัตรรับประทานอาหารมาแลกคืนได้จนถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เวลา 21:30 น.”
อย่างไรก็ตาม Food Republic Thailand หรือฟู้ดรีพับลิค ผู้ให้บริการฟู้ดคอร์ตชื่อดังจากประเทศสิงคโปร์ ที่ถือเป็นศูนย์อาหารที่โด่งดังระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ โมเดิร์น แบล็ก แอนด์ ไวท์ (Modern Black and White) ซึ่งรวมร้านค้า 20 ร้าน
ทั้งนี้ ฟู้ดรีพับลิคที่สาขาไอคอนสยาม ก็เพิ่งปิดตัวไปเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา และสาขาเมกาบางนาเองก็ประกาศปิดตัวเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา โดยสาขาที่เซ็นทรัลพระราม 9 ถือเป็นสาขาสุดท้าย.