JJNY : จับโป๊ะหมอเกศ ชาวเน็ตขุดภาพเทียบ│ปชช. 70.07% มีหนี้│“พิธา”มองบวก “ก้าวไกล”รอดสูง │เกาหลีเหนือส่งบอลลูนขยะอีกครั้ง

จับโป๊ะอีก ปริญญาบัตรวิทยาลัยวูสเตอร์ ของหมอเกศ ชาวเน็ตขุดภาพเปรียบเทียบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4692451
 
 
จับโป๊ะอีก ปริญญาบัตรวิทยาลัยวูสเตอร์ ของหมอเกศ ชาวเน็ตขุดภาพเปรียบเทียบ
 
แม้เฟซบุ๊กของพญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือหมอเกศ ส.ว.จะปลิวไปแล้วหลังเจอดราม่าเรื่องตำแหน่งทางวิชาการ “ศาสตราจารย์”

แต่ดูเหมือนโพสต์เก่าๆ ที่แม้ปลิวไปพร้อมกับบัญชีเฟซบุ๊กไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ทันชาวเน็ตที่มือไวกว่า ที่ต่อมาจะมีการปล่อยออกมาเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง
 
ล่าสุดโลกออนไลน์ได้แชร์โพสต์ของนายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ และโพสต์ของบัญชี So U Witayasart ที่ได้จับภาพผิดปกติของใบประกาศนียบัตรวิทยาลัย worcester college, มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ของพญ.เกศกมล
 
โดยนายประวิตร ในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ตั้งข้อสังเกตถึงตราโลโก้วิทยาลัยวูสเตอร์ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดหน้าประกาศนียบัตรที่พญ.เกศกมลถืออยู่ว่า ของจริงไม่ใช่อย่างในภาพของพญ.เกศกมล แน่นอน ในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เขามั่นใจ พร้อมกันนั้นนายประวิตร ได้โพสต์ตราสัญลักษณ์ของจริง ของวิทยาลัยวูสเตอร์ประกอบ

ขณะที่เฟซบุ๊กบัญชี “So U Witayasart” ได้นำภาพต้นฉบับของสาวรายหนึ่งที่ถือปริญญาบัตรที่ทั้งปริญญาบัตรและฉากหลังเหมือนของหมอเกศทุกอย่างมาเปรียบเทียบ พร้อมกันนั้นยังได้แคปโพสต์ของ แอนดรูว์ แม็กเกรเกอร์ มาร์แชลล์ ที่บอกให้สังเกตที่ “มือ” มาประกอบด้วย
 
https://www.facebook.com/pravit.rojanaphruk.5/posts/pfbid0kzm7Ex7o6xk3sZtLUhb7esetRnD4HBsV2S46TTfVAtizDhVXRiTaxbJDgXpqV5J8l



“สวนดุสิตโพล” ปชช.7.07% มีหนี้ จี้รบ.แก้ปัญหาสร้างงานมีรายได้
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_749267/

“สวนดุสิตโพล” ประชาชน 70.07% มีหนี้, 79.02 %อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาความยากจนด้วยการเพิ่มโอกาสในการทำงาน ส่วน 34.06% แนวทางที่จะทำให้คนไทย “กินดีอยู่ดีไม่มีหนี้สิน” คือ ต้องมีงานทำ มีรายได้
 
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับความยากจน หนี้สิน และการเลิกจ้างงาน” โดยสำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนามระหว่างวันที่ 15-19กรกฎาคม 2567 จากกลุ่ตัวอย่างจำนวน 1,146 คน พบว่า กลุ่มตัวอย่างคิดว่าปัจจุบัน “ปัญหาความยากจน หนี้สิน และการเลิกจ้างงาน” เป็นปัญหารุนแรง ร้อยละ 78.80 ขณะที่ ร้อยละ 21.20 ระบว่า ยังไม่รุนแรง โดยกลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 70.07 มีหนี้สิน ส่วนร้อยละ 29.93 ระบุว่าไม่มีหนี้
 
ทั้งนี้ เมื่อถามว่า หนี้สินส่วนตัวที่มี คิดเป็นร้อยละเท่าใดของรายได้ต่อเดือน ร้อยละ 39.72 ระบุ 20 – 50% ของรายได้ต่อเดือน, ร้อยละ 26.90 ระบุ ร้อยละ 51-80% ของรายได้ต่อเดือน และ ร้อยละ 24.66 ระบุน้อยกว่า 20% ของรายได้ต่อเดือน
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ตัวประชาชนเอง หรือคนใกล้ตัวเคยถูกเลิกจ้างงานหรือไม่ ร้อยละ 47.99 เคยถูกเลิกจ้าง/เห็นคนใกล้ตัวถูกเลิกจ้าง ขณะ ร้อยละ 47-99 ระบุ ไม่เคย
  
ด้านความคิดเห็นต่อการแก้ปัญหาของรัฐบาล ร้อยละ 79.02 อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาความยากจนด้วยการเพิ่มโอกาสในการทำงาน/จ้างงานฐ ร้อยละ 67.57 อยากให้รัฐบาลส่งเสริมการฝึกอาชีพ และ ร้อยละ 66.78อยากให้รัฐบาล มีระบบประกันสังคมที่เข้มแข็ง ส่วนเมื่อถามว่า รัฐบาลควรดำเนินการอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน ร้อยละ 79.16 อยากให้รัฐบาลสนับสนุนการสร้างรายได้ให้กับประชาชน ร้อยละ 70.14 ลดดอกเบี้ยเงินกู้
ส่วนปัญหาเลิกจ้างงาน อยากให้ช่วยส่งเสริมการสร้างงานใหม่/ช่วยหางานใหม่ ร้อยละ 77.34 โดยกลุ่มตัวอย่างมองว่าแนวทางที่จะทำให้คนไทย “กินดีอยู่ดีไม่มีหนี้สิน” คือ ต้องมีงานทำ มีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดี ร้อยละ 34.06 ส่วน ร้อยละ 21.38 เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น



“พิธา” มองบวก “ก้าวไกล” ยังมีโอกาสรอดสูง แต่เตรียมแผนรับรองทุกกรณี เชื่อไม่ส่งผลระยะยาว
https://ch3plus.com/news/political/morning/409277

“พิธา” มองบวก “ก้าวไกล” ยังมีโอกาสรอดสูง แต่เตรียมแผนรับรองทุกกรณี เชื่อไม่ส่งผลระยะยาว ลั่น ถึงพวกผมไม่สมบูรณ์แบบ แต่การมีอยู่ของผม จะเป็นประโยชน์ประเทศมากกว่า

20 ก.ค. 2567 ที่ จ.เชียงใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดียุคพรรคก้าวไกลในวันที่ 7 ส.ค.นี้ มีการเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง ว่า เข้าใจว่าทางหัวหน้าพรรคคิดว่าน่าจะเปิดบ้าน แล้วรอฟังข่าวดีด้วยกัน แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องเตรียมรับมือทุกสถานการณ์ อย่างที่ตนเคยพูดไปแล้วว่า ไม่ว่าผลจะออกมาทางไหน ก็ไม่ได้มีผลกับเราในระยะยาว เพราะการบริหารในองค์กรของเรา ต้องเตรียมผู้นำรุ่นต่อไปเรื่อยๆ มาโดยตลอด ไม่ว่าจะพรรคหรือไม่

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะยุบกี่ครั้ง ตนก็ยังคิดว่าพรรคก้าวไกลจะยังเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน และยังทำงานได้อย่างแน่นอน ย้ำว่าไม่ได้ยึดติดกับตัวบุคคล ยืนยันว่า ได้เตรียมความพร้อมไว้ในทุกกรณีอยู่แล้ว

ส่วนเมื่อเจอสถานการณ์เช่นนี้เหมือนในปีที่แล้วนั้น ตนขอใช้คำตอบด้วยคำถามกับพี่น้องประชาชนว่า “สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา กระบวนการ เวลา มีส่วนที่ต้องการรักษาผลประโยชน์ให้กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือไม่ และในภาพใหญ่มีผลประโยชน์อะไรกับประเทศบ้าง จากคนที่มีสิทธิ์ออกไปเลือกตั้งจำนวนมาก ต้องมีการยุบพรรค ก็ให้พี่น้องประชาชนได้เห็นภาพและบริบทว่า เราไม่ใช่พรรคแรก และนี่ไม่ได้เป็นพรรคแรกของเรา

ใน 5 ปี 2 พรรค ใน 20 ปี 5 พรรค นักการเมืองที่ต้องการเป็นสะพานเป็นทางสายกลางให้กับประเทศ ยังต้องการใช้สภาในการหาทางออก ควรจะมีอยู่ในการเมืองไทยหรือไม่มี ถึงพวกผมยังไม่สมบูรณ์แบบ และยังมีข้อบกพร่องที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะ แต่ก็คิดว่าการมีพวกผมอยู่ในการเมือง เมืองไทยเป็นประโยชน์มากกว่าโทษ” นายพิธา กล่าว

ส่วนความมั่นใจว่าพรรคจะไม่ถูกยุบ ของนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกลนั้น ตนก็เชื่ออย่างนั้น มีตัวอย่างของพรรคการเมืองหนึ่ง ที่เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำงานไม่รอบคอบรัดกุม ก็ต้องยกคำร้อง ถ้าความสม่ำเสมอ ตนก็คิดว่าเรามีโอกาสรอดสูง

ส่วนหากพรรครอด กกต. ควรมีส่วนรับผิดชอบอย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า ให้ถึงตอนนั้นเดี๋ยวค่อยไปว่ากันอีกที
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่