แชร์ประสบการณ์ไทรอยด์เป็นพิษ ตอนอายุ 33 ปี

ต้องเกริ่นก่อนว่า ก่อนที่จะมาเป็นโรคนี้ โรคไทรอยด์เป็นพิษเป็นโรคที่เราไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง และคิดว่าเป็นโรคที่ห่างไกลสำหรับเรา และเราก็เข้าใจว่าเราเองสุขภาพดีแข็งแรงมาโดยตลอด และเรามีอาการเหนื่อยง่ายตั้งแต่เด็กๆ เช่น ถ้าเดินขึ้นเขาก็จะเหนื่อยง่ายกว่าพี่สาวที่เดินขึ้นมาพร้อมกัน ซึ่งเป็นแบบนี้เรื่อยมาจนเราคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ โตขึ้นใช้ชีวิตปกติไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าเราจะเป็นโรคใดๆ เราใส่ Smart Watch อัตราการเต้นของหัวใจซึ่งถ้าคนปกติทั่วไป จะอยู่ที่ 75-85 ไม่เกินนี้หรืออาจต่ำกว่านี้ถ้าร่างกายของคุณแข็งแรง เราสังเกตอัตราการเต้นของหัวใจเราขณะนั่งพักจะอยู่ที่ประมาณ 90-100 มาโดยตลอด ซึ่งเราเข้าใจว่าเราไม่ออกกำลังกายเลยทำให้เราเหนื่อยง่าย

          มีนาคม 2567 ..... เรามีนัดผ่าฟันคุดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก่อนหน้าที่จะผ่าฟันคุดประมาณ 3-4 วันเราเริ่มมีอาการหัวใจเต้นเร็ว นั่งพักแต่ได้ยินเสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะดังมากเอามือทาบหน้าอกรับรู้ถึงจังหวะการเต้นหัวใจที่เร็วและแรงมาก อัตราการเต้นของหัวใจในตอนนั้น 120++ ทั้งที่นั่งอยู่ในออฟฟิศเปิดแอร์เย็นฉ่ำแต่เรารู้สึกเราเหงื่อออกเยอะมาก รู้สึกเริ่มขี้ร้อน (เราเข้าใจว่าเราตื่นเต้น+วิตกกังวล) ตกดึกนอนไม่หลับเหมือนสมองสั่งการให้คิดเรื่องที่จะผ่าฟันคุดตลอดเวลา กลัวว่าผ่าฟันคุดออกมาแล้วจะมีผลกระทบภายหลัง เช่น อาการชาที่ใบหน้าตลอดชีวิต เราก็คิดไปต่างๆนาๆ

          ถึงวันผ่าฟันคุดซี่แรก (ข้างซ้าย) ..... วัดความดันปกติ แต่หัวใจเต้น 150++ เราเข้าใจว่าเราตื่นเต้น และคิดว่าตัวเองยังปกติดี พอหลังจากผ่าเสร็จหัวใจก็กลับมาเต้นปกติที่ประมาณ 90-100 แล้วหลังจากนั้นเราก็ผิดปกติมาโดยตลอด อย่างเช่น หัวใจเต้นเร็วอยู่ที่ 95 จนถึง 120 ในทุกๆวันทั้งที่นั่งอยู่เฉยๆในออฟฟิศไม่ได้ออกกำลังกายหรือไม่ได้ออกแรงไรเลย เริ่มมีอาการหายใจไม่ทั่วท้อง หายใจไม่เต็มอิ่ม รู้สึกหายใจติดขัดเหมือนไม่มีอากาศเข้าไปเลี้ยงปอดและสมองเหมือนคนกำลังจะตาย มันเป็นอะไรที่ทรมานมากๆ เหนื่อยง่าย แค่เดินๆก็เหนื่อย รู้สึกอยากถ่ายอยากเข้าห้องน้ำตลอดเวลา หิวบ่อยขึ้น เช่น เรากินข้าวตอน 6 โมงเย็น พอ 4ทุ่ม ก็เริ่มหิวอีกแล้ว อาการอีกอย่างก็คือขี้ร้อนแต่ดีที่เราไม่หงุดหงิดเรายังสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นโรคแพนิคเลยปรึกษาเพื่อนที่เคยเป็นแพนิคเพื่อนก็ให้คำตอบมาว่าอาการของโรคแพนิค โรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาการมันคล้ายๆกัน เราก็ปล่อยให้เป็นแบบนี้เรื่อยมา

          กระทั่ง ..... หมอนัดผ่าฟันคุดซี่ที่ 2 (ข้างขวา) พฤษภาคม 2567 อาการเป็นเหมือนรอบที่แล้ว ที่สำคัญน้ำหนักค่อยๆลดลงมา 3 กิโลภายใน 3 เดือน ใส่กางเกงตัวเดิม หลวมมากๆและหายใจไม่ทั่วท้อง หายใจไม่เต็มอิ่ม ทรมานจนทนไม่ไหว

          มิถุนายน 2567 เข้าโรงพยาบาลหาหมอ เราเล่าให้หมอฟังอาการที่เราเป็นทั้งหมด
                    1.มือสั่น
                    2.ขาสั่น
                    3.ขี้ร้อน
                    4.หายใจไม่เต็มอิ่ม
                    5.หัวใจเต้นเร็ว
                    6.เหนื่อยง่าย
                    7.นอนตะแคงข้างได้ยินเสียงหัวใจเป็นจังหวะจนนอนไม่ได้
                    8.ตอนนอนหัวใจเต้นเร็ว
                    9.ประจำเดือนมาน้อยลง
                    10.น้ำหนักลดลง 3 กิโล ภายใน 3 เดือน ทั้งๆที่ไม่ได้ออกกำลังกาย
          เบื้องต้นหมอสอบถามและตรวจว่าเรามีอาการของการเป็นไทรอยด์เป็นพิษหรือไม่ ให้เราไปเจาะเลือด วัดคลื่นหัวใจ ช่วงบ่ายหมอนัดฟังผล ..... สรุปเราเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ แต่หัวใจปกติไม่ได้เป็นโรคหัวใจ ค่าไทรอยด์สูง 13 หมอจ่ายยา Methimazole เป็นยาปรับฮอร์โมนไทรอยด์กินวันละ 1 ครั้ง 2 เม็ด หลังอาหารเช้า และยา Propranolol เป็นยาแก้ใจสั่นกินเฉพาะตอนมีอาการ แต่เราไม่ได้กินเพราะเรารู้สึกว่าเราใจสั่นแค่บางจังหวะเท่านั้นไม่ได้เป็นตลอดทั้งวันก็เลยเลือกที่จะไม่กิน หมอนัดเจาะเลือดอีกครั้ง กรกฎาคม 2567

          ผ่านไป 3 สัปดาห์ ..... เจาะเลือดครั้งที่ 2 ครั้งนี้ค่าไทรอยด์ตัวแรกกลับมาเป็นปกติอยู่ที่ 4 แต่ว่าตัวที่ 2 ยังคงมีค่าที่ต่ำ (ตัวควบคุม / ยับยั้ง การสร้างฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป) เรายังคงต้องกินยาต่อไปอีก 1 เดือน โดสเดิม กินวันละ 1 ครั้ง 2 เม็ด หลังอาหารเช้า หมอนัดเจาะเลือดอีกครั้ง สิงหาคม 2567 (ไว้จะมาอัพเดทอีกครั้งค่ะ) การปฏิบัติตัวของเราที่ทำให้ค่าไทรอยด์เป็นพิษใกล้เป็นปกติมีดังนี้ค่ะ
                    1.นอน 21.00 น. ตื่น 05.00 น. วิ่ง-เดิน สลับไปมา ถ้าเหนื่อยให้เดินเร็ว
                    2.ทานอาหารครบ 5 หมู่ สลับกันไป
                    3.อาหารที่ไม่แตะต้องเลย : ชา / กาแฟ / เครื่องดื่มชูกำลัง / ของดอง / พริก / บล็อกโคลี / กะหล่ำดอก / ผักโขม / คะน้า / กะหล่ำปลีดิบ / ฮอร์สแรดิช / หน่อไม้ฝรั่ง / สาหร่าย / ผักกาด / หน่อไม้ / นมวัว(ถ้าแพ้) / อาหารที่มีไขมันสูง / รสจัด / เผ็ด / เค็ม / ขนมหวาน

              สรุปบทเรียนการเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษในครั้งนี้ สาเหตุของการเกิดโรคไทรอยด์เป็นพิษของเราคือเกิดจากความเครียด 100% การันตีได้ว่าความเครียดส่งผลให้ระบบร่างกายของเราทำงานเพี้ยนไปหมด และที่สำคัญเรื่องของการนอนดึกเป็นประจำ เราเป็นคนหนึ่งที่นอนดึกและตื่นเช้า พักผ่อนไม่เพียงพอ บวกกับความเครียดสะสม ร่างกายทนไม่ไหวเหมือนกับระเบิด ที่ถูกตั้งเวลาไว้ มันจะระเบิดออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะฉะนั้นอยากฝากถึงเพื่อนๆที่กำลังใช้ชีวิตแบบเรา(เมื่อก่อน) ให้หันมาดูแลสุขภาพตัวเอง อย่าเครียด อย่านอนดึก พักผ่อนให้เพียงพอ นอนให้ถึง ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และหากเพื่อนๆคนไหนมีอาการแบบที่เราเล่ามาข้างต้น อย่าอายที่จะไปหาหมอนะคะ ไม่เช่นนั้นจะเป็นหนักและใช้เวลารักษาค่อนข้างยาวนานค่ะ

              ตอนนี้ชีวิตมีความสุขกับการที่เราได้เรียนรู้และอยู่กับโรคนี้อย่างมีความสุข เราตั้งเป้าหมายแล้วว่า หากเราหายจากโรคนี้ เรายังคงใช้ชีวิตและปฏิบัติตัวให้เสมือนว่าเรายังคงเป็นโรคนี้ ให้ระลึกถึงเสมอว่าโรคนี้มันสามารถกลับมาเป็นได้อีกเรื่อยๆหากเรายังคงใช้ชีวิตเหมือนแต่ก่อน ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะคะ ไว้รอบหน้าจะมาอัพเดทอาการอีกครั้งนะคะ ขอบคุณค่ะ

                                                                      เพี้ยนสวัสดีเพี้ยนยิ้มเพี้ยนขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่