เครดิต และ ขอขอบคุณ :
https://www.facebook.com/environman.th
ต้นโพสต์ :
https://www.facebook.com/environman.th/posts/pfbid0xSRKET1ayZTbkrKU2PsbzFtAgoeuwH1aBrXpnRiGXRCExjiRSNPrjTjRTMkVLgrFl
#NATURE การอพยพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์บันทึกเหตุการณ์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกว่า 6 ล้านตัวเดินทางข้ามแอฟริกาตะวันออก ซึ่งทำลายสถิติทุกเดินทางอย่างราบคาบ
.
สัตว์ต่าง ๆ ทั่วภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกและซูดานต้องคอยอพยพโยกย้ายอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากสงครามกลางเมืองและความไม่มั่นคงทางการเมืองที่มีมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ โดยในปี 2007 สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าระว่ามีสัตว์กว่า 1.3 ล้านตัวที่อยู่ในซูดานใต้เดินทางอพยพ
.
แต่เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจสอบเหตุการณ์นี้อีกครั้งในวันที่ 28 เมษายน ถึง 15 พฤษภาคมปี 2023 หลังจากฝนแรกของฤดูกาล โดยการใช้เทคโนโลยีอย่างโดรนและเครื่องบินที่ติดตั้งกล้องถ่ายภาพทุก ๆ 2 วินาที ซึ่งได้ออกมาเป็นภาพว่า 330,000 ภาพ ผู้เชี่ยวชาญก็ต้องทึ่งกับตัวเลขที่พวกเขานับได้
.
“การอพยพในซูดานใต้ ได้ทำลายสถิติการอพยพอื่น ๆ ที่เรารู้จักตามแหล่งน้ำ” David Simpson ผู้จัดการอุทยาน NGO African Parks กล่าว “การประเมินบ่งชี้ว่าฝูงแอนทิโลปจำนวนมหาศาลนั้น มีขนาดใหญ่กว่าการอพยพครั้งใหญ่ของแอฟริกาตะวันออกเกือบ 3 เท่า ขนาดนั้นช่างน่าเกรงขามอย่างแท้จริง”
.
รายงานได้เปิดเผยตัวเลขออกมาว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นละมั่งสายพันธุ์ white-eared kob จำนวน 5 ล้านตัว, สายพันธุ์ tiang อีก 300,000 ตัว, Mongalla gazelle 350,000 ตัว และ Bohor reedbuck 160,000 ตัว
.
นอกจากยังมีประชากรช้าง ยีราฟ สิงโต เสือชีตาห์ และนกขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็น นกกระสา นกกระเรียน และอื่น ๆ อีกมากมาย เดินทางร่วมกับแอนทิโลปฝูงใหญ่นี้ ทำให้เมื่อรวมตัวเลขออกมาแล้วมีประมาณ 6 ล้านตัวในการอพยพครั้งใหญ่นี้ (แต่ยังแพ้จำนวนการอพยพของค้างคาวผลไม้ที่มี 10 ล้านตัว)
.
“การได้เห็นสัตว์เหล่านี้ที่นี่ในระดับขนาดนี้ เป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่ายังคงมีอยู่บนโลกใบนี้” Mike Fay ผู้ประสานงานภูมิทัศน์ของ African Parks กล่าว “จากทางอากาศ ผมรู้สึกว่าเหมือนกำลังได้เฝ้าดูโลกที่เคยเป็นมาเมื่อหลายพันปีก่อน ในเวลาที่ธรรมชาติและมนุษย์ยังคงอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล”
.
ผู้เชี่ยวชาญได้เน้นย้ำว่า แม้จำนวนตัวเลขจะทำให้เหตุการณ์นี้ดูน่าทึ่งและรู้สึกว่าภูมิภาคนี้มีสัตว์ป่าอยู่มากมาย ทว่าความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่โดยรอบนี้กำลังลดลงอย่างน่าใจหาย รายงานระบวุ่า เมื่อเทียบกับการสำรวจในช่วงปี 1980 “สัตว์ที่อยู่ประจำถิ่นส่วนใหญ่ลดลงอย่างน่าตกใจ” ซึ่งรวมถึง ช้าง หมูป่า เสือชีตาห์ ฮิปโปโปเตมัส และควายป่า
.
ไม่เพียงเท่านั้น ปัจจุบันสัตว์ป่าเหล่านี้ก็ยังได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองและความขัดแย้งที่ขยายเข้ามาในพื้นที่ทางธรรมชาติ ทำให้ระบบนิเวศที่ต้องรองรับสัตว์จำนวนมากระดับนี้เสียหาย สูญเสียถิ่นที่อยู่ และท้ายที่สุดก็คุกคามการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
.
แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนยังมองโลกในแง่ดี และให้ความเห็นกับการอพยพครั้งใหญ่นี้ว่า “เป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับความพยายามในการอนุรักษ์ในซูดานใต้” Simpson กล่าว “และมันอาจเป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในการอนุรักษ์”
.
ในขณะที่ประเทศพยายามจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น อนาคตของระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์เหล่านี้อาจขึ้นอยู่กับมนุษย์ทุกคน
.
“การทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นเพื่อปกป้องระบบนิเวศที่สำคัญ จะช่วยให้ปรากฏการณ์ระดับโลกนี้ดำเนินต่ไป ในขณะเดียวกันก็นำมาซึ่งความมั่นคง ความปลอดภัย และความมั่นใจ พร้อมกับสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับผู้คนที่อาศัยในพื้นที่ ซึ่งหลายคนยังคงต้องฟื้นตัวจากสงครามที่ดำเนินมาหลายปี” Peter Fearnhead ซีอีโอของ African Parks กล่าว
.
ที่มา
.
https://www.africanparks.org/worlds-largest-land-mammal...
.
https://apnews.com/.../animals-south-sudan-animal...
.
https://abcnews.go.com/.../south-sudans-epic.../story...
.
https://www.theguardian.com/.../south-sudan-antelope...
.
https://www.iflscience.com/six-million-animals-make-moves...
.
https://phys.org/.../2024-06-south-sudan-6m-antelope...
.
Photo: Marcus Westberg/African Parks
อพยพครั้งยิ่งใหญ่ของโลก นักวิทย์นับได้กว่า 6 ล้านตัว
เครดิต และ ขอขอบคุณ : https://www.facebook.com/environman.th
ต้นโพสต์ : https://www.facebook.com/environman.th/posts/pfbid0xSRKET1ayZTbkrKU2PsbzFtAgoeuwH1aBrXpnRiGXRCExjiRSNPrjTjRTMkVLgrFl
#NATURE การอพยพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์บันทึกเหตุการณ์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกว่า 6 ล้านตัวเดินทางข้ามแอฟริกาตะวันออก ซึ่งทำลายสถิติทุกเดินทางอย่างราบคาบ
.
สัตว์ต่าง ๆ ทั่วภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกและซูดานต้องคอยอพยพโยกย้ายอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากสงครามกลางเมืองและความไม่มั่นคงทางการเมืองที่มีมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ โดยในปี 2007 สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าระว่ามีสัตว์กว่า 1.3 ล้านตัวที่อยู่ในซูดานใต้เดินทางอพยพ
.
แต่เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจสอบเหตุการณ์นี้อีกครั้งในวันที่ 28 เมษายน ถึง 15 พฤษภาคมปี 2023 หลังจากฝนแรกของฤดูกาล โดยการใช้เทคโนโลยีอย่างโดรนและเครื่องบินที่ติดตั้งกล้องถ่ายภาพทุก ๆ 2 วินาที ซึ่งได้ออกมาเป็นภาพว่า 330,000 ภาพ ผู้เชี่ยวชาญก็ต้องทึ่งกับตัวเลขที่พวกเขานับได้
.
“การอพยพในซูดานใต้ ได้ทำลายสถิติการอพยพอื่น ๆ ที่เรารู้จักตามแหล่งน้ำ” David Simpson ผู้จัดการอุทยาน NGO African Parks กล่าว “การประเมินบ่งชี้ว่าฝูงแอนทิโลปจำนวนมหาศาลนั้น มีขนาดใหญ่กว่าการอพยพครั้งใหญ่ของแอฟริกาตะวันออกเกือบ 3 เท่า ขนาดนั้นช่างน่าเกรงขามอย่างแท้จริง”
.
รายงานได้เปิดเผยตัวเลขออกมาว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นละมั่งสายพันธุ์ white-eared kob จำนวน 5 ล้านตัว, สายพันธุ์ tiang อีก 300,000 ตัว, Mongalla gazelle 350,000 ตัว และ Bohor reedbuck 160,000 ตัว
.
นอกจากยังมีประชากรช้าง ยีราฟ สิงโต เสือชีตาห์ และนกขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็น นกกระสา นกกระเรียน และอื่น ๆ อีกมากมาย เดินทางร่วมกับแอนทิโลปฝูงใหญ่นี้ ทำให้เมื่อรวมตัวเลขออกมาแล้วมีประมาณ 6 ล้านตัวในการอพยพครั้งใหญ่นี้ (แต่ยังแพ้จำนวนการอพยพของค้างคาวผลไม้ที่มี 10 ล้านตัว)
.
“การได้เห็นสัตว์เหล่านี้ที่นี่ในระดับขนาดนี้ เป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่ายังคงมีอยู่บนโลกใบนี้” Mike Fay ผู้ประสานงานภูมิทัศน์ของ African Parks กล่าว “จากทางอากาศ ผมรู้สึกว่าเหมือนกำลังได้เฝ้าดูโลกที่เคยเป็นมาเมื่อหลายพันปีก่อน ในเวลาที่ธรรมชาติและมนุษย์ยังคงอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล”
.
ผู้เชี่ยวชาญได้เน้นย้ำว่า แม้จำนวนตัวเลขจะทำให้เหตุการณ์นี้ดูน่าทึ่งและรู้สึกว่าภูมิภาคนี้มีสัตว์ป่าอยู่มากมาย ทว่าความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่โดยรอบนี้กำลังลดลงอย่างน่าใจหาย รายงานระบวุ่า เมื่อเทียบกับการสำรวจในช่วงปี 1980 “สัตว์ที่อยู่ประจำถิ่นส่วนใหญ่ลดลงอย่างน่าตกใจ” ซึ่งรวมถึง ช้าง หมูป่า เสือชีตาห์ ฮิปโปโปเตมัส และควายป่า
.
ไม่เพียงเท่านั้น ปัจจุบันสัตว์ป่าเหล่านี้ก็ยังได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองและความขัดแย้งที่ขยายเข้ามาในพื้นที่ทางธรรมชาติ ทำให้ระบบนิเวศที่ต้องรองรับสัตว์จำนวนมากระดับนี้เสียหาย สูญเสียถิ่นที่อยู่ และท้ายที่สุดก็คุกคามการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
.
แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนยังมองโลกในแง่ดี และให้ความเห็นกับการอพยพครั้งใหญ่นี้ว่า “เป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับความพยายามในการอนุรักษ์ในซูดานใต้” Simpson กล่าว “และมันอาจเป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในการอนุรักษ์”
.
ในขณะที่ประเทศพยายามจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น อนาคตของระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์เหล่านี้อาจขึ้นอยู่กับมนุษย์ทุกคน
.
“การทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นเพื่อปกป้องระบบนิเวศที่สำคัญ จะช่วยให้ปรากฏการณ์ระดับโลกนี้ดำเนินต่ไป ในขณะเดียวกันก็นำมาซึ่งความมั่นคง ความปลอดภัย และความมั่นใจ พร้อมกับสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับผู้คนที่อาศัยในพื้นที่ ซึ่งหลายคนยังคงต้องฟื้นตัวจากสงครามที่ดำเนินมาหลายปี” Peter Fearnhead ซีอีโอของ African Parks กล่าว
.
ที่มา
.
https://www.africanparks.org/worlds-largest-land-mammal...
.
https://apnews.com/.../animals-south-sudan-animal...
.
https://abcnews.go.com/.../south-sudans-epic.../story...
.
https://www.theguardian.com/.../south-sudan-antelope...
.
https://www.iflscience.com/six-million-animals-make-moves...
.
https://phys.org/.../2024-06-south-sudan-6m-antelope...
.
Photo: Marcus Westberg/African Parks