ถ้ารุ่นลูกหรือรุ่นหลานเรามองย้อยกับมา ปีนี้มันวุ่นวายทั่วโลกมากจริงๆ
สถานการณ์ความวุ่นวาย สงคราม และการประท้วงทั่วโลก ณ วันที่ 15 กันยายน 2025
จากข้อมูลล่าสุดที่รวบรวมจากแหล่งข่าวต่าง ๆ ทั่วโลก พบว่าปี 2025 เป็นปีที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งที่รุนแรง โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง ยุโรป และเอเชีย มีสงครามต่อเนื่องหลายแห่ง เช่น ในยูเครนและกาซา ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและมนุษยธรรมทั่วโลก นอกจากนี้ การประท้วงและความไม่สงบภายในประเทศก็เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และสิทธิเสรีภาพ ด้านล่างนี้คือรายชื่อประเทศที่กำลังเผชิญความวุ่นวายหลัก ๆ โดยอ้างอิงจากรายงานล่าสุด (รวมถึงที่คุณเอ่ยถึง: ไทย-กัมพูชา เนปาล รัสเซีย จีน และสหรัฐฯ) จัดกลุ่มตามภูมิภาคเพื่อความชัดเจน
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้
• ไทยและกัมพูชา: ความตึงเครียดชายแดนปะทุเป็นความขัดแย้งทางทหารตั้งแต่พฤษภาคม 2025 หลังการปะทะที่วัดพระวิหาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 รายในกัมพูชาและ 14 รายในไทย (พลเรือน) ในกรกฎาคม มีการประกาศ martial law ใน 8 เขตไทย ปิดด่านชายแดน และห้ามนำเข้าสินค้าไทยในกัมพูชา นำไปสู่การประท้วงชาตินิยมทั้งสองฝ่าย สหรัฐฯ ใช้มาตรการภาษีกดดันให้หยุดยิงชั่วคราวในสิงหาคม แต่ความตึงเครียดยังคงอยู่ โดยเฉพาะจากปัญหาแม่น้ำโขงและวัดโบราณ
• เนปาล: การประท้วงครั้งใหญ่โดยกลุ่ม Gen Z (เยาวชนอายุ 13-28 ปี) ปะทุในต้นกันยายน 2025 จากการแบนโซเชียลมีเดีย 26 แพลตฟอร์ม (เช่น Facebook, YouTube) และปัญหาคอร์รัปชัน- nepotism ทำให้เกิดการจลาจลในคาถmandu ผู้ประท้วงบุกทำลายอาคารรัฐสภาและบ้านนักการเมือง เสียชีวิตกว่า 72 ราย (รวมตำรวจ) และบาดเจ็บกว่า 2,100 ราย นายกฯ K.P. Sharma Oli ลาออก รัฐบาลชั่วคราวภายใต้ Sushila Karki ประกาศเลิกแบน แต่กองทัพยังบังคับใช้เคอร์ฟิว
• เมียนมา: สงครามกลางเมืองต่อเนื่องตั้งแต่รัฐประหาร 2021 ทหาร (Tatmadaw) สูญเสียการควบคุมหลายพื้นที่จากกลุ่มต่อต้าน ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับพันและลี้ภัยนับล้าน ในปี 2025 มีการรบรุนแรงเพิ่มขึ้นจากกลุ่มชาติพันธุ์กว่า 2,600 กลุ่ม
• จีน: การประท้วงเพิ่มขึ้นจากปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การล้มละลายโครงการที่อยู่อาศัย (กว่า 1,220 คดีในครึ่งปีแรก) และการเลิกจ้างจากสงครามราคารถ EV (BYD เสียมูลค่า 45 พันล้านดอลลาร์) มีการประท้วงแยกต่างหาก เช่น การฉายสโลแกนต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์ในชงชิ่ง (กันยายน) และการประท้วงต่อต้านการกลั่นแกล้งเด็กในเสฉวน (สิงหาคม) นอกจากนี้ มีความตึงเครียดกับฟิลิปปินส์เรื่องทะเลจีนใต้ (Scarborough Shoal) ที่จีนประกาศเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ
• อินเดีย-ปากีสถาน: ความขัดแย้งชายแดนยังรุนแรงหลังโจมตีนักท่องเที่ยวใน Pahalgam (เมษายน) ทำให้อินเดียปิดน่านฟ้าและยิงขีปนาวุธตอบโต้ สงครามเย็นต่อเนื่องจากปัญหาคาชมีร์
ตะวันออกกลางและแอฟริกา
• อิสราเอล-ปาเลสไตน์ (กาซาและเวสต์แบงก์): สงครามต่อเนื่องจาก 2023 มีผู้เสียชีวิตกว่า 150,000 รายในซูดาน (แต่เชื่อมโยงกับอิสราเอล-ฮามาส) ในกาซา กองทัพอิสราเอลให้เวลา 10 นาทีอพยพก่อนทิ้งระเบิด ทำให้พลเรือนลี้ภัยจำนวนมาก มีการประท้วงต่อต้านทั่วโลก รวมถึงในสหรัฐฯ
• เลบานอน: สงครามระหว่างอิสราเอลและฮิซบุลลาห์รุนแรงขึ้น หลังการลอบสังหารผู้นำฮิซบุลลาห์ ทำให้รัฐล้มเหลวและวิกฤตมนุษยธรรม
• อิหร่าน-อิสราเอล: สงคราม 12 วันในปี 2025 หลังการโจมตีนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ (ภายใต้ทรัมป์) นำไปสู่การประท้วงต่อต้านสงครามทั่วโลก
• เยเมน: กลุ่มฮูธีโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง สนับสนุนปาเลสไตน์ สหรัฐฯ-อังกฤษตอบโต้ แต่หยุดยิงชั่วคราวในกรกฎาคม
• ซูดาน: สงครามกลางเมืองปีที่ 3 (ตั้งแต่ 2022) ผู้เสียชีวิตกว่า 150,000 ราย ลี้ภัย 12 ล้านคน (1/3 ของประชากร) วิกฤตอาหารและ genocide ในดาร์ฟูร์
• แอฟริกา (ซาเฮล, ไนจีเรีย, เอธิโอเปีย): ความขัดแย้งจากกลุ่มติดอาวุธและภัยแล้งรุนแรงขึ้นในปี 2025 โดยเฉพาะในมาลีและบูร์กินาฟาโซ
ยุโรป
• รัสเซีย-ยูเครน: สงครามต่อเนื่องตั้งแต่ 2022 รัสเซียบุกเพิ่มใน Kharkiv และ Kupiansk (กันยายน) มีการประท้วงต่อต้านสงครามในรัสเซีย (กว่า 18,900 การจับกุมตั้งแต่ 2022) แต่ถูกปราบปรามด้วยกฎหมายเซ็นเซอร์ ทรัมป์สัญญาเจรจาสันติภาพ แต่ Putin ทดสอบ NATO ในโปแลนด์และโรมาเนีย
• อาร์เมเนีย-อาเซอร์ไบจาน: หยุดยิงใน Nagorno-Karabakh แต่ความตึงเครียดยังอยู่
อเมริกา
• สหรัฐอเมริกา: การประท้วงต่อต้านนโยบายทรัมป์รุนแรง เช่น Hands Off (เมษายน, 3-5 ล้านคน) ต่อต้าน Project 2025, Elon Musk, และการเนรเทศผู้อพยพ (June LA riots จากการจับกุม ICE 45 คน นำไปสู่ National Guard 2,000 นาย) มีการประท้วง pro-Palestine และ anti-Trump กว่า 18,000 คดีตั้งแต่ 2023 ในแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์กมีจลาจลจากปัญหา移民และเศรษฐกิจ
• เม็กซิโก: สงครามแก๊งค้ายาและ cartel ต่อเนื่อง ทรัมป์ขู่อัตราภาษีและโจมตี ทำให้เกิดการตอบโต้และความไม่สงบภายใน
หรือจุดพีคของเรื่องทั้งหมดนี้อาจคือ “ระเบิดนิวเคลียร์!)? เพราอย่าเริ่มนะ ประเทศใดประเทศหนึ่งเริ่มกดปุ่ม ทุกประเทศจะกดตาม(นิวเคลียร์)
2025 ถ้าเกิดสงความโลกครั้งที่3 ทุกท่านคิดว่าปีนี้จะถูกเหมารวมไหมครับ
สถานการณ์ความวุ่นวาย สงคราม และการประท้วงทั่วโลก ณ วันที่ 15 กันยายน 2025
จากข้อมูลล่าสุดที่รวบรวมจากแหล่งข่าวต่าง ๆ ทั่วโลก พบว่าปี 2025 เป็นปีที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งที่รุนแรง โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง ยุโรป และเอเชีย มีสงครามต่อเนื่องหลายแห่ง เช่น ในยูเครนและกาซา ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและมนุษยธรรมทั่วโลก นอกจากนี้ การประท้วงและความไม่สงบภายในประเทศก็เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และสิทธิเสรีภาพ ด้านล่างนี้คือรายชื่อประเทศที่กำลังเผชิญความวุ่นวายหลัก ๆ โดยอ้างอิงจากรายงานล่าสุด (รวมถึงที่คุณเอ่ยถึง: ไทย-กัมพูชา เนปาล รัสเซีย จีน และสหรัฐฯ) จัดกลุ่มตามภูมิภาคเพื่อความชัดเจน
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้
• ไทยและกัมพูชา: ความตึงเครียดชายแดนปะทุเป็นความขัดแย้งทางทหารตั้งแต่พฤษภาคม 2025 หลังการปะทะที่วัดพระวิหาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 รายในกัมพูชาและ 14 รายในไทย (พลเรือน) ในกรกฎาคม มีการประกาศ martial law ใน 8 เขตไทย ปิดด่านชายแดน และห้ามนำเข้าสินค้าไทยในกัมพูชา นำไปสู่การประท้วงชาตินิยมทั้งสองฝ่าย สหรัฐฯ ใช้มาตรการภาษีกดดันให้หยุดยิงชั่วคราวในสิงหาคม แต่ความตึงเครียดยังคงอยู่ โดยเฉพาะจากปัญหาแม่น้ำโขงและวัดโบราณ
• เนปาล: การประท้วงครั้งใหญ่โดยกลุ่ม Gen Z (เยาวชนอายุ 13-28 ปี) ปะทุในต้นกันยายน 2025 จากการแบนโซเชียลมีเดีย 26 แพลตฟอร์ม (เช่น Facebook, YouTube) และปัญหาคอร์รัปชัน- nepotism ทำให้เกิดการจลาจลในคาถmandu ผู้ประท้วงบุกทำลายอาคารรัฐสภาและบ้านนักการเมือง เสียชีวิตกว่า 72 ราย (รวมตำรวจ) และบาดเจ็บกว่า 2,100 ราย นายกฯ K.P. Sharma Oli ลาออก รัฐบาลชั่วคราวภายใต้ Sushila Karki ประกาศเลิกแบน แต่กองทัพยังบังคับใช้เคอร์ฟิว
• เมียนมา: สงครามกลางเมืองต่อเนื่องตั้งแต่รัฐประหาร 2021 ทหาร (Tatmadaw) สูญเสียการควบคุมหลายพื้นที่จากกลุ่มต่อต้าน ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับพันและลี้ภัยนับล้าน ในปี 2025 มีการรบรุนแรงเพิ่มขึ้นจากกลุ่มชาติพันธุ์กว่า 2,600 กลุ่ม
• จีน: การประท้วงเพิ่มขึ้นจากปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การล้มละลายโครงการที่อยู่อาศัย (กว่า 1,220 คดีในครึ่งปีแรก) และการเลิกจ้างจากสงครามราคารถ EV (BYD เสียมูลค่า 45 พันล้านดอลลาร์) มีการประท้วงแยกต่างหาก เช่น การฉายสโลแกนต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์ในชงชิ่ง (กันยายน) และการประท้วงต่อต้านการกลั่นแกล้งเด็กในเสฉวน (สิงหาคม) นอกจากนี้ มีความตึงเครียดกับฟิลิปปินส์เรื่องทะเลจีนใต้ (Scarborough Shoal) ที่จีนประกาศเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ
• อินเดีย-ปากีสถาน: ความขัดแย้งชายแดนยังรุนแรงหลังโจมตีนักท่องเที่ยวใน Pahalgam (เมษายน) ทำให้อินเดียปิดน่านฟ้าและยิงขีปนาวุธตอบโต้ สงครามเย็นต่อเนื่องจากปัญหาคาชมีร์
ตะวันออกกลางและแอฟริกา
• อิสราเอล-ปาเลสไตน์ (กาซาและเวสต์แบงก์): สงครามต่อเนื่องจาก 2023 มีผู้เสียชีวิตกว่า 150,000 รายในซูดาน (แต่เชื่อมโยงกับอิสราเอล-ฮามาส) ในกาซา กองทัพอิสราเอลให้เวลา 10 นาทีอพยพก่อนทิ้งระเบิด ทำให้พลเรือนลี้ภัยจำนวนมาก มีการประท้วงต่อต้านทั่วโลก รวมถึงในสหรัฐฯ
• เลบานอน: สงครามระหว่างอิสราเอลและฮิซบุลลาห์รุนแรงขึ้น หลังการลอบสังหารผู้นำฮิซบุลลาห์ ทำให้รัฐล้มเหลวและวิกฤตมนุษยธรรม
• อิหร่าน-อิสราเอล: สงคราม 12 วันในปี 2025 หลังการโจมตีนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ (ภายใต้ทรัมป์) นำไปสู่การประท้วงต่อต้านสงครามทั่วโลก
• เยเมน: กลุ่มฮูธีโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง สนับสนุนปาเลสไตน์ สหรัฐฯ-อังกฤษตอบโต้ แต่หยุดยิงชั่วคราวในกรกฎาคม
• ซูดาน: สงครามกลางเมืองปีที่ 3 (ตั้งแต่ 2022) ผู้เสียชีวิตกว่า 150,000 ราย ลี้ภัย 12 ล้านคน (1/3 ของประชากร) วิกฤตอาหารและ genocide ในดาร์ฟูร์
• แอฟริกา (ซาเฮล, ไนจีเรีย, เอธิโอเปีย): ความขัดแย้งจากกลุ่มติดอาวุธและภัยแล้งรุนแรงขึ้นในปี 2025 โดยเฉพาะในมาลีและบูร์กินาฟาโซ
ยุโรป
• รัสเซีย-ยูเครน: สงครามต่อเนื่องตั้งแต่ 2022 รัสเซียบุกเพิ่มใน Kharkiv และ Kupiansk (กันยายน) มีการประท้วงต่อต้านสงครามในรัสเซีย (กว่า 18,900 การจับกุมตั้งแต่ 2022) แต่ถูกปราบปรามด้วยกฎหมายเซ็นเซอร์ ทรัมป์สัญญาเจรจาสันติภาพ แต่ Putin ทดสอบ NATO ในโปแลนด์และโรมาเนีย
• อาร์เมเนีย-อาเซอร์ไบจาน: หยุดยิงใน Nagorno-Karabakh แต่ความตึงเครียดยังอยู่
อเมริกา
• สหรัฐอเมริกา: การประท้วงต่อต้านนโยบายทรัมป์รุนแรง เช่น Hands Off (เมษายน, 3-5 ล้านคน) ต่อต้าน Project 2025, Elon Musk, และการเนรเทศผู้อพยพ (June LA riots จากการจับกุม ICE 45 คน นำไปสู่ National Guard 2,000 นาย) มีการประท้วง pro-Palestine และ anti-Trump กว่า 18,000 คดีตั้งแต่ 2023 ในแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์กมีจลาจลจากปัญหา移民และเศรษฐกิจ
• เม็กซิโก: สงครามแก๊งค้ายาและ cartel ต่อเนื่อง ทรัมป์ขู่อัตราภาษีและโจมตี ทำให้เกิดการตอบโต้และความไม่สงบภายใน
หรือจุดพีคของเรื่องทั้งหมดนี้อาจคือ “ระเบิดนิวเคลียร์!)? เพราอย่าเริ่มนะ ประเทศใดประเทศหนึ่งเริ่มกดปุ่ม ทุกประเทศจะกดตาม(นิวเคลียร์)