สวัสดีครับ ผมขอโทษก่อนแล้วกันนะครับถ้าผมพิมพ์ไม่รู้เรื่อง เพราะภาษาไทยผมไม่ค่อยเก่ง มันอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าอ่านและยาวด้วย ผมจะพยายามย่อทุกอย่างนะครับ
ผมคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นซึมเศร้าเนื่องจากใน 5 ปีกว่าที่ผ่านมาผมได้ เปลี่ยนจิตแพทย์มา 2 คน และ นักบำบัดจิตร 2 คน ที่ไปหาประจำแล้วเขาว่างั้น นัก บำบัดจิตรกับจิตแพทย์คนนึง ของผมแนะนำให้ผมไปทำ ECT (Electroconvulsive therapy) หรือเอาง่ายๆก็คือการเอาไฟฟ้าไปช็อตสมองซึ่งผมไม่ได้ไปทำ และไม่คิดว่าจะไปทำเนื่องจากมันเสี่ยงอันตรายต่อสมองและเขาไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างแน่ชัด ผมเลยลองเปลี่ยนหมอและปรับยาต่อไปเรื่อยๆ ตอนนี้ผมก็อายุ 19 จะ 20 แล้ว ก็คิดว่าดีขึ้นนะครับ แต่ไม่นานมานี้ผมเริ่มไม่แน่ใจเพราะ ผมได้ทำอะไรที่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะทำไป
ผมทำร้ายร่างกายแม่ครับ ผมเกลียดแม่ตัวเองมากๆตั้งแต่เริ่มโตมา ผมเห็นแม่เป็นคนไม่ดีมาตลอดจากการมองวิธีเลี้ยงลูกที่ไม่ดีของเขา ,ได้ยินปากเสียงที่เขาใช้กับพ่อและพี่(จนวันนึงก็ใช้กับผม) แล้วก็ยังฟังเรื่องเล่าจากพี่ของตัวเองถึงสิ่งไม่ดีที่เขาทำไว้ ถึงเขาจะป่วยทางจิตเหมือนกันก็เถอะ ทุกครั้งที่แม่มาหา ผมก็จะเห็นบรรยากาศกาศบ้านไม่น่าอยู่เท่าไหร่ กลับกันกับพ่อ ที่ผมมองเป็นผู้ให้และคนดีมาตลอด นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมใช้กำลังกับแม่ ถึงมันไม่สาหัสอะไรเท่าไหร่ แต่ผมก็ เกลียดตัวเองที่ทำมันอยู่ดี ครั้งแรก คือตอนที่แม่ลุกแล้วเดินเข้าหาผมตอนกำลังมีปากเสียงกัน ผมนึกว่าแม่จะทำอะไร ผมเลยสติหลุดผลักแม่ล้มแล้วบีบคอเขาจนคนในบ้านได้ยินเลยต้องมาห้าม โชคดีที่สำเร็จ หลังจากนั้นก็มีคุยๆปรับความเข้าใจมาบ้าง ผมเพิ่งมาทำความเข้าใจแม่ตัวเองมากขึ้นไม่ถึงปีเองครับ แม่ผมแทบไม่ได้อยู่ในชีวิตผมเลย นานๆทีจะเจอกัน บางมุมที่ผมเห็นเขาตอนนี้ก็เหมือนผมบ้าง ผมก็มองเขาเป็นมนุษย์ที่บกพร่องปกติคนนึง ผมเลยนึกว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก แต่ไม่นานมานี้ก็เกิดขึ้น
ครั้งนี้ พ่อผมบุกเข้ามาในห้องผม 3 รอบตอนเช้า ครั้งแรกมาปลุกถามหาโทรศัพท์ ครั้งที่สองมาหาในห้องผมถามว่าแม่เอามาซ่อนไหม ครั้งที่สามทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ บอกให้ผมไปคุยกับแม่ แต่คุย "ดีๆ" ผมก็เลยเสียงดังว่า "จะคุยดีๆได้ยังไง ปัญหาแบบนี้ ทะเลาะกันเหมือนเด็กประถม" แล้วก็ตามด้วยหลายอย่างที่ผมจำไม่ได้ ผมได้แต่ร้องไห้แล้วทุบกำแพงซ้ำๆ คิดวนไปว่ามันเกิดขึ้นกี่ครั้งแล้ว ตั้งแต่ผมเด็กๆ ทุกครั้งที่แม่มาหาพ่อกับแม่ก็ทะเลาะกัน ผมไม่เคยยุ่งเลย จนวันนั้น แม่ได้ยินผมเสียงดังเลยขึ้นมาด่าพ่อที่เอามาบอกผมต่อ หลังจากนี้ผมก็จำไม่ได้เหมือนกันว่า พูดอะไรไปบ้าง ได้แต่ถามคำถามหลายๆอย่างและมองที่แม่ก็เห็นแต่คำว่า "ตัวการ" ผมคิดว่าผมก็ได้ถามแม่นะว่าเอาไปหรือเปล่า แต่แม่ไม่ได้ตอบ ผมเลยบีบคอเขาอีกรอบ ครั้งนี้ไม่แรงเท่าครั้งก่อนและแม่ไม่สู้กลับ ผมแค่ต้องการคำตอบจากเขา แต่เขาก็ได้แต่เรียกชื่อผม ระหว่างนี้ ยายที่ป่วยของผมก็ได้ยิน เลย มาพยายามห้ามผมตอนที่พ่อยืนดู เสียงตะโกนว่า "อย่า" ของยายซ้ำๆออกจากปอดที่ไม่ค่อยดียังติดหัวผมอยู่เลย ผมก็เลยหยุด และหลังจากนั้นก็นั่งคุยปรับความเข้าใจอีกรอบ สรุปว่าแม่ไม่ได้เอาไป พ่อแค่ทำหายแล้วไม่เชื่อแม่ แม่ผมก็ชอบพูดเยอะเหมือนกันว่าพ่อขี้โกหก ผมก็สังเกตแต่มันเป็นปัญหากับผมจริงๆก็วันนั้นแหละ วันนั้นผมก็ได้เรียนรู้อะไรแย่ๆของพ่อเพิ่มเหมือนกัน แต่ก็ ช่างมันเถอะ ผมจะไม่พูดถึงมันมากกว่านี้ละ ผมคิดว่ามันไม่มีใครผิดจริงๆหรอก ทั้งคู่ก็ทำตัวเป็นมนุษย์
ประเด็นหลักที่ผมอยากจะพูดถึงก็คือ ผมได้แต่นึกถึงวันนั้นซ้ำๆ ว่าถ้าผมทำพลาดเกิดทำใครบาดเจ็บสาหัสหรือตายขึ้นมาจะทำไง ถ้าผมทำอีกล่ะ มันจะแย่กว่านี้ไหม และอื่นๆอีกมาก ผมรู้ว่าคิดไปก็ไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ แต่มันก็อดไม่ได้ ผมได้แต่คิดว่าตัวเองมันเป็นคนที่ห่วย แต่ก็ดีที่ผมมีสติพอที่จะฟังคำขอของยาย คนในบ้านนี้ ผมคิดว่ายายเป็นคนเดียวที่รักแม่จริงๆ ผมรู้สึกแย่กับแม่มากเลย อย่างนึงที่ผมคิดว่าเขาเหมือนผมก็คือการที่เขาอยู่ไม่ได้ถ้าชีวิตตัวคนเดียว เขาบอกผมว่าถ้ายายที่เป็นมะเร็งตาย เขาก็จะฆ่าตัวตาย ผมก็ไม่อยากจะไม่เชื่อเขาหรอก ผมอยากจะรักเขาได้เหมือนกัน ผมก็บอกเขาด้วยว่าผมจะพยายาม เผื่อเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อได้ แต่ผมยังไม่รู้เลยว่ารักคืออะไรกันแน่ มันจะใช่คำที่คนกล่าวกันไปมาทุกวันอย่างง่ายดายจริงๆหรอ? ยังไงก็ช่าง ผมรู้สึกว่าตัวเองโง่และหัวรุนแรง มันกลับกันจริงๆจากการที่ผมพยายามทำตัวนิ่งและคิดมากตลอด ขนาดผมโดนปล้นยังไม่ตื่นตระหนกเท่านี้สักนิดเลย
ผมนึกวนไปวนมาจนทำอะไรไม่ได้จริงๆ ปกติอยู่คนเดียวก็ไม่ค่อยได้อยู่แล้ว ต้องเรียกเพื่อนสนิทคนเดียวของผมมาคุยด้วยตลอด ล่าสุดเขาก็บอกผมตอนผมบ่นเรื่องนี้ให้ฟังว่าแค่ผมรู้ตัวเองและพยายามหรืออยากจะเปลี่ยนก็แปลว่าผมโตขึ้นแล้ว ผมก็ว่างั้น แต่ก็ช่วยไม่ได้อยู่ดีที่จะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคน"บาป"ที่ห่วยแตกและไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่ ถ้าโตขึ้นแล้วมันจะดีจริงๆหรอ? ทำไมมันรู้สึกแย่จัง ไม่มีเขาผมคงตายไปนานแล้ว เพราะ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้"เชื่อม"กับใครในโลกนี้เลยแม้แต่ครอบครัว ผมพยายามสนิทมันก็ไม่ไปไหนเท่าไหร่ หรือเพราะผมเรื่องมากกันนะ? ไม่รู้เหมือนกันว่าเทียบกับแม่ได้ไหม แต่ผมเคยพูดไปแม่บอกแม่ก็เป็น ก็เจ๋งดี แต่ผมจะเลิกเรื่องมากยังไงล่ะ? ผมไม่ได้เลือกที่จะรู้สึกแบบนี้แน่ๆ ถึงไม่เรื่องมากได้แล้วใครมันจะอยากมาเป็นเพื่อนไอโง่หัวรุนแรงเบียวอย่างผม?! ผมไม่อยากพึ่งเพื่อนคนนั้นอย่างเดียวเลยจริงๆ ผมรู้ว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป เหมือนความรู้สึกทุกๆอย่างที่ไปๆมาๆ ตามประสาชีวิต ไม่รู้สิ มันช่วยไม่ได้ที่จะกลัว ผมเหมือนเด็กสปอยบ่นไปเรื่อยขาดความอบอุ่นคนนึงเลย ...แต่มันคงเป็นงั้นจริงๆ
ผมมีแค่ฝันที่ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองอยากทำมันขนาดนั้นไหมกับความหวังเล็กน้อยๆว่าจะรู้ว่ารักคืออะไร จะไปรอดไหมนะถ้าความรู้สึกแบบนี้กลับมาในอนาคตอีก แค่ตอนนี้นั่งทำงานคนเดียวยังไม่ได้เลยตอนนี้ รู้สึกผิดกับทุกอย่างเลยไม่ใช่แค่เรื่องนี้ จริงๆ ผมสงสัยว่าตื่นมาได้ไงเหมือนกัน ทุกวัน ทำอะไรที่ตัวเองเสียใจเยอะขนาดนี้ คนปกติทุกคนเก่งกันจริงๆครับ ผมอยากจะมุดหายไปจากโลกไม่ก็ตายในอ้อมกอดคนที่ชอบเป็นช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตจรืงๆครับ จินตนาการไม่ได้เลยถ้าไม่มีแววตาวัยรุ่นและมีฝันที่พังแบบแม่จะเป็นยังไงในอนาคต แค่นี้ก็เหงาจนรู้สึกเหมือนจะตายจริงๆอยู่แล้ว... ช่างมันเถอะ ขอบคุณที่เสียเวลามาอ่านอะไรไม่รู้ยาวขนาดนี้นะครับถ้าอ่านถึง ขอบคุณจริงๆนะครับ
บทความบ่นระบายของวัยรุ่นอยากตายชั่วขณะ