ตั้งแต่นาทีที่ 43.10 เป็นต้นไป พระปัญญาได้กล่าวปรามาสล่วงเกินพระอรรถกถาจารย์ในอดีต กล่าวหาว่าพระอรรถกถาจารย์ไปแปลงร่างปฏิจจสมุปบาท ในองค์ธรรม "สังขาร" จากพระพุทธโอษฐ์เดิมที่ตรัสว่า หมายถึง กายสังขาร วจีสังขาร จิตตสังขาร เท่านั้น โดยกล่าวหาว่าพระอรรถกถาจารย์แปลงร่างเปลี่ยนเป็น อภิสังขาร 3 ได้แก่ ปุญญาภิสังขาร อปุญญาภิสังขาร และอเนญชาภิสังขาร
โดยพระปัญญาพูดไปก็หัวเราะขำไปด้วย แล้วบอกว่า พระอรรถกถาจารย์ที่ไปแปลงร่างปฏิจจสมุปบาทเนี่ย เค้านึกไม่ออกเลยว่า กายสังขาร วจีสังขาร จิตตสังขาร มันทำให้เกิดวิญญาณรู้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้ยังไง (คือพูดทำนองลบหลู่พระอรรถกถาจารย์ว่าไม่มีปัญญาพอจะคิดออกเพราะยากเกินไป) เลยแปลงร่างใหม่ซะเลย กลายเป็น ปุญญาภิสังขาร อปุญญาภิสังขาร และอเนญชาภิสังขาร เป็นปัจจัยให้เกิด "ปฏิสนธิวิญญาณ" ซะเลย

*********************************************************
แต่ในความเป็นจริงแล้ว พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสจากพระโอษฐ์เองว่า สังขาร ซึ่งเป็นองค์ธรรมในปฏิจจสมุปบาท หมายรวมถึง อภิสังขาร ได้แก่ ปุญญาภิสังขาร อปุญญาภิสังขาร และอเนญชาภิสังขาร มีหลักฐานปรากฏจากพระสูตรนั้นเอง ไม่ใช่คัมภีร์แต่งใหม่ตามที่พระปัญญากล่าวอ้างแต่อย่างใดเลย
https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=16&siri=47
รบกวนคุณอริยสัจหรือลูกศิษย์ของพระปัญญา ปัญญา นีลวณฺโณ ช่วยแก้ความเห็นเรื่องปฏิจจสมุปบาทของท่านด้วยนะครับ
โดยพระปัญญาพูดไปก็หัวเราะขำไปด้วย แล้วบอกว่า พระอรรถกถาจารย์ที่ไปแปลงร่างปฏิจจสมุปบาทเนี่ย เค้านึกไม่ออกเลยว่า กายสังขาร วจีสังขาร จิตตสังขาร มันทำให้เกิดวิญญาณรู้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้ยังไง (คือพูดทำนองลบหลู่พระอรรถกถาจารย์ว่าไม่มีปัญญาพอจะคิดออกเพราะยากเกินไป) เลยแปลงร่างใหม่ซะเลย กลายเป็น ปุญญาภิสังขาร อปุญญาภิสังขาร และอเนญชาภิสังขาร เป็นปัจจัยให้เกิด "ปฏิสนธิวิญญาณ" ซะเลย
*********************************************************
แต่ในความเป็นจริงแล้ว พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสจากพระโอษฐ์เองว่า สังขาร ซึ่งเป็นองค์ธรรมในปฏิจจสมุปบาท หมายรวมถึง อภิสังขาร ได้แก่ ปุญญาภิสังขาร อปุญญาภิสังขาร และอเนญชาภิสังขาร มีหลักฐานปรากฏจากพระสูตรนั้นเอง ไม่ใช่คัมภีร์แต่งใหม่ตามที่พระปัญญากล่าวอ้างแต่อย่างใดเลย
https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=16&siri=47