JJNY : 5in1 “ธนาธร”เปิดแคมเปญ│‘ไอติม’จี้รบ.ทบทวน│ก้าวไกลชี้เป็นเรื่องดี│สหภาพธ.ก.ส.บุกคลัง│โปแลนด์พร้อมติดตั้งนิวเคลียร์

“ธนาธร” เปิดแคมเปญ “สว.ประชาชน” ชวนคนร่วมสมัคร ล้างผลพวงรัฐประหาร
https://www.matichon.co.th/politics/thai-senate-2024/news_4537238

 
“ธนาธร” เปิดแคมเปญ “ส.ว.ประชาชน” ชวนคนร่วมสมัคร ล้างผลพวงรัฐประหาร
 
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 เมษายน 2567 ที่พรรคก้าวไกล นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงเปิดตัวแคมเปญ ส.ว.ประชาชน ของคณะก้าวหน้า พร้อมกล่าวว่า เราเล็งเห็นความสำคัญของการเลือก ส.ว.ในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. จึงอยากจะเชิญชวนประชาชนให้มีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง ส.ว.ครั้งนี้ โดยเป็นหนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้ง ที่ผ่านมาเราจึงได้มีการรณรงค์แคมเปญนี้มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ข้อมูลประชาชนได้เข้าใจการเลือกตั้ง ส.ว.มากยิ่งขึ้น
 
นายธนาธรกล่าวต่อว่า ประเทศไทย พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2560 โดยเฉพาะเรื่องการปิดสวิตช์ ส.ว.อยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ ขณะที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเดียวที่ได้รับการแก้ไขนั้น คือเรื่องระบบการเลือกตั้งและบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2564 จึงสะท้อนว่าแม้ปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ระบอบการรัฐประหารยุคนั้นยังอยู่ ด้วยเหตุนี้ โอกาสที่จะทำให้ ส.ว.เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะต้องได้รับความเห็นชอบ 1 ใน 3 ของเสียง ส.ว.ทั้งหมด
 
ก่อนยกตัวอย่างถึงกระบวนการต่างๆ ที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยหยิบยกเรื่องการเปลี่ยนแปลงสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขึ้นมาด้วยว่าสองกรณีนี้ไม่สามารถทำให้เราหลุดพ้นจากการสืบทอดอำนาจรัฐประหารออกได้ เพราะไม่ได้ใช้มาตรฐานเดียวกันในการตัดสิน ขณะเดียวกัน ทั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, ป.ป.ช., กสทช. และ กกต. คณะกรรมการหลายท่านก็ถูกแต่งตั้งขึ้นโดย ส.ว.
 
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใด ส.ว.ถึงมีความสำคัญ เพราะปัจจุบันสังคมเราอยู่กันแบบ 2 มาตรฐาน ฉะนั้นหากทำให้ทุกองค์กรกลับมายืนอยู่ในความยุติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ เชื่อว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ประเทศไทยอยู่กันอย่างสมานฉันท์และปรองดองได้แน่นอน
 
จึงคิดว่าระบอบรัฐสภาและการเลือกตั้ง ส.ว.น่าจะเป็นกระบวนการที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อคลายปมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนจึงอยากจะขอแรงจากทุกท่านช่วยกันผลักดัน ส.ว.ของประชาชนให้เข้าไปดำรงตำแหน่งในรัฐสภา เพราะหากไม่สามารถผลักดันได้สำเร็จจะต้องรอไปอีก 5 ปี จนกว่า ส.ว.ปี 67 จะหมดวาระ ฉะนั้นหากใครสนใจจะสมัครสามารถเข้าไปกรอกข้อมูลและตรวจสอบคุณสมบัติได้ที่เว็บไซต์ 
www.senate67.com
 
#มติชน_สวชุดใหม่ThailandInFocus
#เลือกสว
#สว2567
 


‘ไอติม’ จี้รบ.ทบทวน ร่างคำถามประชามติ แนะควรเปิดกว้าง ทวงถามความร่วมมือ จากพท.หนุนแก้กม.ปี’64
https://www.matichon.co.th/politics/news_4537189

‘ไอติม’ จี้รบ.ทบทวน ร่างคำถามประชามติ แนะควรเปิดกว้าง ทวงถามความร่วมมือ จากพท.หนุนแก้กม.ปี’64 ปลดล็อกเสียงข้างมาก

เมื่อวันที่ 22 เม.ย. เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เตรียมพิจารณารายงานของคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ ว่า หากเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ต้องเดินหน้าและยืนยันการทำประชามติ 3 ครั้ง ดังนั้นขอให้ทบทวนคำถามที่เสนอโดยคณะกรรมการ ซึ่งเป็นคำถามที่มีเงื่อนไข เพราะตามรายงานของคณะกรรมการ พบว่ามีข้อเสนอของอนุกรรมการ เสนอไว้หลายทางเลือก และพบว่ามีคำถามเปิดกว้าง เพื่อตอบโจทย์โอกาสประชามติที่จะผ่านความเห็นของประชาชนสูงสุด เนื่องจากการตั้งคำถามประชามติที่มีเงื่อนไข ไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 ทำให้คนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับบางส่วนของคำถามไม่รู้จะลงประชามติอย่างไร และทำให้การลงคะแนนเสียงไม่มีความเป็นเอกภาพเท่าที่ควร เพราะอาจมีคนที่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขที่ล็อกหมวด 1 และหมวด 2 อาจไม่ลงมติเห็นชอบทุกคน

ดังนั้นหากอยากเห็นการทำประชามติครั้งแรกผ่านความเห็นของประชาชนและการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่สุด ควรทบทวนคำถาม ให้เป็นลักษณะที่เปิดกว้าง เช่น เห็นด้วยหรือไม่ต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” นายพริษฐ์​กล่าว

นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า หากกระบวนการทำประชามติที่รัฐบาลเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ตนมีข้อเสนอคือ ควรแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2564 เพื่อแก้ไขหลักเกณฑ์ผ่านประชามติด้วยเสียงข้างมากเกินครึ่ง 2 ครั้ง โดยเรื่องดังกล่าวพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลเห็นตรงกันจึงยื่นร่างแก้ไขต่อสภาไปแล้ว ขณะนี้ผ่านกระบวนการรับฟังความเห็นแล้ว ดังนั้นต้องนัดหารือกับประธานสภาโดยเร็ว ต่อกรณีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อเดินหน้าเรื่องดังกล่าว



ก้าวไกล ชี้ เป็นเรื่องดี รบ.แก้ระเบียบกลาโหม สกัดรัฐประหาร แนะต้องปรับให้เชื่อมโยงพลเรือน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4537382

พริษฐ์ ชี้เป็นเรื่องดี รัฐบาล คิดแก้กม.กลาโหม สกัดรัฐประหาร แนะต้องปรับให้มีตัวแทนเชื่อมโยงพลเรือนมากขึ้น

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 22 เมษายน ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม มีข้อเสนอให้สภากลาโหม เห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…) พ.ศ. … และร่าง พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่…) พ.ศ. … เพื่อป้องกันการรัฐประหาร ว่า ความจริงร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม เป็นกฎหมายฉบับแรกๆ ที่พรรคก้าวไกลยื่นให้มีการแก้ไขต่อสภา และเห็นว่าเป็นร่างกฎหมายที่มีความสำคัญ หรือมีความจำเป็นที่ต้องมีการแก้ไขเพื่อยืนยันหลักการว่า กองทัพควรอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน ดังนั้นเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลเห็นความจำเป็นในการแก้ไขร่างดังกล่าว เพียงแต่อยากให้แก้ไขเนื้อหาที่แก่นสารโดยแท้จริง ซึ่ง ตัวแปรสำคัญคือ จะปฏิรูปเรื่องอำนาจที่มาของสภากลาโหมอย่างไร

นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า หากเป็นร่างที่เสนอโดยพรรคก้าวไกลจะเห็นว่าปรับในส่วนของอำนาจที่เปลี่ยนจากเดิม คือสภากลาโหมมีอำนาจเหนือกว่า  รมว.กลาโหมที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลพลเรือน มาทำให้บทบาทของสภากลาโหมเป็นเหมือนสภาที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ ให้ข้อมูลกับตัวแทนของรัฐบาลพลเรือน ส่วนที่มาจะมีการปรับสัดส่วนให้มีตัวแทนที่เชื่อมโยงกับรัฐบาล และพลเรือนมากขึ้น ไม่ได้เป็นเหมือนปัจจุบันที่ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการทหาร เพราะฉะนั้นต้องรอดูว่า ร่างแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ของรัฐบาลจะแก้ไขเรื่องที่มาของอำนาจสภากลาโหมเช่นไร แต่เป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลเห็นความจำเป็นของการแก้ไขร่างนี้
 


สหภาพธ.ก.ส. บุกคลัง ถามจุลพันธ์ 5 ข้อ เคลียร์เงินดิจิทัลฯ บี้ผ่านมติครม.-ชี้แจงสภาพคล่อง
https://www.matichon.co.th/economy/news_4537643

สหภาพ ธ.ก.ส. เข้าพบ ‘จุลพันธ์’ เคลียร์ปมเงินดิจิทัล ลุ้นเศรษฐา ชงมติเข้าครม. พรุ่งนี้
 
เมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่กระทรวงการคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภชัย วงศ์เวคิน ประธานสหภาพแรงงาน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เดินทางเข้าพบ และยื่นหนังสือเรื่อง การนำเงิน ธ.ก.ส.ไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ถึง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
 
โดยนายศุภชัยเผยหลังเข้าพบนายจุลพันธ์ว่า ได้ยื่นหนังสือไปเรียบร้อยแล้ว โดยสหภาพได้มีการตั้งคำถาม 5 ประเด็น ได้แก่ 1.การใช้เงินดังกล่าว ถูกกฎหมายหรือไม่ 2.ต้องมีการพิจารณาผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) 3.สภาพคล่องส่วนเกินของ ธ.ก.ส.มีเท่าไหร่ เพียงพอให้ใช้ทำโครงการหรือไม่ 4.รัฐบาลมีแผนตั้งงบประมาณ ชำระคืออย่างไร และ 5.รัฐบาลจะมีการชดเชยต้นทุนค่าดำเนินงานให้ ธ.ก.ส.อย่างไรบ้าง
 
นายศุภชัยกล่าวว่า ทั้งนี้ หลังจากเข้าพบ และได้รับการชี้แจงจากนายจุลพันธ์แล้ว นายจุลพันธ์ระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่าจะนำเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความว่าทำได้หรือไม่ รวมถึงส่งเป็นมติให้ ครม.พิจารณาด้วย โดยคาดว่าจะเข้า ครม.ในวันที่ 23 เมษายน ส่วนเรื่องสภาพคล่องก็อยากให้ชี้แจงด้วยว่ามีเท่าไหร่ เพราะตามข่าวที่ว่ามีสภาพคล่อง 2 แสนล้านบาทนั้น คือสภาพคล่องทั้งหมดที่มี ยังไม่ใช่สภาพคล่องส่วนเกิน
 
นายศุภชัยกล่าวว่า สำหรับการใช้เงิน ธ.ก.ส.สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น เป็นการใช้เงินตามมาตรา 28 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลังปี 2561 ที่เคยใช้ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรอยู่แล้ว ซึ่งไม่เกี่ยวกับ มาตรา 9 (3) ของ พ.ร.บ. ของ ธ.ก.ส. ดังนั้น ไม่ใช่เป็นการที่รัฐบาลกู้เงินจาก ธ.ก.ส. แต่เป็นใช้วิธีการทางงบประมาณ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้น คงต้องรอทางคณะกรรมการดิจิทัลชี้แจงต่อไป
 
เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ ข้อที่ 1 เรื่องของความถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหากกฤษฎีกาตีความว่าทำได้ ทำแล้วไม่ผิด ก็ว่าไปตามนั้น ทางสหภาพไม่ได้ติดขัดเรื่องใด ถ้าถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนรายละเอียดเรื่องสภาพคล่อง การชดเชยจากรัฐบาล รวมถึงกลุ่มที่จะแจกต้องเป็นเกษตรกรหรือไม่นั้น ก็คงให้คณะกรรมการชี้แจงเป็นลำดับถัดไป” นายศุภชัยกล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่