โรงแรมแห่งหนึ่งในเชียงใหม่บริเวณถนนคนเดินวัวลาย?

กระทู้สนทนา
เห็นคนอื่นเค้าเล่ากันเยอะ เราขอมาเล่าเรื่องของเราบ้างละกัน สวัสดีค่ะเราขออนุญาตใช้พื้นที่นี้เล่าเรื่องนี้นะคะ เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้นกับเราในเดือนกุมภาพันธ์เดือนแห่งความรักเอยใดเลยค่ะ เรื่องเริ่มมาจากว่าเรากับเพื่อนๆเรียนจบ ม.3 แล้วพวกเรานัดกันว่าจะไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วยกัน ขอใช้นามสมมุติเพื่อนๆว่า ปลา,เมย์,อ้อย,ไก่ ละกันค่ะ พวกเราทั้ง5คนวางแผนไว้ว่าวันแรกจะเที่ยวในตัวเมืองแล้วไปเดินวัวลายตอนเย็นเพื่อจะรอเพื่อนอีกคนตามมาในวันถัดไป ในวันก่อนที่เราไปเที่ยวเราก็เก็บของปกติเลยค่ะซึ่งก่อนออกบ้านเราก็เช็คของแล้วนะว่าไม่น่าจะลืมอะไร แต่พอขึ้นรถตู้ไปปุ๊บเราก็นึกขึ้นได้ว่าเราลืมพระ ซึ่งปกติเราจะเป็นคนที่ติดพระมากๆเลยไปไหนก็จะพกติดตัวตลอด แต่วันนั้นเราลืมไปเลย เราก็คิดว่าคงจะไม่มีอะไรหรอก พอไปถึงเชียงใหม่เราก็เที่ยวกันปกติทั้งเดินห้าง ไปคาเฟ่ ไปอ่างแก้ว บลาๆๆ จนมาถึงเวลาที่พวกเราจะต้องเข้าที่พักกันแล้ว ซึ่งแม่ของเมย์ได้ไปเช็คอินให้พวกเราตั้งแต่บ่ายแล้วนะคะ ตอนที่พวกเรานั่งแกร็บไปพี่คนขับรถก็ชวนคุยแล้วก็ถามว่าจะไปไหนกัน พวกเราก็บอกว่าจะไปโรงแรมB พี่คนขับก็มองแล้วก็พูดกับพวกเราแปลกๆ ซึ่งพวกเราก็ไม่ได้คิดอะไรนะคะจนพอพวกเราแยกย้ายกันเข้าห้องไปพักก่อนที่จะไปเดินวัวลายกัน คือพวกเราจะจับคู่นอนกันค่ะเพราะเป็นผู้หญิงกันหมด แบ่งได้ว่า เรานอนกับปลา(ห้อง217) เมย์นอนกับแม่ของเมย์(ห้อง218) ส่วนอ้อยนอนกับไก่(ห้อง219) ตอนแรกที่พวกเราไปถึงที่พักพวกเราก็แยกกันเอากระเป๋าไปเก็บ ตอนที่เราเห็นห้องครั้งแรกบอกเลยว่าฮวงจุ้ยห้องไม่ดีเลยแล้วของในห้องก็แปลกๆค่ะ 1.อย่างแรกเลยคือประตูเข้าห้องกับประตูห้องน้ำในห้องตรงกัน 2.เตียงในห้องจะเป็นเตียงคู่ ซึ่งเตียงนึงนอนขวางประตูเลย 3.ฝ้าในห้องเป็นฝ้าหลุมซึ่งพวกเรามีความเชื่อกันว่าฝ้าห้องนอนไม่ควรเป็นฝ้าหลุม 4.ประตูห้องน้ำเป็นล็อกจากด้านนอกซึ่งโดยปกติแล้วควรล็อกจากข้างใน 5.ในห้องมีแมสของใครตกอยู่ก็ไม่รู้ค่ะToT (ซึ่งห้องของเราดูน่ากลัวน้อยที่สุดแล้วค่ะ) ในตอนที่เปิดประตูเข้าห้องไป กลิ่นในห้องเหม็นอับแล้วก็เหม็นสาบอะไรไม่รู้ค่ะแล้วปลาก็เห็นเงาผู้ชายยืนอยู่ข้างเตียงแต่ปลาไม่ยอมบอกเราเพราะเดี๋ยวเราจะกลัว สักพักหลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อยพวกเราก็ไปเดินถนนคนเดินวัวลายกันซึ่งก่อนที่เรากับปลาออกห้องมาพวกเราก็ปิดประตูห้องน้ำกันสนิทแล้วนะคะ พอกลับมาที่ที่พักประตูห้องน้ำดันเปิดเองเฉยเลย ตอนที่เรากลับมาถึงที่พักก็ประมาณ4ทุ่มกว่าๆแล้ว แต่ก็ยังมีอารมณ์เล่นน้ำกันอยู่นะ555 พอพวกเราเล่นน้ำกันเสร็จก็แยกย้ายกันเข้าห้องแต่ไก่ขอมานอนกับเราและปลาค่ะ ส่วนอ้อยขอไปนอนห้องเมย์ แต่2คนนี้ไม่บอกสาเหตุนะคะว่าทำไม พอพวกเราอาบน้ำสระผมเสร็จแล้วพวกเราก็พากันเข้านอนค่ะ โดยไก่นอนเตียงเดียวกันกับปลาเพราะตัวเล็กส่วนเรานอนคนเดียว พวกเรา3คนตัดสินใจที่จะเปิดไฟนอนค่ะเพราะกลัว ในตอนดึกประมาณเที่ยงคืนครึ่งไก่กับปลาก็หลับไปแล้วส่วนเราพยายามที่จะหลับแต่ก็นอนไม่หลับค่ะทั้งๆที่เราเดิน+เล่นน้ำมาทั้งวันแถมเราก็เหนื่อยมากๆ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็นอนไม่หลับค่ะ แล้วเราก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องเราค่ะ เราก็คิดว่าอ้อยมาเคาะรึเปล่าเลยทักไปถาม ปรากฏว่าอ้อยหลับไปแล้ว หลังจากนั้นเราก็ได้ยินเสียงเคาะอีกครั้งค่ะแต่ในครั้งนี้ดูเหมือนคนโกรธอะไรมาแล้วมาเคาะประตูค่ะ ซึ่งพอได้ยินแบบนั้นแล้วเราก็เลยคลุมโปงแล้วข่มตานอนทันทีเลยค่ะ แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้นสิ่คะเพราะพอผ่านไปสักพักประมาณตี1เราได้ยินเสียงเคาะกำแพงข้างเตียงเราและรู้สึกเย็นวาบฝั่งเดียวคือฝั่งติดกำแพง เราเลยตัดสินใจเริ่มสวดมนต์ค่ะ เราสวดบทมหาจักรพรรดิหลายรอบมากๆ และแล้วพอใกล้ๆจะตี3เราเริ่มหายใจเหนื่อยหอบทั้งๆที่นอนอยู่เฉยๆ มือ แขน ขา เท้า ชาจนขยับไปไหนไม่ได้ เราพยายามที่จะเรียกปลาค่ะแต่เหมือนปลาจะไม่ได้ยิน เรารู้สึกเหนื่อยและหนักมากๆเหมือนใครมานั่งทับตัวค่ะ จนเราเริ่มที่จะขยับแขนได้นิดหน่อยเราเลยรีบกดโทรศัพท์โทรหาพ่อของเรา และเล่าเรื่องราวที่เจอให้ฟังทั้งที่เสียงก็ขาดๆหายๆ พอพ่อเราจับใจความได้พ่อเราก็เลยบอกให้เราสวดอิติปิโสย้อนกลับ เราก็สวดค่ะสวดไปเรื่อยๆหลายๆรอบจนเริ่มเบาตัวลงเราเลยตัดสินใจว่ายังไงคืนนี้ก็ต้องหลับเพราะวันพรุ่งนี้เราจะขึ้นดอยเราพยายามข่มตานอนหลับทั้งคืนค่ะแต่เราหลับไม่ได้เลย จนกระทั่งเสียงนาฬิกาปลุกที่ปลาตั้งไว้ให้ดังตอนตี5 ได้ดังขึ้นมา เรารู้สึกว่าเป็นเสียงสวรรค์เลยค่ะ ดีใจมากๆ ในที่สุดก็เช้าสักทีแต่หลังจากที่นาฬิกาปลุกของปลาดังเราก็ภาพตัดไปเลยตื่นมาอีกทีคือตอน7โมง ทุกคนก็ตื่นกันหมดแล้วเราเลยรีบอาบน้ำและเก็บของทุกอย่างแบบพร้อมออกจากที่พัก พอทานอาหารเช้าและเก็บของขึ้นรถเสร็จ พวกเราก็ขึ้นรถแม่ของเมย์และพวกเราทุกคนก็เริ่มเล่าเรื่องที่เจอกันเมื่อคืน ปรากฏว่าห้องของอ้อยกับไก่ ไฟในห้องแดงมากจนน่ากลัว เตียงหันหัวไปทางทิศตะวันตก ห้องน้ำปิดประตูไม่ได้ และได้ยินเสียงประตูเอง ซึ่งพอออกจากที่พักนี้พวกเราก็เพิ่งมาสังเกตุว่า โรงแรมอยู่ในแอเรียของวัดเก่า ซึ่งเป็นเหมือนวัดพม่าค่ะ พอกลับมาจากเชียงใหม่เราก็เอาชื่อโรงแรมนี้ไปค้นหาบนอากู๋ ปรากฏว่าไม่มีรีวิวเลยแม้แต่รีวิวเดียว...

จบไปแล้วนะคะกับเรื่องโรงแรมแห่งหนึ่งที่เชียงใหม่ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ 💗💗💗
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่