พึ่งมีโอกาสลงทุนหุ้นอเมริกา ตอนแรกกะจะ DCA พร้อมลงเงินก้อนใหญ่ไปในหุ้นปู่ เพราะจากที่เคยอ่านมา(แต่ไม่ละเอียดพอ) ว่าหุ้นของปู่ BRK จะทำผลตอบแทนได้ราวๆ 20%ต่อปี ก็เลยคิดว่าจะแบ่งเงินส่วนนึงซื้อหุ้นปู่ทิ้งไว้แล้วก็เติมเงินทุกเดือน พอเวลาผ่านไปสักยี่สิบปีผลตอบแทนกลับมาน่าจะอยู่ในขั้นพอใจอยู่ ส่วนเงินที่เหลือที่กันไว้ก็จะเทรดตามที่เราชอบ ซื้อหุ้นที่อยากซื้อไป

แต่พอได้อ่านบทความของดร.นิเวศน์ เหมือนจะเป็นว่าคำว่าทบต้น 20%นี้คือการนำผลตอบแทนชั่วชีวิตที่ปู่เขาทำได้ ซึ่งตอนเมื่อหลายสิบปีก่อนนี่ทบต้นไม่ต่ำว่า 40%ซึ่งเยอะมาก แต่พอช่วงสิบปีหลังนี้กลับพบว่าปู่ทำผลตอบแทนได้น้อยลงมากไม่ถึง 10%ต่อปี อันเนื่องจากเงินทุนที่เยอะมากๆๆๆๆ ทำให้เลือกหุ้นที่จะลงไม่ง่ายเหมือนเดิม ประกอบกับคนเริ่มใช้หลักการปู่มากขึ้น กลายเป็นการหาหู้นดีราคาถูกในหุ้นขนาดใหญ่มันทำได้ยากกว่าเดิม แถมหุ้นยุคใหม่ๆที่ผลตอบแทนดีมันออกไปในแนวหุ้นเทคโนโลยี่กันหมดซึ่งปู่เขาก็ไม่เข้าใจธุรกิจแนวนี้มากนักเลยไม่ได้สนใจมาก ก็ตามหลักการที่ปู่สอนทุกอย่างว่าให้ลงทุนในธุรกิจที่ตัวเองเข้าใจ 

ทีนี้เลยสับสนเลยครับ เพราะกะว่าจะมีหุ้นสักตัวที่เป้นหุ้นของตายที่ว่าต่อให้ผมไปซื้อหุ้นตัวไหนแล้วผลตอบแทนไม่ดี แต่ผลสุดท้ายยังมีหุ้นปู่ที่จะทำให้เรามีเงินก้อนมากพอในอีกสิบยี่สิบปีข้างหน้าให้อุ่นใจ แต่พออ่านข้อมูลล่าสุดแล้วผลตอบแทนปัจจุบันทบต้นอาจจะราวๆ 5%ต่อปีซะด้วยซ้ำ นั้นก็แปลว่าหากผมซื้อหุ้นปู่ตอนนี้แล้วไม่มีทางจะคาดหวัง20%ได้แล้ว เพราะตัวเลขนี้คือตัวเลขการลงทุนทั้งชีวิตของปู่ ไม่ใช่นับจากปีนี้เป็นต้นไปที่จะได้เรท20%

ผมเข้าใจแบบนี้ถูกหรือเปล่าครับ แสดงว่าผมควรกระจายการลงทุนไปในหุ้นเมกะเทรนด์ที่เป็นผู้นำ หรือถ้าไม่คิดมากก็ซื้อหุ้นในกลุ่ม S&P500 หรือแนสแด๊กไปเลยดีกว่า เพราะคำนวนแล้วผลตอบแทนจะได้ราวๆ 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ยังได้มากกว่าซื้อหุ้นปู่

หรือผมเข้าใจอะไรผิดเปล่าครับ รบกวนแก้ไขให้ด้วย ขอบคุณครับ