ชัยธวัช โว ข้อมูลอื้อซักฟอกได้แน่ ยันไม่ดิสเครดิตรบ. พักโทษทักษิณ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4450389
ชัยธวัช ขอบคุณ หลัง ธนกร เบรคซักฟอกหากข้อมูลไม่พอ โว เยอะจนต้องคัดออก ยัน ไร้เจตนา ดิสเครดิตรบ. ปม ทักษิณ ชี้ เป็นหน้าที่ฝ่ายค้านที่ต้องตรวจสอบ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 มีนาคม ที่รร.ดวงตะวัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นาย
ชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นาย
ธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ออกมาแนะนำอย่าฝืนเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจหากมีข้อมูลไม่พอ ว่า ไม่ต้องห่วง อันที่จริงข้อมูลเยอะจนต้องคัดออก ขอบคุณในความหวังดีของฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะการอภิปรายตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลเป็นหน้าที่ ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการเปิดอภิปรายภายในสมัยประชุมนี้หรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า จะมีการเสนอและนัดประชุมอย่างเป็นทางการ กับพรรคร่วมฝ่ายค้านในสัปดาห์หน้า ส่วนได้มีการหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านบ้างหรือยังนั้น ตนเดินทางมา จ.เชียงใหม่จึงไม่ได้ติดตาม แต่คิดว่าพรรคหลักอย่างพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็น่าจะพร้อมอยู่แล้วในเบื้องต้น
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาระบุว่า ให้เลิกดิสเครดิตรัฐบาลปมพักโทษ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้มีความสำคัญ เรายืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคลของใคร แต่เป็นกรณีที่ถูกทำให้ตั้งคำถามจริง ๆ ว่า มีการใช้กฎหมายหรือระเบียบ โดยที่ไม่เสมอภาคเท่าเทียมหรือไม่ เรามีคำถามที่ส.ส.ของพรรคก้าวไกลได้ตั้งกระทู้ถามไปแล้ว ว่าการพักโทษกรณีนายทักษิณ ได้มีการปฏิบัติตามกฏหมายรวมถึงระเบียบที่เกี่ยวข้องจริงหรือไม่ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน นอกจากบอกว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลที่มายืนยันว่าได้ทำตามระเบียบแล้วจริง โดยให้เหตุผลว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องที่สาธารณะตั้งข้อสงสัยอยู่
“
คงไม่ใช่เป็นเรื่องการดิสเครดิต แต่เป็นหน้าที่ฝ่ายค้านที่จะต้องตรวจสอบ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ทีบอกว่าจะต้องสร้างหลักนิติรัฐที่แข็งแรง เราจึงไม่อยากเห็นนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชน เพราะจะทำให้สถานการณ์ทางการเมือง หรือความขัดแย้ง จะคลี่คลายดีขึ้น หลังจากที่มีรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่คณะรัฐประหาร ประชาชนก็คาดหวังว่าระบบกระบวนการยุติธรรมจะดีขึ้น” นาย
ชัยธวัชกล่าว
‘หมออ๋อง’ ยืนเคว้ง 10 นาที ก่อนส่งผอ.มารับ แจงอยู่ระหว่าง ไปพบที่รัฐสภา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4450206
‘หมออ๋อง’ ยืนเคว้งหน้าตึกบัญฯ ไม่มีรองเลขาฯนายกฯต้อนรับ ด้าน ผอ.กองงานฯ เผย อยู่ระหว่างรอไปพบ
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย
ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอพบตัวแทนสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และทวงถามร่างกฎหมายการเงินที่ยังค้างอยู่ 31 ฉบับ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเสร็จสิ้น นาย
ปดิพัทธ์ได้เดินเท้าต่อมายังบริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 เพื่อรอพบกับตัวแทนของสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) โดยระหว่างที่ยืนรออยู่หน้าตึกบัญชาการ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลประจำทำเนียบรัฐบาล ได้พยายามติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องว่าใครจะลงมาพูดคุย ทำให้รองประธานสภา คนที่ 1 ซึ่งยืนรออยู่พูดว่า “
สำนักงานเลขาธิการนายกฯมีกี่คน ไม่อยู่สักคนเลยเหรอครับ“
จากนั้นรองประธานสภา คนที่ 1 ได้โชว์ภาพเอกสารที่ส่งมายังสำนักเลขาธิการนายกฯ ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า จะมีการมาสอบถามความคืบหน้าของร่างกฎหมายต่อสำนักเลขาธิการนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที คณะของนาย
จงเจริญ สุวรรณรัตน์ ผอ.กองงานประสานงานทางการเมืองสำนัก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้มาพบกับนายปดิพัทธ์ พร้อมกับเชิญขึ้นไปพูดคุยที่ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 2
ต่อมาเวลา 14.00 น. นาย
ปดิพัทธ์กล่าวว่า การมาที่ทำเนียบในวันนี้ เพื่อมาดูกระบวนการทำงานทางธุรการ ว่าเมื่อมีการส่งร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเงินมาแล้ว มีกระบวนการอย่างไร เพราะเวลาบอกว่ารอความเห็นจากหน่วยงานมันครอบคลุมทุกอย่าง รวมถึงมาสอบถามเรื่องการการตอบกระทู้ถาม ที่เป็นประเด็นว่ารัฐมนตรีไม่มาตอบ แม้ข้อบังคับการประชุมสภาระบุว่า หากรัฐมนตรีไม่มาตอบต้องชี้แจงเป็นหนังสือ บางท่านก็ชี้แจงละเอียด แต่บางท่านก็ชี้แจงไม่ละเอียด แค่บอกว่าติดภารกิจ
ดังนั้น ต่อจากนี้อยากให้ชี้แจงชัดเจนขึ้น อีกประเด็นคือเรื่องความเดือดร้อนประชาชนที่ส่งมาที่ทำเนียบ หลังจากมีหารือในการประชุมสภา ตรงนี้เราจะติดตามได้อย่างไร เนื่องจากประธานสภาร้อนใจว่าเรื่องหารือมีการตอบรับน้อย และจะสื่อสารกับประชาชนอย่างไร
ด้านนาย
จงเจริญกล่าวว่า รองประธานสภา คนที่ 1 ทำหนังสือมาถึง สลน. โดยมีการพิจารณาแล้ว มีการมอบหมายตนไปพบรองประธานสภา คนที่ 1 ที่รัฐสภา ตนจึงอยู่ระหว่างรอว่าจะให้ไปพบเมื่อไหร่ เป็นจังหวะหนังสือที่ส่งสวนทางกันจึงอาจดูขลุกขลักในวันนี้
จากนั้นเวลา 14.35 น. นาย
ปดิพัทธ์ให้สัมภาษณ์หลังการหารือว่า วันนี้ไม่ได้พบกับผู้บริหารรัฐบาล เพียงแต่พบกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ซึ่งได้รับฟังและเข้าใจว่าร่างกฎหมายต้องรับฟังความเห็นหน่วยงานต่างๆจำนวนเยอะ แต่อยากให้เพิ่มรายละเอียดในเอกสารที่ตอบกลับสภาให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น เช่นคำว่ารอหน่วยงาน ว่ารัฐบาลส่งไปกี่หน่วยงาน มีหน่วยงานไหนตอบแล้วและยังไม่ตอบมา เพื่อทางสภาจะได้เห็นความชัดเจน รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงก็จะได้ประเมินผลฝ่ายกฎหมายของตัวเอง
นาย
ปดิพัทธ์กล่าวว่า ส่วนปัญหาที่รัฐมนตรีไม่ตอบกระทู้ สิ่งที่ตนวิจารณ์คือหนังสือที่ตอบกลับจากรัฐมนตรีที่บอกว่าติดภารกิจไม่สามารถตอบกระทู้ได้ ตามข้อบังคับต้องเขียนว่าเป็นภารกิจที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ที่ผ่านมาที่ทั้งรัฐมนตรีที่ทำได้ดีและไม่ดี บางคนตอบเพียงว่าติดภารกิจ บางคนก็ลงรายละเอียด ตนมองว่าการไม่บอกรายละเอียดว่าเป็นภารกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เป็นการทำผิดข้อบังคับ จึงจำเป็นต้องรายงานต่อสาธารณะ และจากนี้ก็ได้ประสานว่าการทำหนังสือขอให้ทำโดยสมบูรณ์ ทั้งนี้ การหารือสองประเด็นวันนี้เรียกว่าเขายอมรับข้อเสนอแต่จะทำได้หรือไม่คิดว่าเป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมาสอบถามความคืบหน้ากฎหมายที่ทำเนียบอีกหรือไม่ นาย
ปดิพัทธ์กล่าวว่า “
เดี๋ยวค่อยว่ากัน ”
ส.ส.ก้าวไกล แนะรื้อสัญญาพระราม 2 ดูให้ชัด ฉบับไหนมีปัญหายกเลิก หาผู้รับเหมาใหม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4449905
ณัชชา ยกถนนพระราม 2 วัดความสามารถนายกฯ แนะกางสัญญาบนโต๊ะ ดูให้ชัด อันไหนมีปัญหายกเลิกหาผู้รับเหมารายใหญ่
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่รัฐสภา นาย
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การก่อสร้างถนนพระราม 2 ที่สร้างยังไม่เสร็จว่า นายกรัฐมนตรีได้มีการหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุย ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาคาราคาซังก่อสร้างล่าช้านานกว่า 50 ปี ซึ่งตนเองเป็น ส.ส.ที่อยู่ในพื้นที่นั้นมาตั้งแต่ปี 2562 มีเรื่องผลกระทบจากการก่อสร้าง ปัญหามลภาวะที่เกิดจากการก่อสร้างถนนพระราม 2 นั้นมีมาตลอด โดยเฉพาะช่วงที่มีอุบัติเหตุจากการก่อสร้างด้วยนั้นก็มีร้องเรียนจากประชาชน ฉะนั้นวันนี้ที่นายกฯ ได้หยิบเรื่องนี้มาพูดเพราะเป็นกระแสสังคมก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และตนเป็น ส.ส.ในพื้นที่ก็อยากจะฝากไปยังนายกฯ ถึงเรื่ององค์ประกอบของการก่อสร้างหรือแพล้นปูน ตลอดของถนนพระราม 2 มีแพล้นปูนกว่า 18 แพล้น ซึ่งแต่ละแพล้นปูนอยู่ในแหล่งชุมชนและส่งผลให้เกิดมลภาวะ และมีผลต่อการใช้ชีวิตของประชาชนในชุมชนนั้น จึงอยากให้นายกฯ คำนึงถึงปัญหาบริบทโดยรอบด้วย
ใครก็ตามประชาชนที่สัญจรบนถนนพระราม 2 เมื่อได้เห็นนายกฯ หยิบเรื่องนี้มาพูดคุยก็ต่างตื่นเต้นตกใจ แต่คนที่ใช้ชีวิตอยู่ถนนพระราม 2 ฟังแล้วเข้าใจว่าเป็นเพียงแค่อีกหนึ่งครั้งที่มีการหยิบมาพูดคุยแล้วก็จะผ่านไปหรือไม่ เพราะพวกเขาพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน ตนเองจึงขอฝากไปยังนายกฯ ว่า ถ้าท่านทำไม่แล้วเสร็จตามที่ท่านและรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมว่าไว้ได้นั้นก็เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่าท่านไร้ความสามารถ และอยากให้คิดตามเรื่องนี้กันยาวๆ ที่ผ่านมานายกฯ ได้หยิบยกคุยหลายเรื่องหลังได้เป็นนายกฯ แต่ตนก็ไม่อยากไปวิจารณ์ว่าสำเร็จไปแล้วกี่เรื่อง ถ้านายกฯ บอกว่าเรื่องนี้จะเสร็จภายในสงกรานต์ปี 67 ตนก็ขอเป็นกำลังใจให้ นาย
ณัฐชากล่าว
นาย
ณัฐชากล่าวอีกว่า ปัญหาเรื่องการก่อสร้างถนนพระราม 2 ต้องหยิบทุกสัญญามาวางไว้บนโต๊ะ ก็ดูว่าสัญญาไหนมีปัญหา เรื่องเทคนิคและบริบทพื้นที่ บริษัทรับเหมาไหนที่ทำไม่ตรงสัญญา ไม่ส่งมอบงานตามสัญญา หรือมาตรฐานการก่อสร้างต่ำกว่าคุณภาพก็ให้หาผู้รับเหมารายใหม่ อย่างไรก็ตามขอให้ท่านกล้าที่จะใช้กลไกของกฎหมายในการยกเลิกสัญญาและหาผู้รับเหมารายใหม่ และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดองทุกงานไว้ให้ผู้รับเหมาเพียงรายเดียว นี่คือสิ่งที่จะทำให้ถนนพระราม 2 แล้วเสร็จได้ตามวัตถุประสงค์
ดัชนีหุ้นไทยปิดลบ 3.25 จุด
https://www.dailynews.co.th/news/3222456/
ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 3.25 จุด จากแรงขายหุ้นเดลต้า รอดูตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐ ยุโรป
บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 1 มี.ค. 67 ผันผวนในแดนบวกและลบ จากการปรับตัวลดลงของหุ้นเดลต้า เนื่องจากนักลงทุนรอดูตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐ ยุโรป และการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน ส่งผลให้ ณ เวลา 17.02 น. ดัชนีหุ้นปิดที่ 1,367.42 จุด ลดลง 3.25 จุด หรือ 0.24% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 49,556.62 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 413.24 จุด ลดลง 1.66 จุด หรือ 0.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,156.03 ล้านบาท
น.ส.
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนหุ้นในระยะนี้ แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวต่อเนื่องของบิตคอยน์ ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาแตะ 62,000-63,000 ดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 2 ปี จากกระแสคาดการณ์เหตุการณ์บิตคอยน์ลดลงครึ่งหนึ่ง ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือน เม.ย. นี้ และความต้องการที่เพิ่มขึ้นของกองทุนสปอต บิตคอยน์ อีทีเอฟ
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ
1. เอโอที ปิดที่ 65.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
2. ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 123.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
3. เอสซีบี ปิดที่ 111.50 บาท ลดลง -1.00 บาท
4. ปตท.สผ. ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง -1.00 บาท
5. แอดวานซ์ ปิดที่ 206.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
JJNY : 5in1 ชัยธวัชยันไม่ดิสเครดิตรบ.│‘หมออ๋อง’ยืนเคว้ง│ส.ส.ก้าวไกลแนะรื้อสัญญา│หุ้นไทยปิดลบ│ยูเอ็นร้องปิดกั้นรบ.เมียนมา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4450389
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 มีนาคม ที่รร.ดวงตะวัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ออกมาแนะนำอย่าฝืนเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจหากมีข้อมูลไม่พอ ว่า ไม่ต้องห่วง อันที่จริงข้อมูลเยอะจนต้องคัดออก ขอบคุณในความหวังดีของฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะการอภิปรายตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลเป็นหน้าที่ ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการเปิดอภิปรายภายในสมัยประชุมนี้หรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า จะมีการเสนอและนัดประชุมอย่างเป็นทางการ กับพรรคร่วมฝ่ายค้านในสัปดาห์หน้า ส่วนได้มีการหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านบ้างหรือยังนั้น ตนเดินทางมา จ.เชียงใหม่จึงไม่ได้ติดตาม แต่คิดว่าพรรคหลักอย่างพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็น่าจะพร้อมอยู่แล้วในเบื้องต้น
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาระบุว่า ให้เลิกดิสเครดิตรัฐบาลปมพักโทษ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้มีความสำคัญ เรายืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคลของใคร แต่เป็นกรณีที่ถูกทำให้ตั้งคำถามจริง ๆ ว่า มีการใช้กฎหมายหรือระเบียบ โดยที่ไม่เสมอภาคเท่าเทียมหรือไม่ เรามีคำถามที่ส.ส.ของพรรคก้าวไกลได้ตั้งกระทู้ถามไปแล้ว ว่าการพักโทษกรณีนายทักษิณ ได้มีการปฏิบัติตามกฏหมายรวมถึงระเบียบที่เกี่ยวข้องจริงหรือไม่ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน นอกจากบอกว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลที่มายืนยันว่าได้ทำตามระเบียบแล้วจริง โดยให้เหตุผลว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องที่สาธารณะตั้งข้อสงสัยอยู่
“คงไม่ใช่เป็นเรื่องการดิสเครดิต แต่เป็นหน้าที่ฝ่ายค้านที่จะต้องตรวจสอบ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ทีบอกว่าจะต้องสร้างหลักนิติรัฐที่แข็งแรง เราจึงไม่อยากเห็นนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชน เพราะจะทำให้สถานการณ์ทางการเมือง หรือความขัดแย้ง จะคลี่คลายดีขึ้น หลังจากที่มีรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่คณะรัฐประหาร ประชาชนก็คาดหวังว่าระบบกระบวนการยุติธรรมจะดีขึ้น” นายชัยธวัชกล่าว
‘หมออ๋อง’ ยืนเคว้ง 10 นาที ก่อนส่งผอ.มารับ แจงอยู่ระหว่าง ไปพบที่รัฐสภา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4450206
‘หมออ๋อง’ ยืนเคว้งหน้าตึกบัญฯ ไม่มีรองเลขาฯนายกฯต้อนรับ ด้าน ผอ.กองงานฯ เผย อยู่ระหว่างรอไปพบ
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอพบตัวแทนสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และทวงถามร่างกฎหมายการเงินที่ยังค้างอยู่ 31 ฉบับ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเสร็จสิ้น นายปดิพัทธ์ได้เดินเท้าต่อมายังบริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 เพื่อรอพบกับตัวแทนของสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) โดยระหว่างที่ยืนรออยู่หน้าตึกบัญชาการ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลประจำทำเนียบรัฐบาล ได้พยายามติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องว่าใครจะลงมาพูดคุย ทำให้รองประธานสภา คนที่ 1 ซึ่งยืนรออยู่พูดว่า “สำนักงานเลขาธิการนายกฯมีกี่คน ไม่อยู่สักคนเลยเหรอครับ“
จากนั้นรองประธานสภา คนที่ 1 ได้โชว์ภาพเอกสารที่ส่งมายังสำนักเลขาธิการนายกฯ ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า จะมีการมาสอบถามความคืบหน้าของร่างกฎหมายต่อสำนักเลขาธิการนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที คณะของนายจงเจริญ สุวรรณรัตน์ ผอ.กองงานประสานงานทางการเมืองสำนัก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้มาพบกับนายปดิพัทธ์ พร้อมกับเชิญขึ้นไปพูดคุยที่ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 2
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายปดิพัทธ์กล่าวว่า การมาที่ทำเนียบในวันนี้ เพื่อมาดูกระบวนการทำงานทางธุรการ ว่าเมื่อมีการส่งร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเงินมาแล้ว มีกระบวนการอย่างไร เพราะเวลาบอกว่ารอความเห็นจากหน่วยงานมันครอบคลุมทุกอย่าง รวมถึงมาสอบถามเรื่องการการตอบกระทู้ถาม ที่เป็นประเด็นว่ารัฐมนตรีไม่มาตอบ แม้ข้อบังคับการประชุมสภาระบุว่า หากรัฐมนตรีไม่มาตอบต้องชี้แจงเป็นหนังสือ บางท่านก็ชี้แจงละเอียด แต่บางท่านก็ชี้แจงไม่ละเอียด แค่บอกว่าติดภารกิจ
ดังนั้น ต่อจากนี้อยากให้ชี้แจงชัดเจนขึ้น อีกประเด็นคือเรื่องความเดือดร้อนประชาชนที่ส่งมาที่ทำเนียบ หลังจากมีหารือในการประชุมสภา ตรงนี้เราจะติดตามได้อย่างไร เนื่องจากประธานสภาร้อนใจว่าเรื่องหารือมีการตอบรับน้อย และจะสื่อสารกับประชาชนอย่างไร
ด้านนายจงเจริญกล่าวว่า รองประธานสภา คนที่ 1 ทำหนังสือมาถึง สลน. โดยมีการพิจารณาแล้ว มีการมอบหมายตนไปพบรองประธานสภา คนที่ 1 ที่รัฐสภา ตนจึงอยู่ระหว่างรอว่าจะให้ไปพบเมื่อไหร่ เป็นจังหวะหนังสือที่ส่งสวนทางกันจึงอาจดูขลุกขลักในวันนี้
จากนั้นเวลา 14.35 น. นายปดิพัทธ์ให้สัมภาษณ์หลังการหารือว่า วันนี้ไม่ได้พบกับผู้บริหารรัฐบาล เพียงแต่พบกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ซึ่งได้รับฟังและเข้าใจว่าร่างกฎหมายต้องรับฟังความเห็นหน่วยงานต่างๆจำนวนเยอะ แต่อยากให้เพิ่มรายละเอียดในเอกสารที่ตอบกลับสภาให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น เช่นคำว่ารอหน่วยงาน ว่ารัฐบาลส่งไปกี่หน่วยงาน มีหน่วยงานไหนตอบแล้วและยังไม่ตอบมา เพื่อทางสภาจะได้เห็นความชัดเจน รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงก็จะได้ประเมินผลฝ่ายกฎหมายของตัวเอง
นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ส่วนปัญหาที่รัฐมนตรีไม่ตอบกระทู้ สิ่งที่ตนวิจารณ์คือหนังสือที่ตอบกลับจากรัฐมนตรีที่บอกว่าติดภารกิจไม่สามารถตอบกระทู้ได้ ตามข้อบังคับต้องเขียนว่าเป็นภารกิจที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ที่ผ่านมาที่ทั้งรัฐมนตรีที่ทำได้ดีและไม่ดี บางคนตอบเพียงว่าติดภารกิจ บางคนก็ลงรายละเอียด ตนมองว่าการไม่บอกรายละเอียดว่าเป็นภารกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เป็นการทำผิดข้อบังคับ จึงจำเป็นต้องรายงานต่อสาธารณะ และจากนี้ก็ได้ประสานว่าการทำหนังสือขอให้ทำโดยสมบูรณ์ ทั้งนี้ การหารือสองประเด็นวันนี้เรียกว่าเขายอมรับข้อเสนอแต่จะทำได้หรือไม่คิดว่าเป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมาสอบถามความคืบหน้ากฎหมายที่ทำเนียบอีกหรือไม่ นายปดิพัทธ์กล่าวว่า “เดี๋ยวค่อยว่ากัน ”
ส.ส.ก้าวไกล แนะรื้อสัญญาพระราม 2 ดูให้ชัด ฉบับไหนมีปัญหายกเลิก หาผู้รับเหมาใหม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4449905
ณัชชา ยกถนนพระราม 2 วัดความสามารถนายกฯ แนะกางสัญญาบนโต๊ะ ดูให้ชัด อันไหนมีปัญหายกเลิกหาผู้รับเหมารายใหญ่
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การก่อสร้างถนนพระราม 2 ที่สร้างยังไม่เสร็จว่า นายกรัฐมนตรีได้มีการหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุย ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาคาราคาซังก่อสร้างล่าช้านานกว่า 50 ปี ซึ่งตนเองเป็น ส.ส.ที่อยู่ในพื้นที่นั้นมาตั้งแต่ปี 2562 มีเรื่องผลกระทบจากการก่อสร้าง ปัญหามลภาวะที่เกิดจากการก่อสร้างถนนพระราม 2 นั้นมีมาตลอด โดยเฉพาะช่วงที่มีอุบัติเหตุจากการก่อสร้างด้วยนั้นก็มีร้องเรียนจากประชาชน ฉะนั้นวันนี้ที่นายกฯ ได้หยิบเรื่องนี้มาพูดเพราะเป็นกระแสสังคมก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และตนเป็น ส.ส.ในพื้นที่ก็อยากจะฝากไปยังนายกฯ ถึงเรื่ององค์ประกอบของการก่อสร้างหรือแพล้นปูน ตลอดของถนนพระราม 2 มีแพล้นปูนกว่า 18 แพล้น ซึ่งแต่ละแพล้นปูนอยู่ในแหล่งชุมชนและส่งผลให้เกิดมลภาวะ และมีผลต่อการใช้ชีวิตของประชาชนในชุมชนนั้น จึงอยากให้นายกฯ คำนึงถึงปัญหาบริบทโดยรอบด้วย
ใครก็ตามประชาชนที่สัญจรบนถนนพระราม 2 เมื่อได้เห็นนายกฯ หยิบเรื่องนี้มาพูดคุยก็ต่างตื่นเต้นตกใจ แต่คนที่ใช้ชีวิตอยู่ถนนพระราม 2 ฟังแล้วเข้าใจว่าเป็นเพียงแค่อีกหนึ่งครั้งที่มีการหยิบมาพูดคุยแล้วก็จะผ่านไปหรือไม่ เพราะพวกเขาพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน ตนเองจึงขอฝากไปยังนายกฯ ว่า ถ้าท่านทำไม่แล้วเสร็จตามที่ท่านและรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมว่าไว้ได้นั้นก็เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่าท่านไร้ความสามารถ และอยากให้คิดตามเรื่องนี้กันยาวๆ ที่ผ่านมานายกฯ ได้หยิบยกคุยหลายเรื่องหลังได้เป็นนายกฯ แต่ตนก็ไม่อยากไปวิจารณ์ว่าสำเร็จไปแล้วกี่เรื่อง ถ้านายกฯ บอกว่าเรื่องนี้จะเสร็จภายในสงกรานต์ปี 67 ตนก็ขอเป็นกำลังใจให้ นายณัฐชากล่าว
นายณัฐชากล่าวอีกว่า ปัญหาเรื่องการก่อสร้างถนนพระราม 2 ต้องหยิบทุกสัญญามาวางไว้บนโต๊ะ ก็ดูว่าสัญญาไหนมีปัญหา เรื่องเทคนิคและบริบทพื้นที่ บริษัทรับเหมาไหนที่ทำไม่ตรงสัญญา ไม่ส่งมอบงานตามสัญญา หรือมาตรฐานการก่อสร้างต่ำกว่าคุณภาพก็ให้หาผู้รับเหมารายใหม่ อย่างไรก็ตามขอให้ท่านกล้าที่จะใช้กลไกของกฎหมายในการยกเลิกสัญญาและหาผู้รับเหมารายใหม่ และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดองทุกงานไว้ให้ผู้รับเหมาเพียงรายเดียว นี่คือสิ่งที่จะทำให้ถนนพระราม 2 แล้วเสร็จได้ตามวัตถุประสงค์
ดัชนีหุ้นไทยปิดลบ 3.25 จุด
https://www.dailynews.co.th/news/3222456/
ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 3.25 จุด จากแรงขายหุ้นเดลต้า รอดูตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐ ยุโรป
บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 1 มี.ค. 67 ผันผวนในแดนบวกและลบ จากการปรับตัวลดลงของหุ้นเดลต้า เนื่องจากนักลงทุนรอดูตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐ ยุโรป และการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน ส่งผลให้ ณ เวลา 17.02 น. ดัชนีหุ้นปิดที่ 1,367.42 จุด ลดลง 3.25 จุด หรือ 0.24% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 49,556.62 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 413.24 จุด ลดลง 1.66 จุด หรือ 0.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,156.03 ล้านบาท
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนหุ้นในระยะนี้ แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวต่อเนื่องของบิตคอยน์ ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาแตะ 62,000-63,000 ดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 2 ปี จากกระแสคาดการณ์เหตุการณ์บิตคอยน์ลดลงครึ่งหนึ่ง ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือน เม.ย. นี้ และความต้องการที่เพิ่มขึ้นของกองทุนสปอต บิตคอยน์ อีทีเอฟ
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ
1. เอโอที ปิดที่ 65.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
2. ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 123.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
3. เอสซีบี ปิดที่ 111.50 บาท ลดลง -1.00 บาท
4. ปตท.สผ. ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง -1.00 บาท
5. แอดวานซ์ ปิดที่ 206.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท