10.21 น.
หนาวนี้เหมือนมีไฟ อบไอร้อน
สวนป่า พนาดร นอนผวา
เรไร ไร้เสียง ไร้มนตรา
ไร้ดุริยา หริ่งหรีด กรีดระวังไพร
จิตไร้สำนึก กระอืก กระอัก
ใจพะวัก พะวง คิดสงสัย
เหม่อมอง นภาผ่อง คับข้องใจ
วันนี้ ทำไม ฟ้าไร้เมฆิน
ธาราระทม ด้วยลมร้อนเป่า
เห็นแต่โขด ทรายขาว ราวโขดหิน
ธารธารา ชลาไหล ระรวยริน
วันนี้สิ้น เสียงน้ำ เซาะซัดทราย
พระพายเงียบสงัด ไม่พัดพลื้ว
ใบไม้ไม่ลอยลิ่ว ปลิวไสว
ไผ่ไม่เสียดสีลำ สำเนียงไพร
ดนตรีในพนาไม่บรรเลง
ภาวะโลกร้อน แล้งจริงหนอ
ไม้ผลห่อเหี่ยว เหลือใบ โหรงเหรง
น้ำสระ ระเหิดหาย ไปตามเพลง
สุดจะเร่ง ระดมปั๊ม น้ำให้มัน
ห่วงสวนเขา เราสวนป่า ธรรมชาติ
ทุนไม่ขาด กำไรอาจ ขาดไปนั่น
ทรัพย์ในดิน สิ้นปีเก็บ ออมใช้กัน
ปีเดือนวัน อัลนิโญ่ โผล่มาเยือน
กระท่อมน้อยสร้าง กลางบ่อเสี้ยงปลา
อดทนหน่อยหนา "ปลาแรด" เพื่อน
ปีนี้ขาดน้ำใส ถ่ายให้ ในหลายเดือน
ทนว่าย เดลื่อนไหว ในน้ำขุ่นตม
อ่าวอารมย์ ตรอมตรอม จิตใจหนัก
เพื่อนเก่า นักกวีการเมือง เคืองขื่นขม
เขาเข้าใจ อะไรผิดไป ฤๅระทม
ใช้ "อ่าวอารมย์เรา" ระบาย "อารมย์เขา"
11.11 น.
๏ ... กระท่อม กลางบ่อเลี้ยงปลาแรด ... ๏