สวัสดีค่ะ เราเป็นเด็กผู้หญิงคนนึงอายุ14สนิทกับแม่มากมีกันแค่2คน (แม่เราเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว) ตอนเด็กๆแม่เราต้องพาเราหนีขึ้นมาที่กรุงเทพ แฟนเก่าของแม่คอยจะทำร้าย เพราะแม่เรามีที่ดินทรัพย์สมบัติมากมาย เขาคิดว่าถ้าฆ่าแม่เราทุกอย่างก็จะตกอยู่ในมือของเขา จนในที่สุดแม่เราก็พยายามสู้คดีมากมายจนชนะมาได้ตอนนี้เราอยู่กับแม่2คน เรากับแม่สนิทกันมากรักกันตัวติดกันสุดๆ ตอนเราเด็กๆแม่ชอบเล่นกับเรา พูดกับเราเสมอว่า " แม่จะไม่มีใครอีกนอกจากหนู หนูคือดวงใจทั้งชีวิตของแม่ " มันคือสิ่งที่อบอุ่นกับเรามากๆ
จนโตมาชีวิตเดินมาเราอายุ14ปีทุกอย่างก็ดีมาตลอด จนแม่เราไปบวชชี1เดือน แล้วหลังจากบวชแม่เราก็เข้าคอร์สธรรมมะ แม่เราเองเป็นสายธรรมอยู่แล้ว เวลาผ่านไป แม่ก็เจอคน คนหนึ่ง ได้คุยได้เล่าอะไรหลายๆอย่างต่อกัน คนนั้นก็เป็นชายที่อายุเท่าๆกันกับแม่ เขาเองก็พ่อเลี้ยงเดี่ยวทั้งเขามีลูกชายเรียนมหาลัยอยู่ เขาทำงานเกี่ยวกับงานในสภาบลาๆ แม่เรากับเขาก็ดูถูกใจกัน แต่แม่เราก็คอยเล่าทุกอย่างให้เราฟังตลอดว่าเจอกันยังไงเป็นยังไงบ้าง รู้สึกดีรู้สึกมีที่ปรึกษา หัวใจชุ่มฉ่ำอะไรอย่างงี้ เขาก็มีบางครั้งขับรถมาแม่เรานั่งข้างๆแล้วมารับเราที่โรงเรียน วัยหยุดแม่เราก็ชอบชวนเขาไปเที่ยวกัน
เเรกๆเราก็อึดอัดเคยคุยกับแม่บ่อยๆ แม่ก็คำเดิมเลยค่ะ " มันไม่มีอะไร เพื่อนกันไม่ต้องคิดมาก แม่รู้ว่าแม่ทำอะไรอยู่ ถ้าแม่จะมีแฟนแม่จะขอคำอนุญาตจากลูกก่อน แต่ตอนนี้เป็นแค่เพื่อนกันอนาคตไม่รู้ " เราก็หลงกับคำของแม่ค่ะ
เราเคยพูดกับแม่ว่า แม่ทำอะไรที่มีความสุขแม่ทำเลยนะ ชีวิตคนเรามันมีครั้งเดียว ถ้าหนูโตไปหนูทำงานหนูไม่มีเวลาอยู่กับแม่ แม่จะเหงาแม่จะได้มีเพื่อนเที่ยว ( แต่ในความคิดเราคือเพื่อนจริงๆค่ะไม่หวังอยากให้เป็นแฟน เราดูเป็นลูกไม่ดีเลยTT )
รันมาเลยค่ะเค้าประเด็น
วันนี้เราทะเลาะกับแม่หนักมากๆ เหตุเกิดจากแม่เราไปคอร์สปฏิบัติธรรมะ ที่บุรีรัมย์ ซึ่ง เเม่เราไปกับเพื่อนคนนั้นไปกัน2คนขับรถไป เราก็ต้องสอบตั้งใจอ่านหนังสือเพราะอยู่ในช่วงสอบ แม่ไปเป็นเวลา4-5วันนี่แหละค่ะ กลับมาเราก็สอบวันสุดท้ายพอดี แม่กับเพื่อนเขาก็ขับรถมารับเราไปทานข้าวที่เซ็นทรัล พอเสร็จก็พาเรามาส่งที่บ้านค่ะ แต่แม่บอกกับเราว่า
" เอากระเป๋าแม่เข้าบ้านด้วยนะ เดี๋ยวแม่ออกไปทำธุระต่อกับเพื่อนไปคุยกัน " บลาๆๆ เราก็โอเคตกลงไม่คิดอะไร เพราะเขาก็คุยกันเรื่องธุรกิจนี่แหละ สักพัก30นาที แม่โทรมาค่ะ บอกว่า " แม่ขอกลับพรุ่งนี้นะลูก ถ้าขับรถกลับมันจะดึก เดี๋ยวคุณน้า(เพื่อนของแม่นั่นแหละค่ะ) เขาขับกลับไม่ไหว ไม่ต้องเป็นห่วงนะลูก พรุ่งนี้เช้าแม่กลับคงจะถึง7-8โมงเช้า เพราะตอนนี้อยู่ที่บางแสน " " เราก็เอะใจเป็นห่วงนิดหน่อยแต่ก็นอนไปค่ะ เราไม่ค่อยสบายด้วยเลยเพลียๆ "
เช้าวันถัดมา 7โมงก็แล้ว 8โมงก็แล้งแม่ยังไม่มา เราโทรหาก็ไม่รับ ก็รอไปสักพักช่วง12:00 แม่กลับมาถึงบ้านค่ะ แม่ซื้อของกินมาให้แต่ก็บอกว่า " เดี๋ยวแม่ออกไปข้างนอกต่อนะ ไปคุยต่อไรงี้ "
เราก็จ๋อยๆ ยังไม่ทันได้อยู่ด้วยกันเลย แต่ก็เข้าใจแม่กำลังจะมีงานใหญ่ที่จะได้ทำ
เราก็ถามแม่ว่าเมื่อคืนแม่นอนที่ไหน
แม่เราบอก " ก็นอนในรถนั่นแหละ " เราก็เงียบไป แต่ก็คิดๆอยู่ ไม่ทันไรแม่เราออกไปแล้ว เพราะเพื่อนเขาจอดรถรอแม่อยู่ ปึ้บๆๆผ่านไป เราก็แต่งตัวอาบน้ำ เพราะเรามีนัดกับรุ่นพี่ว่าจะออกไปดู ออเคสตร้าที่สามย่านค่ะ ( แต่เราขอแม่เรียบร้อยแล้วนะคะ )
จนเราถึงสามย่านเราส่งรูปบอกแม่ว่าถึงแล้ว สักพักแม่โทรมาบอก แม่จะกลับบ้านน้า แต่กลับไปไม่เจอลูก แม่ ขอออกไปเที่ยวต่อกับเพื่อนน้า อยู่บ้านไม่มีลูกมันเหงา เราก็โอเคเพราะคิดว่าเดี๋ยวแม่กลับแน่นอน เราคิดถึงแม่มากกกก
สักพักชั่งโมงนึง เราโทรหาแม่ เราถามว่ามารับเราได้ไหม แม่ก็ตอบแบบอารมณ์ฉุนเฉียวรำคาญ ว่าแบบ แม่จะไปรับลูกได้ยังไง รถติดอยู่กันก็คนละที่ เราเลย เฟลๆนิดนึง ตอบว่าโอเคค่ะ ไม่เป็นไร นั่งกินชาบูกับพี่จ๋อยเลยค่ะแหะๆ
สักพั้กกกก แม่โทรมาเหมือนอารมณ์เย็นลงมาก็แบบ พูดคำเดิมเลยค่ะ แต่แค่เป็นคำพูดที่อารมณ์ดีพูดด้วยดีๆ เราก็ที่เฟลก็โอเค แล้วก็วางสายไป
ช่วง18:30 เราก็รอรถเมล์ขึ้นกลับบ้านค่ะ ระหว่างนั้นเรายืนเกาะราวอยู่บนรถเมล์ อยู่ๆเราก็เฟลที่แม่ตะคอกใส่ เราก็ร้องไห้ออกมาเลยค่ะ จนถึงบ้านเราอาบน้ำ รอแม่กลับมา 21:00ก็ปล้วแม่ยังไม่กลับเร่ก็คิดว่ารอซัก 23:00 แม่ก็ยังไม่กลับยังไม่เคาะประตู เปิดไลน์แม่ก็บอกว่าแม่แบตจะหมดอาจจะไม่ได้ตอบนะ เราก็รอ จนเราหลับ ร้องไห้ไปทั้งคืนเราคิดมากกับทุกๆอย่าง ตื่นมาอีกที่ตี2 ยังไม่มีวี่แววเรานั่งรอจนถึง ตี3 ก็หลับไป ช่วง7โมงเราได้ยินแม่เคาะประตู ด้วยความเฟล รู้สึกไม่ดีก็เปิดให้นั่นแหละค่ะ
จนแม่เรียกกินข้าวเราก็มานั่งปกติแม่เดินมาพร้อมเอาผลไม้มาให้ เราถามว่าเมื่อคืนไปไหน แม่เราบอกว่า " แม่ยอมรับก็ได้ว่าแม่ไปเที่ยวผับกับเพื่อน แต่แม่ไม่ได้ดื่ม แม่อยากรู้ว่าวัยรุ่นเที่ยวกันยังไงเดี๋ยวนี้ " กว่าแม่จะออกจากผับได้ก็ ตี 2 เลยขับรถมาแถวบ้าน ก็จอดนอนกันในรถเหมือนเดิม
เราในตอนนั้น ยอมรับว่ารู้สึกไม่ดีมากๆๆๆๆ รีบวิ่งเข้าห้อง แม่ก็บอกว่าไม่มีอะไร นอกจากแค่จับมือแล้วก็กอดกัน แค่นั้น แล้วก็นอนไป
เราก็ทะเลาะอยู่นานเลยค่ะ
หลังจากนั้นแม่เราก็ซักผ้า เราเองที่อยู่ในห้องเเม่ก็เอาโทรศัพท์มาชาร์จไว้ในห้อง
เราเกิดคิดอะไรก็ไม่รู้เราหยิบโทรศัพท์มาดูเครื่องนึงที่แม่ไม่ได้เปลี่ยนรหัส ไปดูไลน์ที่เขาคุยกันมันก็ไม่มีอะไร เราก็ไม่คิดอะไรมาก
จนสักแป้บ โทรศัพท์สั่นแจ้งเตือนข้อความ ซึ่งเครื่องนั้นแม่ใช้เป็นหลักและเราไม่รู้รหัส
เราเห็นเเชทขึ้นว่า "คืนดีกับลูกคุยกันรึยังครับที่รัก"
เราก็สับสนและเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยค่ะ เดินไปหาแม่ พร้อมถามว่ามีอะไรที่ไม่ได้บอกหนูรึป่าว หนูจะร้องไห้แล้วนะ
ก็เล่าว่าเห็นแชท งี้ๆ แม่ก็บอก " เพื่อนกันลูก ไม่คิดอะไร เขาก็เรียกไปอย่างงั้นแหละ "
ทะเลาะกันอีกรอบ..
เราก็ยังซึมๆอึ้งๆเฟลๆ บวกกับคำพูดที่แม่พูดใส่เรารู้สึก เปลี่ยนไป ..
ขอคำแนะนำทีค่ะเรารู้ว่าเราคงผิดที่เรายอมรับไม่ได้ แต่ทำไมไม่บอกกัน ทำไมถึงอยากมีเขา คำสัญญาที่แม่ให้ ไม่เคยมีผลเลยจนวันนี้
คำที่แม่พูดที่ยังติดใจคือ แม่บอกว่าเขาคนนั้นก็เป็นซึมเศร้า แม่ไม่อยากทำร้ายเขา ว่าโยงถึงทุกอย่าง แม่เราเปลี่ยนไปมากๆหลายๆการกระทำ เวลาอยู่กับเราดูพูดจาใส่อารมณ์มากๆ แต่เวลาอยู่สามคน ดูเป็นอีกคน เราดูยังงงๆ เพราะมันเหมือนไม่ใช่
แล้วการที่เขาอยู่กันสองต่อสองแตะเนื้อต้องตัวคือสิ่งที่เราอธิบายไม่ถูก
ขอบคุณค่ะ
แม่กำลังมีความรัก
จนโตมาชีวิตเดินมาเราอายุ14ปีทุกอย่างก็ดีมาตลอด จนแม่เราไปบวชชี1เดือน แล้วหลังจากบวชแม่เราก็เข้าคอร์สธรรมมะ แม่เราเองเป็นสายธรรมอยู่แล้ว เวลาผ่านไป แม่ก็เจอคน คนหนึ่ง ได้คุยได้เล่าอะไรหลายๆอย่างต่อกัน คนนั้นก็เป็นชายที่อายุเท่าๆกันกับแม่ เขาเองก็พ่อเลี้ยงเดี่ยวทั้งเขามีลูกชายเรียนมหาลัยอยู่ เขาทำงานเกี่ยวกับงานในสภาบลาๆ แม่เรากับเขาก็ดูถูกใจกัน แต่แม่เราก็คอยเล่าทุกอย่างให้เราฟังตลอดว่าเจอกันยังไงเป็นยังไงบ้าง รู้สึกดีรู้สึกมีที่ปรึกษา หัวใจชุ่มฉ่ำอะไรอย่างงี้ เขาก็มีบางครั้งขับรถมาแม่เรานั่งข้างๆแล้วมารับเราที่โรงเรียน วัยหยุดแม่เราก็ชอบชวนเขาไปเที่ยวกัน
เเรกๆเราก็อึดอัดเคยคุยกับแม่บ่อยๆ แม่ก็คำเดิมเลยค่ะ " มันไม่มีอะไร เพื่อนกันไม่ต้องคิดมาก แม่รู้ว่าแม่ทำอะไรอยู่ ถ้าแม่จะมีแฟนแม่จะขอคำอนุญาตจากลูกก่อน แต่ตอนนี้เป็นแค่เพื่อนกันอนาคตไม่รู้ " เราก็หลงกับคำของแม่ค่ะ
เราเคยพูดกับแม่ว่า แม่ทำอะไรที่มีความสุขแม่ทำเลยนะ ชีวิตคนเรามันมีครั้งเดียว ถ้าหนูโตไปหนูทำงานหนูไม่มีเวลาอยู่กับแม่ แม่จะเหงาแม่จะได้มีเพื่อนเที่ยว ( แต่ในความคิดเราคือเพื่อนจริงๆค่ะไม่หวังอยากให้เป็นแฟน เราดูเป็นลูกไม่ดีเลยTT )
รันมาเลยค่ะเค้าประเด็น
วันนี้เราทะเลาะกับแม่หนักมากๆ เหตุเกิดจากแม่เราไปคอร์สปฏิบัติธรรมะ ที่บุรีรัมย์ ซึ่ง เเม่เราไปกับเพื่อนคนนั้นไปกัน2คนขับรถไป เราก็ต้องสอบตั้งใจอ่านหนังสือเพราะอยู่ในช่วงสอบ แม่ไปเป็นเวลา4-5วันนี่แหละค่ะ กลับมาเราก็สอบวันสุดท้ายพอดี แม่กับเพื่อนเขาก็ขับรถมารับเราไปทานข้าวที่เซ็นทรัล พอเสร็จก็พาเรามาส่งที่บ้านค่ะ แต่แม่บอกกับเราว่า
" เอากระเป๋าแม่เข้าบ้านด้วยนะ เดี๋ยวแม่ออกไปทำธุระต่อกับเพื่อนไปคุยกัน " บลาๆๆ เราก็โอเคตกลงไม่คิดอะไร เพราะเขาก็คุยกันเรื่องธุรกิจนี่แหละ สักพัก30นาที แม่โทรมาค่ะ บอกว่า " แม่ขอกลับพรุ่งนี้นะลูก ถ้าขับรถกลับมันจะดึก เดี๋ยวคุณน้า(เพื่อนของแม่นั่นแหละค่ะ) เขาขับกลับไม่ไหว ไม่ต้องเป็นห่วงนะลูก พรุ่งนี้เช้าแม่กลับคงจะถึง7-8โมงเช้า เพราะตอนนี้อยู่ที่บางแสน " " เราก็เอะใจเป็นห่วงนิดหน่อยแต่ก็นอนไปค่ะ เราไม่ค่อยสบายด้วยเลยเพลียๆ "
เช้าวันถัดมา 7โมงก็แล้ว 8โมงก็แล้งแม่ยังไม่มา เราโทรหาก็ไม่รับ ก็รอไปสักพักช่วง12:00 แม่กลับมาถึงบ้านค่ะ แม่ซื้อของกินมาให้แต่ก็บอกว่า " เดี๋ยวแม่ออกไปข้างนอกต่อนะ ไปคุยต่อไรงี้ "
เราก็จ๋อยๆ ยังไม่ทันได้อยู่ด้วยกันเลย แต่ก็เข้าใจแม่กำลังจะมีงานใหญ่ที่จะได้ทำ
เราก็ถามแม่ว่าเมื่อคืนแม่นอนที่ไหน
แม่เราบอก " ก็นอนในรถนั่นแหละ " เราก็เงียบไป แต่ก็คิดๆอยู่ ไม่ทันไรแม่เราออกไปแล้ว เพราะเพื่อนเขาจอดรถรอแม่อยู่ ปึ้บๆๆผ่านไป เราก็แต่งตัวอาบน้ำ เพราะเรามีนัดกับรุ่นพี่ว่าจะออกไปดู ออเคสตร้าที่สามย่านค่ะ ( แต่เราขอแม่เรียบร้อยแล้วนะคะ )
จนเราถึงสามย่านเราส่งรูปบอกแม่ว่าถึงแล้ว สักพักแม่โทรมาบอก แม่จะกลับบ้านน้า แต่กลับไปไม่เจอลูก แม่ ขอออกไปเที่ยวต่อกับเพื่อนน้า อยู่บ้านไม่มีลูกมันเหงา เราก็โอเคเพราะคิดว่าเดี๋ยวแม่กลับแน่นอน เราคิดถึงแม่มากกกก
สักพักชั่งโมงนึง เราโทรหาแม่ เราถามว่ามารับเราได้ไหม แม่ก็ตอบแบบอารมณ์ฉุนเฉียวรำคาญ ว่าแบบ แม่จะไปรับลูกได้ยังไง รถติดอยู่กันก็คนละที่ เราเลย เฟลๆนิดนึง ตอบว่าโอเคค่ะ ไม่เป็นไร นั่งกินชาบูกับพี่จ๋อยเลยค่ะแหะๆ
สักพั้กกกก แม่โทรมาเหมือนอารมณ์เย็นลงมาก็แบบ พูดคำเดิมเลยค่ะ แต่แค่เป็นคำพูดที่อารมณ์ดีพูดด้วยดีๆ เราก็ที่เฟลก็โอเค แล้วก็วางสายไป
ช่วง18:30 เราก็รอรถเมล์ขึ้นกลับบ้านค่ะ ระหว่างนั้นเรายืนเกาะราวอยู่บนรถเมล์ อยู่ๆเราก็เฟลที่แม่ตะคอกใส่ เราก็ร้องไห้ออกมาเลยค่ะ จนถึงบ้านเราอาบน้ำ รอแม่กลับมา 21:00ก็ปล้วแม่ยังไม่กลับเร่ก็คิดว่ารอซัก 23:00 แม่ก็ยังไม่กลับยังไม่เคาะประตู เปิดไลน์แม่ก็บอกว่าแม่แบตจะหมดอาจจะไม่ได้ตอบนะ เราก็รอ จนเราหลับ ร้องไห้ไปทั้งคืนเราคิดมากกับทุกๆอย่าง ตื่นมาอีกที่ตี2 ยังไม่มีวี่แววเรานั่งรอจนถึง ตี3 ก็หลับไป ช่วง7โมงเราได้ยินแม่เคาะประตู ด้วยความเฟล รู้สึกไม่ดีก็เปิดให้นั่นแหละค่ะ
จนแม่เรียกกินข้าวเราก็มานั่งปกติแม่เดินมาพร้อมเอาผลไม้มาให้ เราถามว่าเมื่อคืนไปไหน แม่เราบอกว่า " แม่ยอมรับก็ได้ว่าแม่ไปเที่ยวผับกับเพื่อน แต่แม่ไม่ได้ดื่ม แม่อยากรู้ว่าวัยรุ่นเที่ยวกันยังไงเดี๋ยวนี้ " กว่าแม่จะออกจากผับได้ก็ ตี 2 เลยขับรถมาแถวบ้าน ก็จอดนอนกันในรถเหมือนเดิม
เราในตอนนั้น ยอมรับว่ารู้สึกไม่ดีมากๆๆๆๆ รีบวิ่งเข้าห้อง แม่ก็บอกว่าไม่มีอะไร นอกจากแค่จับมือแล้วก็กอดกัน แค่นั้น แล้วก็นอนไป
เราก็ทะเลาะอยู่นานเลยค่ะ
หลังจากนั้นแม่เราก็ซักผ้า เราเองที่อยู่ในห้องเเม่ก็เอาโทรศัพท์มาชาร์จไว้ในห้อง
เราเกิดคิดอะไรก็ไม่รู้เราหยิบโทรศัพท์มาดูเครื่องนึงที่แม่ไม่ได้เปลี่ยนรหัส ไปดูไลน์ที่เขาคุยกันมันก็ไม่มีอะไร เราก็ไม่คิดอะไรมาก
จนสักแป้บ โทรศัพท์สั่นแจ้งเตือนข้อความ ซึ่งเครื่องนั้นแม่ใช้เป็นหลักและเราไม่รู้รหัส
เราเห็นเเชทขึ้นว่า "คืนดีกับลูกคุยกันรึยังครับที่รัก"
เราก็สับสนและเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยค่ะ เดินไปหาแม่ พร้อมถามว่ามีอะไรที่ไม่ได้บอกหนูรึป่าว หนูจะร้องไห้แล้วนะ
ก็เล่าว่าเห็นแชท งี้ๆ แม่ก็บอก " เพื่อนกันลูก ไม่คิดอะไร เขาก็เรียกไปอย่างงั้นแหละ "
ทะเลาะกันอีกรอบ..
เราก็ยังซึมๆอึ้งๆเฟลๆ บวกกับคำพูดที่แม่พูดใส่เรารู้สึก เปลี่ยนไป ..
ขอคำแนะนำทีค่ะเรารู้ว่าเราคงผิดที่เรายอมรับไม่ได้ แต่ทำไมไม่บอกกัน ทำไมถึงอยากมีเขา คำสัญญาที่แม่ให้ ไม่เคยมีผลเลยจนวันนี้
คำที่แม่พูดที่ยังติดใจคือ แม่บอกว่าเขาคนนั้นก็เป็นซึมเศร้า แม่ไม่อยากทำร้ายเขา ว่าโยงถึงทุกอย่าง แม่เราเปลี่ยนไปมากๆหลายๆการกระทำ เวลาอยู่กับเราดูพูดจาใส่อารมณ์มากๆ แต่เวลาอยู่สามคน ดูเป็นอีกคน เราดูยังงงๆ เพราะมันเหมือนไม่ใช่
แล้วการที่เขาอยู่กันสองต่อสองแตะเนื้อต้องตัวคือสิ่งที่เราอธิบายไม่ถูก
ขอบคุณค่ะ